ทำเนียบรัฐบาล--22 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการขอยกเว้นให้สถาบันการเงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง กฎ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจทั่วไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน การที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าถือหุ้นในระบบสถาบันการเงินเกินกว่าร้อยละ 50 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการรักษาความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน และรักษาเสถียรภาพของระบบการชำระเงินของไทยให้เป็นที่น่าเชื่อถือ โดยไม่มีเจตนารมณ์จะถือหุ้นของสถาบันการเงินดังกล่าวเป็นการถาวรในระยะยาว และจะพิจารณาจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นดังกล่าวในเวลาที่เหมาะสม ดังนั้น จึงเห็นสมควรให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504 โดยให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ พิจารณาดำเนินการจำหน่ายหุ้นของสถาบันการเงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ถือหุ้นอยู่นั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และให้รายงานกระทรวงการคลังเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบทุกครั้ง
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจเนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซง โดยที่สถาบันการเงินดังกล่าวเป็นรัฐวิสาหกิจโดยนิติเหตุ ไม่มีวัตถุประสงค์แรกเริ่มที่จะให้เป็นรัฐวิสาหกิจ ประกอบกับสถาบันการเงินดังกล่าว มีการบริหารและการจัดการตามระบบเอกชนมาก่อน และต้องปฏิบัติตามระเบียบและหลักเกณฑ์ของธนาคาร จึงเห็นสมควรดังนี้
(1) ให้สถาบันการเงินดังกล่าวได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ ในเรื่อง เงินเดือน สวัสดิการ และผลประโยชน์ค่าตอบแทนของพนักงาน โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และหรือเงื่อนไขในการจ้างเดิมของสถาบันการเงินนั้น สำหรับสถาบันการเงินที่ต้องควบรวมกิจการกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้คณะกรรมการธนาคารกรุงไทยฯ เป็นผู้พิจารณาเรื่องดังกล่าวตามความเหมาะสม
ส่วนการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนของกรรมการในสถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจดังกล่าว ให้ยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังและคณะรัฐมนตรีกำหนดและให้รายงานอัตราการจ่ายฯ ให้กระทรวงการคลังทราบ
(2) ให้สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซง ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504 เนื่องจากการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่สถาบันการเงินนั้นเป็นเจ้าของนั้น ถือเป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติของสถาบันการเงินอยู่แล้ว ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับที่กระทรวงการคลังได้ยกเว้นให้ธนาคารกรุงไทยฯ
(3) ให้สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจเนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซง ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 6202/ว.156 ลงวันที่ 19 กันยายน 2534 ในส่วนที่เกี่ยวกับการจำหน่ายทรัพย์สินและหนี้สูญออกจากบัญชีของรัฐวิสาหกิจ โดยเห็นสมควรให้สถาบันการเงินดังกล่าว ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และให้รายงานผลให้กระทรวงการคลังทราบตามความจำเป็นทุก ๆ 3 เดือน ทั้งนี้เนื่องจาก ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ได้กำหนดว่า ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจที่มิได้มีกฎหมายจัดตั้ง จำหน่ายหนี้สูญออกจากบัญชีลูกหนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญออกจากบัญชีลูกหนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่ว รัฐวิสาหกิจจะต้องดำเนินการติดตามทวงถามฟ้องร้องหนี้จนถึงที่สุดแล้ว ปรากฏว่าไม่มีตัวลูกหนี้ หรือลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ (หรือฟ้องล้มละลาย) จึงจะตัดหนี้สูญออกจากบัญชีลูกหนี้ได้ วิธีการปฏิบัติดังกล่าว จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การควบรวมกิจการ และการประนอมหนี้ตามนโยบายของรัฐบาล และการจูงใจให้สถาบันการเงินเข้าโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ตามแผนฟื้นฟูระบบสถาบันการเงิน
สำหรับกฎหมายที่เป็นพระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนด เช่น พระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไข และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 เป็นต้น ไม่สามารถยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีได้ สำหรับเรื่องที่สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซงจำเป็นต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด คือ
(1) ให้มีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชี ตามพระราชบัญญัติการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2522 และระเบียบว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2520 ข้อ 19
(2) ให้มีผู้แทนกระทรวงการคลังซึ่งเป็นข้าราชการประจำร่วมเป็นกรรมการอยู่ในคณะกรรมการ ตามระเบียบว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2520 ข้อ 28
(3) ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการตรวจสอบภายในของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2538
ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัตินับตั้งแต่วันที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซงจนเป็นรัฐวิสาหกิจ และให้ถือเป็นหลักการสำหรับสถาบันการเงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จะเข้าแทรกแซงจนเป็นรัฐวิสาหกิจในภายหลังด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 22 กันยายน 2541--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการขอยกเว้นให้สถาบันการเงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง กฎ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจทั่วไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน การที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าถือหุ้นในระบบสถาบันการเงินเกินกว่าร้อยละ 50 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการรักษาความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน และรักษาเสถียรภาพของระบบการชำระเงินของไทยให้เป็นที่น่าเชื่อถือ โดยไม่มีเจตนารมณ์จะถือหุ้นของสถาบันการเงินดังกล่าวเป็นการถาวรในระยะยาว และจะพิจารณาจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นดังกล่าวในเวลาที่เหมาะสม ดังนั้น จึงเห็นสมควรให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504 โดยให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ พิจารณาดำเนินการจำหน่ายหุ้นของสถาบันการเงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ถือหุ้นอยู่นั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และให้รายงานกระทรวงการคลังเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบทุกครั้ง
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจเนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซง โดยที่สถาบันการเงินดังกล่าวเป็นรัฐวิสาหกิจโดยนิติเหตุ ไม่มีวัตถุประสงค์แรกเริ่มที่จะให้เป็นรัฐวิสาหกิจ ประกอบกับสถาบันการเงินดังกล่าว มีการบริหารและการจัดการตามระบบเอกชนมาก่อน และต้องปฏิบัติตามระเบียบและหลักเกณฑ์ของธนาคาร จึงเห็นสมควรดังนี้
(1) ให้สถาบันการเงินดังกล่าวได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ ในเรื่อง เงินเดือน สวัสดิการ และผลประโยชน์ค่าตอบแทนของพนักงาน โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และหรือเงื่อนไขในการจ้างเดิมของสถาบันการเงินนั้น สำหรับสถาบันการเงินที่ต้องควบรวมกิจการกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้คณะกรรมการธนาคารกรุงไทยฯ เป็นผู้พิจารณาเรื่องดังกล่าวตามความเหมาะสม
ส่วนการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนของกรรมการในสถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจดังกล่าว ให้ยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังและคณะรัฐมนตรีกำหนดและให้รายงานอัตราการจ่ายฯ ให้กระทรวงการคลังทราบ
(2) ให้สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซง ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504 เนื่องจากการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่สถาบันการเงินนั้นเป็นเจ้าของนั้น ถือเป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติของสถาบันการเงินอยู่แล้ว ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับที่กระทรวงการคลังได้ยกเว้นให้ธนาคารกรุงไทยฯ
(3) ให้สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจเนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซง ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 6202/ว.156 ลงวันที่ 19 กันยายน 2534 ในส่วนที่เกี่ยวกับการจำหน่ายทรัพย์สินและหนี้สูญออกจากบัญชีของรัฐวิสาหกิจ โดยเห็นสมควรให้สถาบันการเงินดังกล่าว ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และให้รายงานผลให้กระทรวงการคลังทราบตามความจำเป็นทุก ๆ 3 เดือน ทั้งนี้เนื่องจาก ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ได้กำหนดว่า ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจที่มิได้มีกฎหมายจัดตั้ง จำหน่ายหนี้สูญออกจากบัญชีลูกหนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญออกจากบัญชีลูกหนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่ว รัฐวิสาหกิจจะต้องดำเนินการติดตามทวงถามฟ้องร้องหนี้จนถึงที่สุดแล้ว ปรากฏว่าไม่มีตัวลูกหนี้ หรือลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ (หรือฟ้องล้มละลาย) จึงจะตัดหนี้สูญออกจากบัญชีลูกหนี้ได้ วิธีการปฏิบัติดังกล่าว จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การควบรวมกิจการ และการประนอมหนี้ตามนโยบายของรัฐบาล และการจูงใจให้สถาบันการเงินเข้าโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ตามแผนฟื้นฟูระบบสถาบันการเงิน
สำหรับกฎหมายที่เป็นพระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนด เช่น พระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไข และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 เป็นต้น ไม่สามารถยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีได้ สำหรับเรื่องที่สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซงจำเป็นต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด คือ
(1) ให้มีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชี ตามพระราชบัญญัติการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2522 และระเบียบว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2520 ข้อ 19
(2) ให้มีผู้แทนกระทรวงการคลังซึ่งเป็นข้าราชการประจำร่วมเป็นกรรมการอยู่ในคณะกรรมการ ตามระเบียบว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2520 ข้อ 28
(3) ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการตรวจสอบภายในของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2538
ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัตินับตั้งแต่วันที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เข้าแทรกแซงจนเป็นรัฐวิสาหกิจ และให้ถือเป็นหลักการสำหรับสถาบันการเงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จะเข้าแทรกแซงจนเป็นรัฐวิสาหกิจในภายหลังด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 22 กันยายน 2541--