(The 12th Asia Pacific Orchid Conference 2006 : APOC 2016)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการโครงการประชุมวิชาการกล้วยไม้เอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 12 (The 12th Asia Pacific Orchid Conference 2006 : APOC 2016) ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี พ.ศ. 2559
2. มอบหมายให้ กษ. (กรมวิชาการเกษตร) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการจัดงานโครงการประชุมวิชาการกล้วยไม้เอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 12
3. มอบหมายให้ กษ. พิจารณารายละเอียดงบประมาณและสถานที่การจัดงานและเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในครั้งต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
กษ. เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาว่า
1. การประชุมวิชาการกล้วยไม้เอเชียแปซิฟิก (APOC) ริเริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1984) โดย ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มขณะนั้น จุดประสงค์เพื่อมุ่งหวังให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่ออนุรักษ์และพัฒนากล้วยไม้ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยเริ่มครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1984) ที่ประเทศญี่ปุ่น และจะมีการจัดการประชุมขึ้นทุก ๆ 3 ปี ประเทศสมาชิกจะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยได้จัดการประชุมวิชาการกล้วยไม้การจัดแสดงงบและการประกวดกล้วยไม้ รวมทั้งการจำหน่ายสินค้ากล้วยไม้ ซึ่งประเทศสมาชิก APOC ประกอบด้วย ญี่ปุ่น ไทย มาเลเซีย สหภาพเมียนมาร์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ไต้หวัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
2. ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการนำเสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมสัมมนากล้วยไม้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 12 ในปี พ.ศ. 2559 มีดังนี้
2.1 จะเป็นประโยชน์ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรกล้วยไม้เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาวงการกล้วยไม้ในกลุ่มประเทศสมาชิกและนานาประเทศตามวัตถุประสงค์ของ APOC
2.2 จะเป็นโอกาสของประเทศไทยในการนำเสนอบทบาทด้านกล้วยไม้สู่นานาชาติ มีความหลากหลายของพันธุกรรมกล้วยไม้กว่า 1,000 ชนิด จากทั่วโลกมี 25,000 ชนิด นักกล้วยไม้ไทยมีทักษะในการสร้างลูกผสมใหม่ ๆ กว่า 1,000 สายพันธุ์สู่การอนุรักษ์และการพัฒนา
2.3 กรมวิชาการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านงานวิจัยและพัฒนากล้วยไม้ของ กษ. ดังนั้น จะทำให้มีการเสริมสร้างความเข้มแข็งและความร่วมมือทางด้านวิชาการ เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกันในกลุ่มประเทศสมาชิก
2.4 เพื่อแสดงถึงศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศไทยทั้งด้านการผลิตและการตลาด และเป็นการสนับสนุนด้านการส่งออกกลุ่มสินค้ากล้วยไม้ไปสู่ตลาดโลก ทั้งนี้ ไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกเขตร้อนรายใหญ่ของโลก รวมทั้งเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีกับกลุ่มประเทศสมาชิกและประเทศคู่ค้า
2.5 เป็นการประชาสัมพันธ์ภาพพจน์ของประเทศไทย ซึ่งไม่เฉพาะด้านกล้วยไม้เท่านั้น ยังรวมถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ด้านศิลปวัฒนธรรม และด้านการศึกษาทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 กันยายน 2556--จบ--