ทำเนียบรัฐบาล--6 ก.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ….) ออกตามความในพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542 ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินต่อไปได้ สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีดังนี้
1. การขอมีบัตรประจำตัว
1.1 กำหนดรูปแบบคำขอมีบัตรประจำตัว เป็นรูปแบบเดียว คือ แบบ บ.จ.1 ซึ่งใช้เป็นแบบฟอร์มยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับบำเหน็จบำนาญได้ทุกประเภท และใช้ได้ทั้งกรณีการขอมีบัตรครั้งแรก การขอมีบัตรใหม่ และการขอเปลี่ยนบัตร พร้อมทั้งกำหนดลักษณะของรูปถ่ายติดบัตร ตามนัยข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการปกครองฯ ของวุฒิสภา
1.2 กำหนดวิธีการยื่นคำขอมีบัตรประจำตัว เป็น 2 ระดับ คือ กรณีผู้ขอมีบัตรประจำตัวมีสายการบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวให้ยื่นคำขอโดยตรงต่อผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัว ส่วนกรณีผู้ขอมีบัตรประจำตัวมีสายการบังคับบัญชาหลายระดับกำหนดให้ยื่นต่อผู้บังคับบัญชาเหนือตน เพื่อพิจารณาตรวจสอบบุคคลก่อนเสนอผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัว
2. การออกบัตรประจำตัวและลักษณะของบัตรประจำตัว
2.1 กำหนดบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท เป็นรูปแบบเดียว คือ แบบ "บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ" โดยในรายการของแบบบัตรให้ระบุประเภทเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ด้วย เช่น ข้าราชการการเมือง สภาชิกสภาผู้แทนราษฎร พนักงานองค์กรส่วนท้องถิ่น เป็นต้น สำหรับจำนวนรูปแบบบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับบำเหน็จบำนาญ ได้กำหนดเป็นรูปแบบเดียวเช่นกัน
2.2 กำหนดแบบบัตรประจำตัว มี 2 ชนิด คือ ชนิดกระดาษ ที่ไม่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (แบบที่ 1 ก. และ แบบที่ 2 ก.) และ ชนิดพลาสติก ที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (แบบที่ 1 ข. และ 2 ข.) เพื่อให้หน่วยงานผู้ออกบัตรประจำตัวสามารถเลือกได้ตามความพร้อมด้านงบประมาณและอุปกรณ์ในการออกบัตร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 6 กรกฎาคม 2542--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ….) ออกตามความในพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542 ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินต่อไปได้ สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีดังนี้
1. การขอมีบัตรประจำตัว
1.1 กำหนดรูปแบบคำขอมีบัตรประจำตัว เป็นรูปแบบเดียว คือ แบบ บ.จ.1 ซึ่งใช้เป็นแบบฟอร์มยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับบำเหน็จบำนาญได้ทุกประเภท และใช้ได้ทั้งกรณีการขอมีบัตรครั้งแรก การขอมีบัตรใหม่ และการขอเปลี่ยนบัตร พร้อมทั้งกำหนดลักษณะของรูปถ่ายติดบัตร ตามนัยข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการปกครองฯ ของวุฒิสภา
1.2 กำหนดวิธีการยื่นคำขอมีบัตรประจำตัว เป็น 2 ระดับ คือ กรณีผู้ขอมีบัตรประจำตัวมีสายการบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวให้ยื่นคำขอโดยตรงต่อผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัว ส่วนกรณีผู้ขอมีบัตรประจำตัวมีสายการบังคับบัญชาหลายระดับกำหนดให้ยื่นต่อผู้บังคับบัญชาเหนือตน เพื่อพิจารณาตรวจสอบบุคคลก่อนเสนอผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัว
2. การออกบัตรประจำตัวและลักษณะของบัตรประจำตัว
2.1 กำหนดบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท เป็นรูปแบบเดียว คือ แบบ "บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ" โดยในรายการของแบบบัตรให้ระบุประเภทเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ด้วย เช่น ข้าราชการการเมือง สภาชิกสภาผู้แทนราษฎร พนักงานองค์กรส่วนท้องถิ่น เป็นต้น สำหรับจำนวนรูปแบบบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับบำเหน็จบำนาญ ได้กำหนดเป็นรูปแบบเดียวเช่นกัน
2.2 กำหนดแบบบัตรประจำตัว มี 2 ชนิด คือ ชนิดกระดาษ ที่ไม่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (แบบที่ 1 ก. และ แบบที่ 2 ก.) และ ชนิดพลาสติก ที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (แบบที่ 1 ข. และ 2 ข.) เพื่อให้หน่วยงานผู้ออกบัตรประจำตัวสามารถเลือกได้ตามความพร้อมด้านงบประมาณและอุปกรณ์ในการออกบัตร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 6 กรกฎาคม 2542--