แท็ก
ชายแดนภาคใต้
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินงาน
ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสรุปได้ดังนี้
1. การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงาน
1.1 กยต. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ รวม 4 คณะ ดังนี้
(1) คณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการ
มีอำนาจหน้าที่ในการศึกษา พิจารณา เสนอแนะ เพื่อแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ระเบียบของทางราชการปัจจุบันใน
การให้ความช่วยเหลือเยียวยาทั้งระบบแก่ทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
(2) คณะอนุกรรมการติดตาม เร่งรัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน
อนุกรรมการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดมาตรการและการดำเนินการในการเร่งรัดการปฏิบัติของส่วนราชการและ
องค์กรรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาทั้งระบบแก่
ทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
(3) คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อประสานการติดตามผู้สูญหายและเยียวยาผู้ได้รับ
ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เฉพาะกรณี มีรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เป็นประธานอนุกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ในการประสานการดำเนินการกับองค์กรทางศาสนา ผู้นำชุมชน
องค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคม เพื่อติดตามรวบรวมข้อมูลผู้สูญหาย ทั้งกรณีเสียชีวิตไปและที่หายไป และ
ให้ข้อเสนอแนะต่อ กยต. เกี่ยวกับการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อตัวบุคคลหรือครอบครัวของผู้สูญหาย
(4) คณะอนุกรรมการโครงการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจใน 4 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ มีนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานอนุกรรมการ มีอำนาจ
หน้าที่ในการกำหนดกรอบแนวคิด วางแผนการดำเนินงาน ในการดูแลเยียวยาจิตใจกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
1.2 คณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงาน 2 คณะ ดังนี้
(1) คณะทำงานจัดทำฐานข้อมูลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความ
ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนายกมล สุขสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
คณะทำงาน
(2) คณะทำงานพิจารณาหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมทั้งมาตรการ
จูงใจ และช่วยเหลือทายาทของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ มีนางเบญจวรรณ สร่างนิทร ที่ปรึกษาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ. เป็นประธานคณะ
ทำงาน
2. การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
กยต. โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ฯ ได้จัดทำรายละเอียดการดำเนินการตาม
หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ เพื่อให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยได้ให้ความช่วยเหลือ
เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ดังนี้
2.1 งบประมาณ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 ได้กำหนดแหล่งเงินที่จะใช้
เพื่อการดำเนินการตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ให้ใช้จ่ายลักษณะเป็นโครงการ
พิเศษจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาล โดยให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก
งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยประสานและขอทำความ
ตกลงกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นต่อไป ซึ่ง กยต. ในการประชุมครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันพุธที่
25 มิถุนายน 2548 เห็นชอบกรอบงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 900 ล้านบาท และในปี
งบประมาณ พ.ศ. 2549 จำนวน 900 ล้านบาท ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้แจ้งขอรับการ
สนับสนุนงบประมาณไปยังสำนักงบประมาณแล้ว พร้อมทั้งขอกันเงินทดรองราชการ จากกระทรวงการคลัง
จำนวน 50 ล้านบาท โดยเก็บรักษาเงินทดรองราชการจำนวนดังกล่าวไว้ที่ธนาคารออมสินสาขาทำเนียบรัฐบาล
และจะโอนเงินให้จังหวัด ๆ ละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทดรองราชการ
2.2 สรุปการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ฯ ที่ผ่านมา
(1) รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธาน กยต. ได้ไปตรวจเยี่ยมและ
ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี และ
นราธิวาส ระหว่างวันที่ 9-10และ 23 กรกฎาคม 2548 เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 25,659,774 บาท (สำนักงาน
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 24,499,774 บาท กอ.สสส.จชต. 300,000 บาท เงินกองทุนช่วยเหลือ
ผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 860,000 บาท) สรุปผลการให้ความช่วยเหลือได้ดังนี้
การให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ จังหวัดสงขลา จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี
ราย งบประมาณ (บาท) ราย งบประมาณ (บาท) ราย งบประมาณ (บาท) ราย งบประมาณ (บาท)
1. เสียชีวิต/บาดเจ็บ/ทุพพลภาพ - - 9 1,320,000 - - - -
2. ทรัพย์สินเสียหาย - - 2 17,500 - - - -
3. ผู้ประกอบการ 9 1,133,667 - - - 23 10,389,607
4. เงินฟื้นฟูสมรรถภาพ 4 800,000 -
5. ทุนการศึกษาแก่บุตรผู้ได้รับผลกระทบ 117 1,340,500 319 3,939,500 188 2,334,000 222 2,782,000
6. โครงเรียนเสียหาย - - 1 443,000 - - -
รวม 2,474,167 6,520,000 2,334,000 13,171,607
24,499,774 บาท
7. เงินช่วยเหลือประชาชนผู้บาดเจ็บ จำนวน 17 ราย เป็นเงิน 300,000 บาท เงิน กอ.สสส.จชต.
