ทำเนียบรัฐบาล--19 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการโครงการสร้างอนุสรณืสถานทหารผ่านศึกออสเตรเลีย ณ ช่องเขาขาด อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงทหารและเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ ตามข้อเสนอของรัฐบาลออสเตรเลีย โดยพิจารณาเห็นว่า
1. ไทยและออสเตรเลียมีความนสัมพันธ์ที่ดีในทุกระดับ การสร้างอนุสรณ์สถานดังกล่าวจะเป็นสัญญลักษณ์ ของไมตรีจิตที่ออสเตรเลียมีต่อประเทศไทย และเป็นหนทางหนึ่งในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน จึงไม่น่ขัดข้องในหลักการกับข้อเสนอของออสเตรเลีย เพราะโคตรงการดังกล่าวจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจากไทยและต่างประเทศซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย สำหรับขอบข่ายของโครงการ การก่อสร้างและรายละเอียด การบริหาร ควรจะได้มีการเจรจาระหว่างหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายในฌอกาสแรก
2. โครงการดังกล่าวนอกจากเป็นผลดีในการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันแล้ว ยังจะเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวต่อไป และในอดีตประเทศไทยก็ได้สร้างศาลาไทยเพื่อเป็นอนุสรณ์สงครามเกาหลี ณ มณฑลเยงกี ประเทศเกาหลีใต้มาแล้ว เนื่องจากที่ตั้งโครงการดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกองอำนวยการกลางรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหมจึงยินดีสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้องหากโครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล
3. อดีตนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของออสเตรเลีย ได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อหารือเรื่องนี้ ตลอดทั้งได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแสดงถึงความตึ.ใจแน่วแน่ของฝ่ายออสเตรเลีย ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยงข้องฝ่ายไทยก็เห็นว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ทั้งในด้านการกระชับความสัมพันธ์และการท่องเที่ยว
4. เป็นโครงการที่มีความเหมาะสมทางด้านประวัติศาสตร์ และจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นสัญญลักษณ์แห่งสัมพันธไมตรีอันดีงามของประเทศทั้งสอง
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบในหลักการโครงการตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยกรทรวงการต่างประเทศมีความเห็นเพิ่มเติมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับรายละเอียดและขอบข่ายของโครงการในโอกาสแรก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 19 พฤศจิกายน 2539--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการโครงการสร้างอนุสรณืสถานทหารผ่านศึกออสเตรเลีย ณ ช่องเขาขาด อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงทหารและเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ ตามข้อเสนอของรัฐบาลออสเตรเลีย โดยพิจารณาเห็นว่า
1. ไทยและออสเตรเลียมีความนสัมพันธ์ที่ดีในทุกระดับ การสร้างอนุสรณ์สถานดังกล่าวจะเป็นสัญญลักษณ์ ของไมตรีจิตที่ออสเตรเลียมีต่อประเทศไทย และเป็นหนทางหนึ่งในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน จึงไม่น่ขัดข้องในหลักการกับข้อเสนอของออสเตรเลีย เพราะโคตรงการดังกล่าวจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจากไทยและต่างประเทศซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย สำหรับขอบข่ายของโครงการ การก่อสร้างและรายละเอียด การบริหาร ควรจะได้มีการเจรจาระหว่างหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายในฌอกาสแรก
2. โครงการดังกล่าวนอกจากเป็นผลดีในการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันแล้ว ยังจะเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวต่อไป และในอดีตประเทศไทยก็ได้สร้างศาลาไทยเพื่อเป็นอนุสรณ์สงครามเกาหลี ณ มณฑลเยงกี ประเทศเกาหลีใต้มาแล้ว เนื่องจากที่ตั้งโครงการดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกองอำนวยการกลางรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหมจึงยินดีสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้องหากโครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล
3. อดีตนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของออสเตรเลีย ได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อหารือเรื่องนี้ ตลอดทั้งได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแสดงถึงความตึ.ใจแน่วแน่ของฝ่ายออสเตรเลีย ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยงข้องฝ่ายไทยก็เห็นว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ทั้งในด้านการกระชับความสัมพันธ์และการท่องเที่ยว
4. เป็นโครงการที่มีความเหมาะสมทางด้านประวัติศาสตร์ และจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นสัญญลักษณ์แห่งสัมพันธไมตรีอันดีงามของประเทศทั้งสอง
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบในหลักการโครงการตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยกรทรวงการต่างประเทศมีความเห็นเพิ่มเติมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับรายละเอียดและขอบข่ายของโครงการในโอกาสแรก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 19 พฤศจิกายน 2539--