ทำเนียบรัฐบาล--4 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางดำเนินมาตรการรายได้และรายจ่าย ปีงบประมาณ 2541 (เพิ่มเติม) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีแนวทาง ดังนี้
1. ปรับปรุงการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 6,900 ล้านบาท ดังนี้
1.1 เพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับรถยนต์ทุกประเภทที่จัดเก็บภาษีสรรพสามิตอยู่ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5 ของมูลค่า คาดว่าจะได้รายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท
1.2 จัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากรถยนต์กระบะ (Pick-up) ในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่า (ปัจจุบันมิได้มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากรถยนต์กระบะ) โดยมีเหตุผลการจัดเก็บ ดังนี้
ก) รถยนต์กระบะประเภท Pick-up ที่ออกแบบสำหรับให้มีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 4,000 ก.ก. ใช้ถนนและก่อให้เกิดความคับคั่งของการจราจรและก่อให้เกิดมลภาวะเช่นเดียวกับรถยนต์อื่นและรถจักรยานยนต์ จึงสมควรเสียภาษีสรรพสามิตด้วยเช่นเดียวกับรถประเภทอื่น
ข) เติมรถยนต์กระบะประเภท Pick-up ใช้เพื่อการขนส่งเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาได้มีการใช้รถยนต์กระบะเพื่อการโดยสารควบคู่ไปกับการขนส่งมากขึ้นเมื่อได้เก็บภาษีสรรพสามิตจากรถยนต์นั่ง และรถจักรยานยนต์แล้ว จึงควรเก็บภาษีสรรพสามิตจากรถยนต์กระบะด้วย ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตรถยนต์กระบะประเภท Pick-up ในปี 2540 ทั้งปีคาดว่าจะมีจำนวน 228,865 คัน (เทียบกับปี 2539 ผลิตได้ 357,802 คัน) ดังนั้น การจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าในระยะเวลา 10 เดือน ของปีงบประมาณ 2541 คาดว่าจะได้รายได้ประมาณ 2,900 ล้านบาท
2. ปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษี ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรจะทำให้เกิดรายได้อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท
3. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มอัตราการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสำหรับกำไรสุทธิปี 2540 ที่จะนำส่งในปีงบประมาณ 2541 เพื่อให้รายได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 4,000 ล้านบาท และในขณะเดียวกันให้รัฐบาลกำหนดนโยบายการปรับลดงบบริหารของรัฐวิสาหกิจทุกแห่งลงร้อยละ 5 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการประหยัดการใช้จ่ายภาครัฐ และให้จัดตั้งคณะกรรมการ โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน และมีผู้แทนจาก สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาและกำกับติดตามในเรื่องดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 4 พฤศจิกายน 2540--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางดำเนินมาตรการรายได้และรายจ่าย ปีงบประมาณ 2541 (เพิ่มเติม) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีแนวทาง ดังนี้
1. ปรับปรุงการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 6,900 ล้านบาท ดังนี้
1.1 เพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับรถยนต์ทุกประเภทที่จัดเก็บภาษีสรรพสามิตอยู่ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5 ของมูลค่า คาดว่าจะได้รายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท
1.2 จัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากรถยนต์กระบะ (Pick-up) ในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่า (ปัจจุบันมิได้มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากรถยนต์กระบะ) โดยมีเหตุผลการจัดเก็บ ดังนี้
ก) รถยนต์กระบะประเภท Pick-up ที่ออกแบบสำหรับให้มีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 4,000 ก.ก. ใช้ถนนและก่อให้เกิดความคับคั่งของการจราจรและก่อให้เกิดมลภาวะเช่นเดียวกับรถยนต์อื่นและรถจักรยานยนต์ จึงสมควรเสียภาษีสรรพสามิตด้วยเช่นเดียวกับรถประเภทอื่น
ข) เติมรถยนต์กระบะประเภท Pick-up ใช้เพื่อการขนส่งเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาได้มีการใช้รถยนต์กระบะเพื่อการโดยสารควบคู่ไปกับการขนส่งมากขึ้นเมื่อได้เก็บภาษีสรรพสามิตจากรถยนต์นั่ง และรถจักรยานยนต์แล้ว จึงควรเก็บภาษีสรรพสามิตจากรถยนต์กระบะด้วย ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตรถยนต์กระบะประเภท Pick-up ในปี 2540 ทั้งปีคาดว่าจะมีจำนวน 228,865 คัน (เทียบกับปี 2539 ผลิตได้ 357,802 คัน) ดังนั้น การจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าในระยะเวลา 10 เดือน ของปีงบประมาณ 2541 คาดว่าจะได้รายได้ประมาณ 2,900 ล้านบาท
2. ปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษี ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรจะทำให้เกิดรายได้อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท
3. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มอัตราการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสำหรับกำไรสุทธิปี 2540 ที่จะนำส่งในปีงบประมาณ 2541 เพื่อให้รายได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 4,000 ล้านบาท และในขณะเดียวกันให้รัฐบาลกำหนดนโยบายการปรับลดงบบริหารของรัฐวิสาหกิจทุกแห่งลงร้อยละ 5 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการประหยัดการใช้จ่ายภาครัฐ และให้จัดตั้งคณะกรรมการ โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน และมีผู้แทนจาก สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาและกำกับติดตามในเรื่องดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 4 พฤศจิกายน 2540--