8. ช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่จังหวัดสงขลา เป็นเงิน 500,000 บาท
และทำบุญทางศาสนาแก่ศพไม่มีญาติ 12 ราย เป็นเงิน 360,000 บาท เงินกองทุนช่วยเหลือ
ผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี
(2) จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ขอรับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือผู้ได้
รับผลกระทบมายังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ตรวจสอบเอกสาร
หลักฐานแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,304,874 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและตรวจสอบจากสำนัก
งบประมาณ ดังนี้
จังหวัด เสียชีวิต/บาดเจ็บ พืชผลทางการเกษตร ทรัพย์สินเสียหาย รวม
ราย บาท ราย บาท ราย บาท ราย บาท
ยะลา 10 1,750,000 - - - - 10 1,750,000
ปัตตานี 9 780,000 31 1,206,847 23 1,068,000 63 3,054,847
นราธิวาส 1 500,000 - - - - 1 500,000
รวม 20 3,030,000 31 1,206,847 23 1,068,000 74 5,304,847
(3) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือเยียวยา
ผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและตรวจสอบจากสำนักงบประมาณ ดังนี้
(3.1) กระทรวงสาธารณสุข จำนวนเงิน 36,800,000 บาท
ด้านการรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูจิตใจ
(3.2) จังหวัดสงขลา โครงการฝึกอาชีพสตรีผลิต จำนวนเงิน 1,440,000 บาท
เครื่องแต่งกายมุสลิม
(3.3) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง จำนวนเงิน 214,521,500 บาท
ของมนุษย์ เป็นเงินช่วยเหลือฟื้นฟูด้านจิตใจ
(3.4) กระทรวงวัฒนธรรม โครงการผู้นำ จำนวนเงิน 300,000 บาท
ศาสนาพลังใจ
รวม 253,061,500 บาท
3. การจัดทำฐานข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบ
คณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ฯ โดยคณะทำงานจัดทำฐานข้อมูลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ
ได้กำหนดแนวทางการดำเนินการจัดทำฐานข้อมูล เป็น 2 ระยะ คือ
3.1 ระยะที่ 1 (ระยะเร่งด่วน) นำระบบซึ่งสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ดำเนินการไว้ก่อนแล้วมาปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้
สามารถใช้งานได้ก่อนประกอบด้วย ฐานข้อมูลเหตุการณ์ ฐานข้อมูลผู้ประสบภัย ผู้ได้รับผลกระทบ ลักษณะการ
ประสบภัย (ชีวิต ทรัพย์สิน ครอบครัว ผลอาสิน) การประเมินสิทธิที่ควรจะได้รับ (ตามระเบียบ) และการให้
ความช่วยเหลือ ทั้งภาครัฐและเอกชน โปรแกรมตรวจสอบสิทธิที่พึงได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบฯ
การประมวลผล จัดทำรายงานและติดตามผู้ประสบภัย ซึ่งจะฝึกอบรมการใช้ระบบงานฐานข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ทั้ง
4 จังหวัด ในระหว่างวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2548 โดยให้ สวทช. ดำเนินการพัฒนาฐานข้อมูลกับระบบอื่น ๆ
โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
3.2 ระยะที่ 2 จะเป็นการพัฒนาระบบต่อยอดจากระบบในระยะที่ 1 ให้สามารถใช้งานได้ครบ
ถ้วนสมบูรณ์ เช่น โปรแกรมวิเคราะห์สถานการณ์และการประสบภัยเชิงพื้นที่ วางระบบการรักษาความปลอดภัย
การเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบอื่น ๆ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
4. การติดตามเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
กยต. โดยคณะอนุกรรมการติดตาม เร่งรัดฯ ได้กำหนดให้จังหวัดทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการ
ให้ความช่วยเหลือทั้งระบบ โดยมีฐานข้อมูลเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการจัดคาราวานเยียวยา
รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน โดยให้นายอำเภอ ปลัดอำเภอประจำตำบล สำรวจข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบที่ยัง
ไม่ได้รับความช่วยเหลือ และดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน รวมทั้งให้ทุกอำเภอเป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์
จากประชาชน กรณีไม่สะดวกติดต่อที่อำเภอสามารถยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เพื่อประสาน
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 กรกฎาคม 2548--จบ--
สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินงาน
ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสรุปได้ดังนี้
1. การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงาน
1.1 กยต. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ รวม 4 คณะ ดังนี้
(1) คณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการ
มีอำนาจหน้าที่ในการศึกษา พิจารณา เสนอแนะ เพื่อแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ระเบียบของทางราชการปัจจุบันใน
การให้ความช่วยเหลือเยียวยาทั้งระบบแก่ทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
(2) คณะอนุกรรมการติดตาม เร่งรัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน
อนุกรรมการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดมาตรการและการดำเนินการในการเร่งรัดการปฏิบัติของส่วนราชการและ
องค์กรรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาทั้งระบบแก่
ทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
(3) คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อประสานการติดตามผู้สูญหายและเยียวยาผู้ได้รับ
ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เฉพาะกรณี มีรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เป็นประธานอนุกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ในการประสานการดำเนินการกับองค์กรทางศาสนา ผู้นำชุมชน
องค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคม เพื่อติดตามรวบรวมข้อมูลผู้สูญหาย ทั้งกรณีเสียชีวิตไปและที่หายไป และ
ให้ข้อเสนอแนะต่อ กยต. เกี่ยวกับการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อตัวบุคคลหรือครอบครัวของผู้สูญหาย
(4) คณะอนุกรรมการโครงการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจใน 4 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ มีนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานอนุกรรมการ มีอำนาจ
หน้าที่ในการกำหนดกรอบแนวคิด วางแผนการดำเนินงาน ในการดูแลเยียวยาจิตใจกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
1.2 คณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงาน 2 คณะ ดังนี้
(1) คณะทำงานจัดทำฐานข้อมูลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความ
ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนายกมล สุขสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
คณะทำงาน
(2) คณะทำงานพิจารณาหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมทั้งมาตรการ
จูงใจ และช่วยเหลือทายาทของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ มีนางเบญจวรรณ สร่างนิทร ที่ปรึกษาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ. เป็นประธานคณะ
ทำงาน
2. การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
กยต. โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ฯ ได้จัดทำรายละเอียดการดำเนินการตาม
หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ เพื่อให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยได้ให้ความช่วยเหลือ
เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ดังนี้
2.1 งบประมาณ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 ได้กำหนดแหล่งเงินที่จะใช้
เพื่อการดำเนินการตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ให้ใช้จ่ายลักษณะเป็นโครงการ
พิเศษจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาล โดยให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก
งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยประสานและขอทำความ
ตกลงกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นต่อไป ซึ่ง กยต. ในการประชุมครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันพุธที่
25 มิถุนายน 2548 เห็นชอบกรอบงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 900 ล้านบาท และในปี
งบประมาณ พ.ศ. 2549 จำนวน 900 ล้านบาท ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้แจ้งขอรับการ
สนับสนุนงบประมาณไปยังสำนักงบประมาณแล้ว พร้อมทั้งขอกันเงินทดรองราชการ จากกระทรวงการคลัง
จำนวน 50 ล้านบาท โดยเก็บรักษาเงินทดรองราชการจำนวนดังกล่าวไว้ที่ธนาคารออมสินสาขาทำเนียบรัฐบาล
และจะโอนเงินให้จังหวัด ๆ ละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทดรองราชการ
2.2 สรุปการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ฯ ที่ผ่านมา
(1) รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธาน กยต. ได้ไปตรวจเยี่ยมและ
ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี และ
นราธิวาส ระหว่างวันที่ 9-10และ 23 กรกฎาคม 2548 เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 25,659,774 บาท (สำนักงาน
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 24,499,774 บาท กอ.สสส.จชต. 300,000 บาท เงินกองทุนช่วยเหลือ
ผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 860,000 บาท) สรุปผลการให้ความช่วยเหลือได้ดังนี้
การให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ จังหวัดสงขลา จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี
ราย งบประมาณ (บาท) ราย งบประมาณ (บาท) ราย งบประมาณ (บาท) ราย งบประมาณ (บาท)
1. เสียชีวิต/บาดเจ็บ/ทุพพลภาพ - - 9 1,320,000 - - - -
2. ทรัพย์สินเสียหาย - - 2 17,500 - - - -
3. ผู้ประกอบการ 9 1,133,667 - - - 23 10,389,607
4. เงินฟื้นฟูสมรรถภาพ 4 800,000 -
5. ทุนการศึกษาแก่บุตรผู้ได้รับผลกระทบ 117 1,340,500 319 3,939,500 188 2,334,000 222 2,782,000
6. โครงเรียนเสียหาย - - 1 443,000 - - -
รวม 2,474,167 6,520,000 2,334,000 13,171,607
24,499,774 บาท
7. เงินช่วยเหลือประชาชนผู้บาดเจ็บ จำนวน 17 ราย เป็นเงิน 300,000 บาท เงิน กอ.สสส.จชต.
