ทำเนียบรัฐบาล--25 ส.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง โครงการพัฒนาระบบรถแท็กซี่ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกเสนอ ขอความเห็นชอบในการเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2539 ที่อนุมัติให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นแกนกลางประสานกับสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสินและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์กรุงไทยธนกิจ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเงินกู้เพิ่มขึ้นจากเดิม 250 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่กู้ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 7 ต่อปี และให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการของบประมาณและประสานกับสถาบันการเงินของรัฐที่ให้กู้เพื่อจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยส่วนต่างของเงินกู้ ส่วนรายละเอียดเงื่อนไขและวิธีการให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่กู้เงิน ให้เป็นหน้าที่ของสถาบันการเงินที่ให้กู้ยืมพิจารณา
คณะรัฐมนตรีมีความเห็นว่าโครงการพัฒนาระบบรถแท็กซี่อาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งเศรษฐกิจอยู่ในภาวะถดถอย และรัฐบาลมีข้อจำกัดด้านงบประมาณชดเชยการดำเนินโครงการ นอกจากนี้ผลตอบแทนในการลงทุนมีแนวโน้มจะไม่คุ้มทุน การให้กู้ยืมเงินก็มีความเสี่ยงสูงเรื่องหนี้สูญ รวมทั้งมีผลต่อการขาดดุลการค้าจากการนำเข้าอุปกรณ์วิทยุสื่อสารด้วย จึงเห็นสมควรให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าว โดยให้สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกไปศึกษาโครงการพัฒนาระบบรถแท็กซี่เพิ่มเติม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 สิงหาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง โครงการพัฒนาระบบรถแท็กซี่ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกเสนอ ขอความเห็นชอบในการเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2539 ที่อนุมัติให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นแกนกลางประสานกับสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสินและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์กรุงไทยธนกิจ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเงินกู้เพิ่มขึ้นจากเดิม 250 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่กู้ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 7 ต่อปี และให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการของบประมาณและประสานกับสถาบันการเงินของรัฐที่ให้กู้เพื่อจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยส่วนต่างของเงินกู้ ส่วนรายละเอียดเงื่อนไขและวิธีการให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่กู้เงิน ให้เป็นหน้าที่ของสถาบันการเงินที่ให้กู้ยืมพิจารณา
คณะรัฐมนตรีมีความเห็นว่าโครงการพัฒนาระบบรถแท็กซี่อาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งเศรษฐกิจอยู่ในภาวะถดถอย และรัฐบาลมีข้อจำกัดด้านงบประมาณชดเชยการดำเนินโครงการ นอกจากนี้ผลตอบแทนในการลงทุนมีแนวโน้มจะไม่คุ้มทุน การให้กู้ยืมเงินก็มีความเสี่ยงสูงเรื่องหนี้สูญ รวมทั้งมีผลต่อการขาดดุลการค้าจากการนำเข้าอุปกรณ์วิทยุสื่อสารด้วย จึงเห็นสมควรให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าว โดยให้สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกไปศึกษาโครงการพัฒนาระบบรถแท็กซี่เพิ่มเติม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 สิงหาคม 2541--