ทำเนียบรัฐบาล--19 พ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2541 ให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรับไปดำเนินการเพื่อปรับปรุงประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ค่าทำศพกรณีตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ค่าช่วยเหลือบุตร และค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตรให้แล้วเสร็จ และมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2541 เป็นต้นไป สรุปได้ดังนี้
1. คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ได้มีการประชุมพิจารณาปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานรัฐวิสาหกิจ และมีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงมาตรฐานของสิทธิประโยชน์ในเรื่องสวัสดิการรักษาพยาบาล โดยให้แก้ไขความในข้อ 3 ของประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ค่าทำศพกรณีตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ค่าช่วยเหลือบุตร และค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตร ลงวันที่ 12 กันยายน 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2539 กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เดียวกับทางราชการ
2. กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้ออกประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ค่าทำศพกรณีตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ค่าช่วยเหลือบุตร และค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ 3) แล้ว โดยกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2541 เป็นต้นไป
3. กรณีที่ให้แก้ไขมติคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ซึ่งได้เคยอนุมัติในเรื่องดังกล่าวให้กับรัฐวิสาหกิจหลายแห่งไปแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการนั้น เห็นว่าไม่อาจแก้ไขโดยคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ได้ เนื่องจากสวัสดิการรักษาพยาบาลดังกล่าว เกิดจากผลการพิจารณาของคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ คือ ฝ่ายพนักงานกับฝ่ายบริหารตกลงกันปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ให้สูงกว่ามาตรฐานสิทธิประโยชน์ ซึ่งมีผลใช้บังคับตามกฎหมาย จึงเห็นควรให้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งเจรจากับสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้มีการปรับลดสวัสดิการรักษาพยาบาลทำนองเดียวกับข้าราชการและหลักการแรงงานสัมพันธ์ โดยได้ระบุความข้อนี้ไว้ในประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เพื่อความชัดเจนด้วยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 19 พฤษภาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2541 ให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรับไปดำเนินการเพื่อปรับปรุงประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ค่าทำศพกรณีตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ค่าช่วยเหลือบุตร และค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตรให้แล้วเสร็จ และมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2541 เป็นต้นไป สรุปได้ดังนี้
1. คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ได้มีการประชุมพิจารณาปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานรัฐวิสาหกิจ และมีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงมาตรฐานของสิทธิประโยชน์ในเรื่องสวัสดิการรักษาพยาบาล โดยให้แก้ไขความในข้อ 3 ของประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ค่าทำศพกรณีตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ค่าช่วยเหลือบุตร และค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตร ลงวันที่ 12 กันยายน 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2539 กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เดียวกับทางราชการ
2. กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้ออกประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ค่าทำศพกรณีตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ค่าช่วยเหลือบุตร และค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ 3) แล้ว โดยกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2541 เป็นต้นไป
3. กรณีที่ให้แก้ไขมติคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ซึ่งได้เคยอนุมัติในเรื่องดังกล่าวให้กับรัฐวิสาหกิจหลายแห่งไปแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการนั้น เห็นว่าไม่อาจแก้ไขโดยคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ได้ เนื่องจากสวัสดิการรักษาพยาบาลดังกล่าว เกิดจากผลการพิจารณาของคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ คือ ฝ่ายพนักงานกับฝ่ายบริหารตกลงกันปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ให้สูงกว่ามาตรฐานสิทธิประโยชน์ ซึ่งมีผลใช้บังคับตามกฎหมาย จึงเห็นควรให้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งเจรจากับสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้มีการปรับลดสวัสดิการรักษาพยาบาลทำนองเดียวกับข้าราชการและหลักการแรงงานสัมพันธ์ โดยได้ระบุความข้อนี้ไว้ในประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เพื่อความชัดเจนด้วยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 19 พฤษภาคม 2541--