แท็ก
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลัง
คณะรัฐมนตรี
รัฐบาลไทย
เยอรมนี
ประกัน
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการลงนามในความตกลงว่าด้วย ความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รวมทั้งการลงนามในสัญญากู้เงิน และสัญญาค้ำประกันเงินกู้ สำหรับแผนเงินกู้ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำความเห็นทางกฎหมาย สำหรับการกู้เงินดังกล่าวในโอกาสแรกต่อไปด้วย
กระทรวงการคลังรายงานว่า ดังนี้
1. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการทาบทามขอใช้เงินกู้รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีอย่างเป็นทางการโดยผ่านเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย สำหรับแผนเงินกู้ของธนาคารพัฒนาการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
2. กระทรวงการคลังได้ (1) เจรจาตกลงในหลักการของร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และ (2) ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยเจรจาในรายละเอียดของร่างสัญญาเงินกู้และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้กับผู้แทนสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีวงเงินกู้ 28 ล้านยูโร
3. ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในโอกาสเดียวกันได้มีการลงนามในสัญญากู้เงิน สัญญาค้ำประกันเงินกู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินตามแผนเงินกู้ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธนาคาร SME) ซึ่งเป็นการกู้เงินภายใต้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินดังกล่าวข้างต้น ระหว่างธนาคาร SME ในฐานะผู้กู้ สถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (KfW) ในฐานะผู้ให้กู้และกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว
4. สำหรับรายละเอียดความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสัญญาเงินกู้ดังกล่าว มีสาระสำคัญและเงื่อนไขสรุปได้ดังนี้
4.1 ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
(1) รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีอนุมัติให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยกู้เงินผ่านสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในวงเงิน 26 ล้านยูโร
(2) การใช้เงินกู้ภายใต้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงิน ฯ สำหรับแผนเงินกู้ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยจะต้องมีกระทรวงการคลังในนามรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
(3) รัฐบาลไทยจะยกเว้นการเรียกเก็บภาษีทั้งปวง และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ในประเทศไทยจาก KfW
(4) รัฐบาลไทยจะอนุญาตให้ผู้โดยสารและผู้ขายสินค้ามีสิทธิในการเลือกวิสาหกิจขนส่งเพื่อทำการขนส่งบุคคลและสิ่งของอันเป็นผลจากการให้เงินกู้ได้โดยเสรี และจะละเว้นการดำเนินมาตรการใด ๆ ที่อาจจะเป็นการกีดกันแก่การเข้ามามีส่วนร่วมโดยเท่าเทียมกันของวิสาหกิจขนส่งซึ่งมีสถานที่ประกอบธุรกิจในดินแดนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
4.2 สัญญาเงินกู้ (Loan Agreement)
(1) วงเงินกู้จำนวน 26 ล้านยูโร แบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 วงเงิน 2,209,268.69
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 0.75 ต่อปี
- ระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ 40 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 10 ปี
ส่วนที่ 2 วงเงิน 38,684.50
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 2 ต่อปี
- ระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ 30 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 14 ปี
ส่วนที่ 3 วงเงิน 23,752,096.81
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 2 ต่อปี
- ระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ 30 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 10 ปี
(2) วัตถุประสงค์ของเงินกู้ เพื่อใช้สำหรับดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูและช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ธรณีวิบัติภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิในภาคใต้ การให้สินเชื่อแก่ SMEs ทั่วประเทศในกลุ่มการเกษตรโดยครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การแปรรูป และการกระจายสินค้า และการพัฒนาศักยภาพของ SMEs ในภาคใต้
(3) การเบิกจ่ายเงินกู้ภายใน 30 ธันวาคม 2550
(4) การชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย เป็นจะชำระในเดือนมิถุนายนและเดือนธันวาคม ของทุกปี
(5) สำหรับเงื่อนไขเงินกู้อื่น ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขและมาตรฐานเช่นเดียวกับสัญญาเงินกู้ รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีครั้งก่อน ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548--จบ--
กระทรวงการคลังรายงานว่า ดังนี้
1. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการทาบทามขอใช้เงินกู้รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีอย่างเป็นทางการโดยผ่านเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย สำหรับแผนเงินกู้ของธนาคารพัฒนาการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
2. กระทรวงการคลังได้ (1) เจรจาตกลงในหลักการของร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และ (2) ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยเจรจาในรายละเอียดของร่างสัญญาเงินกู้และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้กับผู้แทนสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีวงเงินกู้ 28 ล้านยูโร
3. ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในโอกาสเดียวกันได้มีการลงนามในสัญญากู้เงิน สัญญาค้ำประกันเงินกู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินตามแผนเงินกู้ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธนาคาร SME) ซึ่งเป็นการกู้เงินภายใต้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินดังกล่าวข้างต้น ระหว่างธนาคาร SME ในฐานะผู้กู้ สถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (KfW) ในฐานะผู้ให้กู้และกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว
4. สำหรับรายละเอียดความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสัญญาเงินกู้ดังกล่าว มีสาระสำคัญและเงื่อนไขสรุปได้ดังนี้
4.1 ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
(1) รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีอนุมัติให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยกู้เงินผ่านสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในวงเงิน 26 ล้านยูโร
(2) การใช้เงินกู้ภายใต้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการเงิน ฯ สำหรับแผนเงินกู้ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยจะต้องมีกระทรวงการคลังในนามรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
(3) รัฐบาลไทยจะยกเว้นการเรียกเก็บภาษีทั้งปวง และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ในประเทศไทยจาก KfW
(4) รัฐบาลไทยจะอนุญาตให้ผู้โดยสารและผู้ขายสินค้ามีสิทธิในการเลือกวิสาหกิจขนส่งเพื่อทำการขนส่งบุคคลและสิ่งของอันเป็นผลจากการให้เงินกู้ได้โดยเสรี และจะละเว้นการดำเนินมาตรการใด ๆ ที่อาจจะเป็นการกีดกันแก่การเข้ามามีส่วนร่วมโดยเท่าเทียมกันของวิสาหกิจขนส่งซึ่งมีสถานที่ประกอบธุรกิจในดินแดนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
4.2 สัญญาเงินกู้ (Loan Agreement)
(1) วงเงินกู้จำนวน 26 ล้านยูโร แบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 วงเงิน 2,209,268.69
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 0.75 ต่อปี
- ระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ 40 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 10 ปี
ส่วนที่ 2 วงเงิน 38,684.50
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 2 ต่อปี
- ระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ 30 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 14 ปี
ส่วนที่ 3 วงเงิน 23,752,096.81
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 2 ต่อปี
- ระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ 30 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 10 ปี
(2) วัตถุประสงค์ของเงินกู้ เพื่อใช้สำหรับดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูและช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ธรณีวิบัติภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิในภาคใต้ การให้สินเชื่อแก่ SMEs ทั่วประเทศในกลุ่มการเกษตรโดยครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การแปรรูป และการกระจายสินค้า และการพัฒนาศักยภาพของ SMEs ในภาคใต้
(3) การเบิกจ่ายเงินกู้ภายใน 30 ธันวาคม 2550
(4) การชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย เป็นจะชำระในเดือนมิถุนายนและเดือนธันวาคม ของทุกปี
(5) สำหรับเงื่อนไขเงินกู้อื่น ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขและมาตรฐานเช่นเดียวกับสัญญาเงินกู้ รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีครั้งก่อน ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548--จบ--