8. ช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่จังหวัดสงขลา เป็นเงิน 500,000 บาท
และทำบุญทางศาสนาแก่ศพไม่มีญาติ 12 ราย เป็นเงิน 360,000 บาท เงินกองทุนช่วยเหลือ
ผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี
(2) จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ขอรับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือผู้ได้
รับผลกระทบมายังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ตรวจสอบเอกสาร
หลักฐานแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,304,874 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและตรวจสอบจากสำนัก
งบประมาณ ดังนี้
จังหวัด เสียชีวิต/บาดเจ็บ พืชผลทางการเกษตร ทรัพย์สินเสียหาย รวม
ราย บาท ราย บาท ราย บาท ราย บาท
ยะลา 10 1,750,000 - - - - 10 1,750,000
ปัตตานี 9 780,000 31 1,206,847 23 1,068,000 63 3,054,847
นราธิวาส 1 500,000 - - - - 1 500,000
รวม 20 3,030,000 31 1,206,847 23 1,068,000 74 5,304,847
(3) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือเยียวยา
ผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและตรวจสอบจากสำนักงบประมาณ ดังนี้
(3.1) กระทรวงสาธารณสุข จำนวนเงิน 36,800,000 บาท
ด้านการรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูจิตใจ
(3.2) จังหวัดสงขลา โครงการฝึกอาชีพสตรีผลิต จำนวนเงิน 1,440,000 บาท
เครื่องแต่งกายมุสลิม
(3.3) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง จำนวนเงิน 214,521,500 บาท
ของมนุษย์ เป็นเงินช่วยเหลือฟื้นฟูด้านจิตใจ
(3.4) กระทรวงวัฒนธรรม โครงการผู้นำ จำนวนเงิน 300,000 บาท
ศาสนาพลังใจ
รวม 253,061,500 บาท
3. การจัดทำฐานข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบ
คณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ฯ โดยคณะทำงานจัดทำฐานข้อมูลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ
ได้กำหนดแนวทางการดำเนินการจัดทำฐานข้อมูล เป็น 2 ระยะ คือ
3.1 ระยะที่ 1 (ระยะเร่งด่วน) นำระบบซึ่งสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ดำเนินการไว้ก่อนแล้วมาปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้
สามารถใช้งานได้ก่อนประกอบด้วย ฐานข้อมูลเหตุการณ์ ฐานข้อมูลผู้ประสบภัย ผู้ได้รับผลกระทบ ลักษณะการ
ประสบภัย (ชีวิต ทรัพย์สิน ครอบครัว ผลอาสิน) การประเมินสิทธิที่ควรจะได้รับ (ตามระเบียบ) และการให้
ความช่วยเหลือ ทั้งภาครัฐและเอกชน โปรแกรมตรวจสอบสิทธิที่พึงได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบฯ
การประมวลผล จัดทำรายงานและติดตามผู้ประสบภัย ซึ่งจะฝึกอบรมการใช้ระบบงานฐานข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ทั้ง
4 จังหวัด ในระหว่างวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2548 โดยให้ สวทช. ดำเนินการพัฒนาฐานข้อมูลกับระบบอื่น ๆ
โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
3.2 ระยะที่ 2 จะเป็นการพัฒนาระบบต่อยอดจากระบบในระยะที่ 1 ให้สามารถใช้งานได้ครบ
ถ้วนสมบูรณ์ เช่น โปรแกรมวิเคราะห์สถานการณ์และการประสบภัยเชิงพื้นที่ วางระบบการรักษาความปลอดภัย
การเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบอื่น ๆ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
4. การติดตามเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
กยต. โดยคณะอนุกรรมการติดตาม เร่งรัดฯ ได้กำหนดให้จังหวัดทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการ
ให้ความช่วยเหลือทั้งระบบ โดยมีฐานข้อมูลเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการจัดคาราวานเยียวยา
รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน โดยให้นายอำเภอ ปลัดอำเภอประจำตำบล สำรวจข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบที่ยัง
ไม่ได้รับความช่วยเหลือ และดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน รวมทั้งให้ทุกอำเภอเป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์
จากประชาชน กรณีไม่สะดวกติดต่อที่อำเภอสามารถยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เพื่อประสาน
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 กรกฎาคม 2548--จบ--