ทำเนียบรัฐบาล--14 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง ที่ ศก. /2537 เรื่อง ลดอัตราอากร ศุลกากร (การลดอัตราอากรศุลกรกรของซีเมนต์เม็ดและปูนซีเมนต์) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีสาระสำคัญคือ ลดอัตราอากรซีเมนต์เม็ดและปูนซีเมนต์ ตามประเภทย่อยที่ 2523.10 และ 2523.29 จากอัตราร้อยละ 30 หรือ เมตริกตันละ 80 บาท ลงเหลือร้อยละ 10 หรือ เมตริกตันละ 80 บาท
เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ภายในประเทศในปัจจุบันมีการพัฒนาทั้งคุณภาพและ การใช้เทคโนโลยีด้านการผลิตในระดับแนวหน้าของโลก สามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้ ปริมาณ การผลิตภายในประเทศในสถานการณ์ทั่วไปเกินความต้องการ ต้องหาตลาดส่งออก ไม่มีความจำเป็นต้อง ให้ความคุ้มครองโดยมาตรการทางภาษีในระดับสูง ประกอบกับการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างอัตรา อากรที่กำลังดำเนินการอยู่นั้น สินค้าปูนซีเมนต์จัดอยู่ในประเภทผลิตภัณฑ์ขั้นกลาง อัตราอากรตาม โครงสร้างควรอยู่ในระดับร้อยละ 10 การขาดแคลนที่เกิดขึ้นในภาคใต้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราวซึ่ง จำเป็นต้องแก้ไขในเรื่องภาระอากรที่สูงเกินควรโดยรีบด่วน โดยไม่ต้องรอพร้อมกับการปรับปรุง โครงสร้างทั้งกลุ่มสินค้า เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคในการนำเข้ามาชดเชยส่วนที่ขาดแคลน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 13 กันยายน 2537--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง ที่ ศก. /2537 เรื่อง ลดอัตราอากร ศุลกากร (การลดอัตราอากรศุลกรกรของซีเมนต์เม็ดและปูนซีเมนต์) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีสาระสำคัญคือ ลดอัตราอากรซีเมนต์เม็ดและปูนซีเมนต์ ตามประเภทย่อยที่ 2523.10 และ 2523.29 จากอัตราร้อยละ 30 หรือ เมตริกตันละ 80 บาท ลงเหลือร้อยละ 10 หรือ เมตริกตันละ 80 บาท
เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ภายในประเทศในปัจจุบันมีการพัฒนาทั้งคุณภาพและ การใช้เทคโนโลยีด้านการผลิตในระดับแนวหน้าของโลก สามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้ ปริมาณ การผลิตภายในประเทศในสถานการณ์ทั่วไปเกินความต้องการ ต้องหาตลาดส่งออก ไม่มีความจำเป็นต้อง ให้ความคุ้มครองโดยมาตรการทางภาษีในระดับสูง ประกอบกับการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างอัตรา อากรที่กำลังดำเนินการอยู่นั้น สินค้าปูนซีเมนต์จัดอยู่ในประเภทผลิตภัณฑ์ขั้นกลาง อัตราอากรตาม โครงสร้างควรอยู่ในระดับร้อยละ 10 การขาดแคลนที่เกิดขึ้นในภาคใต้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราวซึ่ง จำเป็นต้องแก้ไขในเรื่องภาระอากรที่สูงเกินควรโดยรีบด่วน โดยไม่ต้องรอพร้อมกับการปรับปรุง โครงสร้างทั้งกลุ่มสินค้า เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคในการนำเข้ามาชดเชยส่วนที่ขาดแคลน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 13 กันยายน 2537--