คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ วงเงิน 400 ล้านบาท และเพื่อการลงทุนในการจัดตั้งสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ 32 วงเงิน 23.23 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 423.23 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รายงานว่าคณะกรรมการอำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ได้มีมติให้สำนักงานธนานุเคราะห์ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2548 ออกไปถึง 6 เดือน เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2548 ทำให้มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงใกล้เปิดภาคการศึกษาประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน 2548 จะมีประชาชนมาใช้บริการมากกว่าปกติ ประกอบกับสำนักงานธนานุเคราะห์จะต้องเปิดกิจการสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ 32 ทำให้ต้องใช้เงินเพื่อการลงทุน เงินสำรองที่เตรียมไว้ใช้หมุนเวียนรับจำนำเกรงว่าจะไม่เพียงพอในการช่วยเหลือประชาชนให้บรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทางการเงินได้ เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย สำนักงานธนานุเคราะห์จึงจำเป็นต้องรีบดำเนินการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการ วงเงิน 400 ล้านบาท และเพื่อการลงทุนในการจัดตั้งสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ 32 วงเงิน 23.23 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 423.23 ล้านบาท ซึ่งในการกู้เงินดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 เมษายน 2548--จบ--
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รายงานว่าคณะกรรมการอำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ได้มีมติให้สำนักงานธนานุเคราะห์ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2548 ออกไปถึง 6 เดือน เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2548 ทำให้มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงใกล้เปิดภาคการศึกษาประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน 2548 จะมีประชาชนมาใช้บริการมากกว่าปกติ ประกอบกับสำนักงานธนานุเคราะห์จะต้องเปิดกิจการสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ 32 ทำให้ต้องใช้เงินเพื่อการลงทุน เงินสำรองที่เตรียมไว้ใช้หมุนเวียนรับจำนำเกรงว่าจะไม่เพียงพอในการช่วยเหลือประชาชนให้บรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทางการเงินได้ เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย สำนักงานธนานุเคราะห์จึงจำเป็นต้องรีบดำเนินการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการ วงเงิน 400 ล้านบาท และเพื่อการลงทุนในการจัดตั้งสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ 32 วงเงิน 23.23 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 423.23 ล้านบาท ซึ่งในการกู้เงินดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 เมษายน 2548--จบ--