1. การขออนุมัติเปิดที่ทำการสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสแห่งใหม่ประจำจังหวัดภูเก็ต และขอแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสคนใหม่ประจำจังหวัดภูเก็ต
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐบาลสาธารณรัฐฝรั่งเศสเสนอเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำจังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต และแต่งตั้ง นายโกลด เมโกร เดอ ครีเซ (Mr. Claude Maigrot de Crissey) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำจังหวัดภูเก็ต สืบแทน นายลูเซียง โรดรีเกซ (Mr. Lucien Rodriguez) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
2. ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองต้าเหลียน และที่กำหนดเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2548 ซึ่งอนุมัติการเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง เป็น การเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง แทน โดยให้มีเขตกงสุลครอบคลุมมณฑลเหลียวหนิง จี๋หลิน และเฮย์หลงเจียง
2. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2549 ซึ่งกำหนดให้สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว มีเขตกงสุลครอบคลุม 2 มณฑล คือ มณฑลชานตงและเหอหนาน เป็น ให้สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว มีเขตกงสุลครอบคลุมมณฑลชานตง เพียงมณฑลเดียว
3. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 246/2556 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 246/2556 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา
ตามที่ได้เกิดปัญหาสถานการณ์ราคายางพารามีความผันผวนทำให้เกษตรกรชาวสวนยางได้รับความเดือดร้อน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางผ่านกลไกต่าง ๆ ตามกฎหมายโดยตลอดมา ซึ่งผู้เกี่ยวข้องบางฝ่ายเห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาแต่ผู้เกี่ยวข้องบางฝ่ายยังมีความเห็นไม่ตรงกัน และมีข้อเรียกร้องเป็นอย่างอื่น ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ จึงเห็นควรให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้มาเจรจาร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเสถียรภาพราคายางพาราได้อย่างยั่งยืน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
1. องค์ประกอบ ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก) เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายวราเทพ รัตนากร) ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน อธิบดีกรมป่าไม้ โดยมี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (พลตำรวจตรี ธวัช บุญเฟื่อง) เป็นกรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์) เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง คัดเลือกตัวแทนผู้เกี่ยวข้องกับกิจการยางพาราทุกภาคส่วน ได้แก่ เกษตรกรชาวสวนยางและผู้กรีดยาง ผู้ประกอบธุรกิจยางพารา ผู้ส่งออก และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อเชิญมาร่วมดำเนินการกับคณะกรรมการ
2. อำนาจหน้าที่
1. พิจารณาสภาพปัญหาเกี่ยวกับราคายางพาราและความเดือดร้อนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการยางพารา และหารือร่วมกันกับตัวแทนผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการยางพาราทุกภาคส่วน เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายและสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยให้กิจการยางพารามีเสถียรภาพ แล้วเสนอแนะข้อคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาต่อคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) และคณะรัฐมนตรีต่อไป
2. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของคณะกรรมการได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
3. เชิญส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และบุคคลที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมให้ข้อมูล และแสดงความคิดเห็น หรือจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ
4. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
3. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสนับสนุนงบประมาณและการดำเนินการอื่นในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ และประสานงานกับหน่วยงานอื่นของรัฐในการช่วยเหลือการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2556 เป็นต้นไป
4. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. นางชุตินาฏ วงศ์สุบรรณ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
2. นางนิตยา กมลวัทนนิศา ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
5. การแต่งตั้งรองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นักบริหารสูง) (สำนักนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวขนิษฐา สุดกังวาล ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
6. แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
1. แต่งตั้ง นางรัชนี สุดจิตร์ รองผู้อำนวยการสำนักงาน (นักบริหาร) สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
2. แต่งตั้ง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ รองอธิบดี (นักบริหาร) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
3. แต่งตั้ง นายวิทัศน์ เตชะบุญ รองอธิบดี (นักบริหาร) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
7. ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (กระทรวงยุติธรรม)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2552 จะครบกำหนด 4 ปี ในวันที่ 18 ตุลาคม 2556 ต่อไปอีก 1 ปี ครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2557 ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
8. ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ในวันที่ 7 กันยายน 2556 คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ จำนวน 5 ราย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ 1. พลตำรวจโท ฉลอง สนใจ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย 2. นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข 3. นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 4. นายวิสา คัญทัพ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน 5. นางฉวีวรรณ คลังแสง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 กันยายน 2556--จบ--