ทำเนียบรัฐบาล--18 ม.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการตอบโต้ของกระทรวงการต่างประเทศต่อข้อกล่าวหาของรัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่งพาดพงถึงประเทศไทยว่า รัฐบาลไทยต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการที่คนชาติออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และอังกฤษ ถูกสังหาร เพราะยังมีเจ้าหน้าที่และคนไทยบางกลุ่มให้การสนับสนุนเขมรแดง สรุปได้ดังนี้
1. กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวตอบโต้เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2537 โดยยืนยันว่ารัฐบาลไทยมีนโยบายให้การรับรองรัฐบาลกัมพูชาที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่แทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา และมิได้มีส่วนช่วยเหลือใด ๆ ต่อเขมรแดง และว่าข้อกล่าวหาของออสเตรเลียดังกล่าวเลื่อนลอย ไม่ยุติธรรม และไม่เอื้ออำนวยต่อความพยายามของไทยที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัมพูชา เพื่อนำความสงบสุขมาสู่ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับได้ขอให้ฝ่ายออสเตรเลียนำพยานหลักฐานมาแสดง
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2537 ระหว่างการประชุมเอเปคที่กรุงจาการ์ตา โดยได้แสดงความไม่พอใจต่อคำกล่าวหาของออสเตรเลีย และได้ยืนยันถึงนโยบายของรัฐบาลไทยต่อกัมพูชา ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียทราบ พร้อมทั้งแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับคำสั่งให้ควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการกระทำใด ๆ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้าอาวุธ พลอย หรือไม้ หรือการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ อีกทั้งยังได้แสดงความจริงใจของรัฐบาลไทยในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยขอให้ฝ่ายออสเตรเลียส่งมอบหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมายให้ฝ่ายไทย เพื่อฝ่ายไทยจะพิจารณาดำเนินการอย่างจริงจัง ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียได้ยอมรับว่าข้อมูลที่อ้างอิงในการกล่าวหานั้น เป็นข้อมูลที่ล้าสมัย และรับที่จะชี้แจงต่อสื่อมวลชนทันทีภายหลังการพบปะ ซึ่งการยอมรับดังกล่าวในทางการทูตถือว่าเป็นการยอมรับความผิดพลาดแล้ว
3. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2537 นาย Cavan Hogue เอกอัคราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้าราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และได้ย้ำถึงความร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยการติดต่อโดยตรงมิใช่ผ่านทางสื่อมวลชน พร้อมกับได้แสดงความเข้าใจว่ารัฐบาลไทยได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว และประสงค์จะให้เรื่องที่เกิดขึ้นยุติเพียงเท่านี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 17 มกราคม 2538--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการตอบโต้ของกระทรวงการต่างประเทศต่อข้อกล่าวหาของรัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่งพาดพงถึงประเทศไทยว่า รัฐบาลไทยต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการที่คนชาติออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และอังกฤษ ถูกสังหาร เพราะยังมีเจ้าหน้าที่และคนไทยบางกลุ่มให้การสนับสนุนเขมรแดง สรุปได้ดังนี้
1. กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวตอบโต้เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2537 โดยยืนยันว่ารัฐบาลไทยมีนโยบายให้การรับรองรัฐบาลกัมพูชาที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่แทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา และมิได้มีส่วนช่วยเหลือใด ๆ ต่อเขมรแดง และว่าข้อกล่าวหาของออสเตรเลียดังกล่าวเลื่อนลอย ไม่ยุติธรรม และไม่เอื้ออำนวยต่อความพยายามของไทยที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัมพูชา เพื่อนำความสงบสุขมาสู่ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับได้ขอให้ฝ่ายออสเตรเลียนำพยานหลักฐานมาแสดง
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2537 ระหว่างการประชุมเอเปคที่กรุงจาการ์ตา โดยได้แสดงความไม่พอใจต่อคำกล่าวหาของออสเตรเลีย และได้ยืนยันถึงนโยบายของรัฐบาลไทยต่อกัมพูชา ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียทราบ พร้อมทั้งแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับคำสั่งให้ควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการกระทำใด ๆ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้าอาวุธ พลอย หรือไม้ หรือการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ อีกทั้งยังได้แสดงความจริงใจของรัฐบาลไทยในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยขอให้ฝ่ายออสเตรเลียส่งมอบหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมายให้ฝ่ายไทย เพื่อฝ่ายไทยจะพิจารณาดำเนินการอย่างจริงจัง ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียได้ยอมรับว่าข้อมูลที่อ้างอิงในการกล่าวหานั้น เป็นข้อมูลที่ล้าสมัย และรับที่จะชี้แจงต่อสื่อมวลชนทันทีภายหลังการพบปะ ซึ่งการยอมรับดังกล่าวในทางการทูตถือว่าเป็นการยอมรับความผิดพลาดแล้ว
3. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2537 นาย Cavan Hogue เอกอัคราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้าราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และได้ย้ำถึงความร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยการติดต่อโดยตรงมิใช่ผ่านทางสื่อมวลชน พร้อมกับได้แสดงความเข้าใจว่ารัฐบาลไทยได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว และประสงค์จะให้เรื่องที่เกิดขึ้นยุติเพียงเท่านี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 17 มกราคม 2538--