มติคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ครั้งที่ 7/2556

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 3, 2013 17:42 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ครั้งที่ 7/2556 ตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการฯ เสนอ และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติต่อไป

ทั้งนี้ การผ่อนผันขยายระยะเวลาการก่อหนี้และการปรับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 ของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 27 หน่วยงานให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

สาระสำคัญของมติคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 7/2556 มีดังนี้

1. มาตราการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ดังนี้

  • เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และปีงบประมาณก่อนหน้าให้เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ให้สามารถเบิกจ่ายอย่างมีนัยสำคัญได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 โดยเฉพาะในส่วนของรายจ่ายประจำที่ก่อหนี้ผูกพันแล้ว
  • เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายภาพรวม

1) เป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 82.00 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนของแต่ละหน่วยงาน

2) เป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมไม่น้อยกว่า ร้อยละ 95.00 ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย 2,525,00.00 ล้านบาท

3) ให้เร่งรัดการก่อหนี้รายจ่ายลงทุนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557

4) ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินรางวัลของข้าราชการและลูกจ้างประจำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ให้สามารถเบิกจ่ายได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2557

5) ให้เร่งรัดการฝึกอบรม ประชุมสัมมนา และเบิกจ่ายงบอบรมและประชุมสัมมนาในประเทศให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร โดยให้จัดสัมมนากระจายไปตามจังหวัด ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีศักยภาพพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต ภายในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2557

6) ให้นำผลการเบิกจ่ายเงินตามเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีกำหนดเป็นตัวชี้วัดในคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557

7) ในส่วนราชการ และจังหวัดทำแผนการใช้จ่ายเงินและติดตามประเมินผล เพื่อตรวจสอบผลการปฏิบัติงาน หากไม่เป็นไปตามแผนการใช้จ่ายเงินที่ได้ทำไว้ให้ปรับปรุงแผนการใช้จ่ายเงินให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในระบบ GFMIS พร้อมทั้งระบุสาเหตุที่ปรับปรุงแผนการใช้จ่ายเงิน โดยให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557

8) การเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงิน

8.1 ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามและกำกับดูแลหน่วยงานในสังกัดให้ปฏิบัติตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินโดยเคร่งครัด

8.2 ในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานในการเร่งรัดการใช้จ่ายเงินในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 พร้อมทั้งรายงานปัญหาอุปสรรคจากการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามแผน หรือการปรับแผนต่อคณะกรรมการหรือคณะทำงานในการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐทุกสิ้นไตรมาส

8.3 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายให้คลังจังหวัดทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการหรือคณะทำงานในการเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณในเขตพื้นที่จังหวัดของแต่ละจังหวัด โดยให้สำนักงบประมาณรวบรวมข้อมูลงบประมาณ ตามมิติส่วนราชการ (Function) และมิติพื้นที่ (Area) เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามเร่งรัดการโอนเงินงบประมาณที่ต้องดำเนินการในเขตพื้นที่จังหวัดของแต่ละจังหวัด

8.4 ให้คณะทำงานติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐของกรมบัญชีกลางลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบติดตามหน่วยงานที่มีการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินล่าช้า เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ

9) ให้กรมบัญชีกลางร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 และรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจทุกแหล่งเงิน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นรายไตรมาส

  • เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลการก่อหนี้และการเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และปีงบประมาณก่อนหน้าเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จากระบบ GFMIS ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558

2. ผ่อนผันขยายระยะเวลาการก่อหนี้และการปรับแผนปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ของหน่วยงาน จำนวน 27 หน่วยงาน จำนวนเงิน 22,511.49 ล้านบาท โดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพฯ และไม่สามารถก่อหนี้ได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2556 ต้องตกลงกับกระทรวงการคลังขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ด้วย สำหรับหน่วยงานที่เหลือที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดยังไม่ได้ลงนาม ให้หน่วยงานเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2556 เพื่อเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาในครั้งต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 กันยายน 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