ทำเนียบรัฐบาล--3 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 โดยแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9,10,11,68,109 และ 117 เพื่อปรับปรุงแก้ไขกระบวนการพิจารณาคดีล้มละลายให้มีความเหมาะสมและรวดเร็วยิ่งขึ้นในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
1. แก้ไขจำนวนเงินที่เจ้าหนี้มีสิทธิจะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ต่อเมื่อลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจกท์คนเดียวหรือหลายคน จากเดิมซึ่งกำหนดไว้ห้าหมื่นบาทเป็นไม่น้อยกว่าห้าแสนบาท
2. แก้ไขจำนวนเงินที่เจ้าหนี้มีสิทธิจะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ต่อเมื่อลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคน จากเดิมซึ่งกำหนดไว้ไม่น้อยกว่าห้าแสนบาทเป็นไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท
3. แก้ไขจำนวนเงินที่โจทก์ต้องวางเงินประกันค่าใช้จ่ายไว้ต่อศาล จากเดิมซึ่งกำหนดไว้หนึ่งพันบาทเป็นห้าพันบาท นอกจากนี้ยังได้บัญญัติเปิดโอกาสให้ศาลเรียกให้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์วางเงินประกันค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้
4. แก้ไขจำนวนเงินที่บุคคลล้มละลายกรณีขอปลดจากล้มละลายต้องนำเงินมาไว้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จากเดิมซึ่งกำหนดว่าตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเห็นสมควรไม่เกินห้าร้อยบาท เป็นตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเห็นสมควร
5. แก้ไขคำว่า "ภริยาของลูกหนี้" เป็น "คู่สมรสของลูกหนี้" เพื่อให้มีความหมายครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้กำหนดเกี่ยวกับจำนวนเงินที่เจ้าหนี้มีสิทธิจะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ต่อเมื่อลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจกท์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นบาท หรือลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้เจ้าหนี้ ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าห้าแสนบาท นอกจากนี้บทบัญญัติบางมาตราของพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ในส่วนที่เกี่ยวกับการวางเงินประกันค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับมาตรการที่จะใช้แก่ภริยาผู้ล้มละลายยังไม่เหมาะสม จึงสมควรได้รับการแก้ไข
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 โดยแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9,10,11,68,109 และ 117 เพื่อปรับปรุงแก้ไขกระบวนการพิจารณาคดีล้มละลายให้มีความเหมาะสมและรวดเร็วยิ่งขึ้นในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
1. แก้ไขจำนวนเงินที่เจ้าหนี้มีสิทธิจะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ต่อเมื่อลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจกท์คนเดียวหรือหลายคน จากเดิมซึ่งกำหนดไว้ห้าหมื่นบาทเป็นไม่น้อยกว่าห้าแสนบาท
2. แก้ไขจำนวนเงินที่เจ้าหนี้มีสิทธิจะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ต่อเมื่อลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคน จากเดิมซึ่งกำหนดไว้ไม่น้อยกว่าห้าแสนบาทเป็นไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท
3. แก้ไขจำนวนเงินที่โจทก์ต้องวางเงินประกันค่าใช้จ่ายไว้ต่อศาล จากเดิมซึ่งกำหนดไว้หนึ่งพันบาทเป็นห้าพันบาท นอกจากนี้ยังได้บัญญัติเปิดโอกาสให้ศาลเรียกให้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์วางเงินประกันค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้
4. แก้ไขจำนวนเงินที่บุคคลล้มละลายกรณีขอปลดจากล้มละลายต้องนำเงินมาไว้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จากเดิมซึ่งกำหนดว่าตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเห็นสมควรไม่เกินห้าร้อยบาท เป็นตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเห็นสมควร
5. แก้ไขคำว่า "ภริยาของลูกหนี้" เป็น "คู่สมรสของลูกหนี้" เพื่อให้มีความหมายครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้กำหนดเกี่ยวกับจำนวนเงินที่เจ้าหนี้มีสิทธิจะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ต่อเมื่อลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจกท์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นบาท หรือลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้เจ้าหนี้ ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าห้าแสนบาท นอกจากนี้บทบัญญัติบางมาตราของพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ในส่วนที่เกี่ยวกับการวางเงินประกันค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับมาตรการที่จะใช้แก่ภริยาผู้ล้มละลายยังไม่เหมาะสม จึงสมควรได้รับการแก้ไข
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541--