ทำเนียบรัฐบาล--12 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาโสเภณีเด็กตามที่กระ ทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
1. กระทรวงอุตสาหกรรม (พฤษภาคม - กรกฎาคม 2537) สรุปได้ดังนี้
1. ดำเนินการส่งเสริมการประกอบอาชีพให้แก่ราษฎร ในชนบทโดยการฝึกอาชีพ อุตสาหกรรมในครอบครัว และหัตถกรรมไทยโดยต่อเนื่อง
(1) ภาคเหนือ มีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งหมด 364 คน เป็นเด็กหญิง อายุ 13-18 ปี 71 คน
(2) ภาคใต้ มีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งหมด 570 คน เป็นเด็กหญิง อายุ 13-18 ปี 74 คน
(3) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งหมด 482 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 13-18 ปี 100 คน
(4) ภาคกลาง มีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งหมด 298 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 13-18 ปี 83 คน
(5) รวมผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งสิ้น 1,714 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 13-18 ปี 328 คน
2. จัดกิจกรรมสนับสนุน ดังนี้
(1) ให้บริการกู้ยืมเงินแก้ผู้ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมในภูมิภาค ต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ
(2) ส่งเสริมด้านการตลาด เช่น จัดงานแสดงสินค้าเพื่อเผยแพร่และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของผู้ ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรม รับผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการเข้าตั้งแสดงในศูนย์ ส่งเสริมการตลาดหัตถกรรมไทยของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รับซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบอาชีพและ กลุ่ม จำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กลุ่มอาชีพต่าง ๆ และรับฝากขายผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบอาชีพและกลุ่ม จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ให้กลุ่มอาชีพต่าง ๆ และรับฝากขายผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบอาชีพ
(3) ให้ความรู้เรื่องการจัดการธุรกิจแก่กลุ่มผู้ประกอบอาชีพ และเชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ผลิต
2. กระทรวงศึกษาธิการ (ตุลาคม 2536 - กรกฎาคม 2537) สรุปได้ดังนี้
1. ได้ดำเนินการหาทางช่วยเหลือเด็กนักเรียนหญิงที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้ได้มีโอกาส เรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษา เพื่อเปลี่ยนความคิดและค่านิยมในการออกไปประกอบอาชีพที่ไม่พึงประสงค์ รวมทั้งจะได้นำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์จาการศึกษาเล่าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาไปช่วย เหลือครอบครัว วิธีการรณรงค์จะใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น ชี้แจงให้ผู้ปกครองเห็นคุณค่าของการศึกษา จัด หาสถานที่เรียนในโรงเรียนประเภทประจำ และ/ประเภทไป-กลับ จัดทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน ที่ ผู้ปกครองอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถจ่ายเงินให้แก่เด็กเป็นค่าเสื้อผ้า อาหารกลางวัน หนังสือและอุปกรณ์ การเรียนที่จำเป็น รวมทั้งค่าพาหนะเดินทางเป็น
2. ในกปีการศึกษา 2537 นี้ กระทรวงศึกษาธิการสามารถรณรงค์ให้เด้กที่เรียนจบชั้นประ ถมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2536 ได้เรียนต่อชั้นมัถยมศึกษาตอนต้น ได้ในระดับหนึ่งแล้ว และในปี การศุกษา 2538 นี้ จะได้เร่งรณรงค์ให้เด็กที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกาาปีที่ 6 ในปีการสึกาา 2538 ได้ เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และในขณะเดียวกันจะพยายามให้เด็กที่เรียนจบชั้นมัถ ยมศึกษาตอนต้นได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นอีกด้วย ก็จะช่วยแก่ปัญหาโสเภณีเด็กลงได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 ตุลาคม 2538--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาโสเภณีเด็กตามที่กระ ทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
1. กระทรวงอุตสาหกรรม (พฤษภาคม - กรกฎาคม 2537) สรุปได้ดังนี้
1. ดำเนินการส่งเสริมการประกอบอาชีพให้แก่ราษฎร ในชนบทโดยการฝึกอาชีพ อุตสาหกรรมในครอบครัว และหัตถกรรมไทยโดยต่อเนื่อง
(1) ภาคเหนือ มีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งหมด 364 คน เป็นเด็กหญิง อายุ 13-18 ปี 71 คน
(2) ภาคใต้ มีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งหมด 570 คน เป็นเด็กหญิง อายุ 13-18 ปี 74 คน
(3) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งหมด 482 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 13-18 ปี 100 คน
(4) ภาคกลาง มีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งหมด 298 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 13-18 ปี 83 คน
(5) รวมผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งสิ้น 1,714 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 13-18 ปี 328 คน
2. จัดกิจกรรมสนับสนุน ดังนี้
(1) ให้บริการกู้ยืมเงินแก้ผู้ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมในภูมิภาค ต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ
(2) ส่งเสริมด้านการตลาด เช่น จัดงานแสดงสินค้าเพื่อเผยแพร่และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของผู้ ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรม รับผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการเข้าตั้งแสดงในศูนย์ ส่งเสริมการตลาดหัตถกรรมไทยของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รับซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบอาชีพและ กลุ่ม จำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กลุ่มอาชีพต่าง ๆ และรับฝากขายผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบอาชีพและกลุ่ม จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ให้กลุ่มอาชีพต่าง ๆ และรับฝากขายผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบอาชีพ
(3) ให้ความรู้เรื่องการจัดการธุรกิจแก่กลุ่มผู้ประกอบอาชีพ และเชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ผลิต
2. กระทรวงศึกษาธิการ (ตุลาคม 2536 - กรกฎาคม 2537) สรุปได้ดังนี้
1. ได้ดำเนินการหาทางช่วยเหลือเด็กนักเรียนหญิงที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้ได้มีโอกาส เรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษา เพื่อเปลี่ยนความคิดและค่านิยมในการออกไปประกอบอาชีพที่ไม่พึงประสงค์ รวมทั้งจะได้นำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์จาการศึกษาเล่าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาไปช่วย เหลือครอบครัว วิธีการรณรงค์จะใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น ชี้แจงให้ผู้ปกครองเห็นคุณค่าของการศึกษา จัด หาสถานที่เรียนในโรงเรียนประเภทประจำ และ/ประเภทไป-กลับ จัดทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน ที่ ผู้ปกครองอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถจ่ายเงินให้แก่เด็กเป็นค่าเสื้อผ้า อาหารกลางวัน หนังสือและอุปกรณ์ การเรียนที่จำเป็น รวมทั้งค่าพาหนะเดินทางเป็น
2. ในกปีการศึกษา 2537 นี้ กระทรวงศึกษาธิการสามารถรณรงค์ให้เด้กที่เรียนจบชั้นประ ถมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2536 ได้เรียนต่อชั้นมัถยมศึกษาตอนต้น ได้ในระดับหนึ่งแล้ว และในปี การศุกษา 2538 นี้ จะได้เร่งรณรงค์ให้เด็กที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกาาปีที่ 6 ในปีการสึกาา 2538 ได้ เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และในขณะเดียวกันจะพยายามให้เด็กที่เรียนจบชั้นมัถ ยมศึกษาตอนต้นได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นอีกด้วย ก็จะช่วยแก่ปัญหาโสเภณีเด็กลงได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 ตุลาคม 2538--