ทำเนียบรัฐบาล--7 เม.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ ที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ เป็นการขอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
1. ปรับปรุงกำหนดประเภทคดีมโนสาเร่ให้มีความยืดหยุ่น และระบุบังคับให้ศาลต้องใช้วิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่หากปรากฏว่าคดีที่ฟ้องเป็นคดีมโนสาเร่
2. ลดความยุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินคดีมโนสาเร่ เพื่อให้ประชาชนผู้มีอรรถคดีสามารถเข้าดำเนินคดีได้ด้วยตนเอง
3. ปรับระบบกระบวนการพิจารณาและกำหนดระยะเวลาในการดำเนินกระบวนพิจารณาให้สั้นกระชับขึ้น
4. เพิ่มระบบการไกล่เกลี่ยประนีประนอมให้สามารถยุติข้อพิพาทก่อนเข้าสู่ระบบการพิจารณาคดีของศาล เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างคู่ความและลดภาระงานคดีของศาล
5. ใช้ระบบวิธีพิจารณาแบบไต่สวน เพื่อให้ศาลทำหน้าที่ช่วยประชาชนผู้มีอรรถคดีในการพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว
6. ปรับปรุงระบบการพิพากษาและบังคับคดีให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิผลในทางปฏิบัติ
ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีกระบวนการพิจารณาที่ยุ่งยากซับซ้อนในหลายขั้นตอน เป็นเหตุให้การพิจารณาพิพากษาคดีล่าช้าไม่เหมาะสมกับคดีที่มีทุนทรัพย์เล็กน้อย นอกจากนั้นประชาชนทั่วไปที่มีอรรถคดีไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเองได้ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีสูงเกินสมควรเมื่อเปรียบเทียบกับทุนทรัพย์ของคดี และในปัจจุบันปริมาณคดีมโนสาเร่ที่ขึ้นสู่ศาลมีจำนวนมาก สมควรแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และเพื่อให้ประชาชนผู้มีอรรถคดีได้รับการอำนวยความยุติธรรมที่เหมาะสมยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 เมษายน 2541--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ ที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ เป็นการขอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
1. ปรับปรุงกำหนดประเภทคดีมโนสาเร่ให้มีความยืดหยุ่น และระบุบังคับให้ศาลต้องใช้วิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่หากปรากฏว่าคดีที่ฟ้องเป็นคดีมโนสาเร่
2. ลดความยุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินคดีมโนสาเร่ เพื่อให้ประชาชนผู้มีอรรถคดีสามารถเข้าดำเนินคดีได้ด้วยตนเอง
3. ปรับระบบกระบวนการพิจารณาและกำหนดระยะเวลาในการดำเนินกระบวนพิจารณาให้สั้นกระชับขึ้น
4. เพิ่มระบบการไกล่เกลี่ยประนีประนอมให้สามารถยุติข้อพิพาทก่อนเข้าสู่ระบบการพิจารณาคดีของศาล เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างคู่ความและลดภาระงานคดีของศาล
5. ใช้ระบบวิธีพิจารณาแบบไต่สวน เพื่อให้ศาลทำหน้าที่ช่วยประชาชนผู้มีอรรถคดีในการพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว
6. ปรับปรุงระบบการพิพากษาและบังคับคดีให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิผลในทางปฏิบัติ
ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีกระบวนการพิจารณาที่ยุ่งยากซับซ้อนในหลายขั้นตอน เป็นเหตุให้การพิจารณาพิพากษาคดีล่าช้าไม่เหมาะสมกับคดีที่มีทุนทรัพย์เล็กน้อย นอกจากนั้นประชาชนทั่วไปที่มีอรรถคดีไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเองได้ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีสูงเกินสมควรเมื่อเปรียบเทียบกับทุนทรัพย์ของคดี และในปัจจุบันปริมาณคดีมโนสาเร่ที่ขึ้นสู่ศาลมีจำนวนมาก สมควรแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และเพื่อให้ประชาชนผู้มีอรรถคดีได้รับการอำนวยความยุติธรรมที่เหมาะสมยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 เมษายน 2541--