1. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
2. เห็นชอบข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 12) และมอบหมายให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้
2.1 การกำหนดระยะเวลาดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ในร่างพระราชบัญญัตินี้ซึ่งกำหนดไว้เป็นวันที่ตามปฏิทินนั้น อาจเกิดข้อขัดข้องได้ เนื่องจากเป็นร่างพระราชบัญญัติที่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของรัฐสภาเพื่อพิจารณาเห็นชอบเสียก่อน และยังต้องดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องก่อนตราเป็นพระราชบัญญัติขึ้นใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดระยะเวลาการพิจารณาร่างกฎหมายที่กระทรวงการคลังได้คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อเนื้อหาบางส่วนของร่างพระราชบัญญัติและเกิดปัญหาในการบังคับใช้ต่อไปได้
2.2 การที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติตามมติของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินสะสมและผลประโยชน์ของเงินสะสม รวมทั้งเงินบำนาญส่วนเพิ่ม เพื่อเป็นการช่วยเหลือและลดภาระให้แก่ข้าราชการและผู้รับบำนาญ ซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) โดยสมัครใจ ในการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามระบบเดิมนั้น ไม่สมควรนำเรื่องดังกล่าวมากำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัตินี้ แต่อย่างไรก็ตาม หากคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรก็อาจกระทำได้โดยดำเนินการตามประมวลรัษฎากรในการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้ดังกล่าวต่อไป
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
กำหนดให้ข้าราชการซึ่งเป็นสมาชิก กบข. และผู้รับบำนาญและทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัด ซึ่งเคยเป็นสมาชิก กบข. ที่รับราชการอยู่ในวันก่อนที่บทบัญญัติ หมวด 3 สมาชิก และสิทธิประโยชน์ของสมาชิกแห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ใช้บังคับ สามารถกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556--จบ--