ทำเนียบรัฐบาล--12 เม.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยในประเทศเพิ่มขึ้น และให้ดำเนินการเป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เนื่องจากความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการประกาศใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งกำหนดให้รถทุกคันในประเทศเข้าสู่ระบบการประกันภัยภาคบังคับ ประกอบกับการเจรจาการค้ารอบอุรุกวัยได้มีมติให้เปิดเสรีการค้าบริการ ซึ่งรวมถึงการเปิดเสรีการประกันภัยด้วย ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับความเจริญเติบโตของธุรกิจประกันภัยของประเทศ กระแสโลกาภิวัฒน์ และพันธกรณีของแกตต์ ทำให้ต้องปรับนโยบายการให้ประกอบธุรกิจประกันภัยทั้งการประกันชีวิตและการประกันวินาศภัยให้มีความเสรีมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับความเจริญเติบโตของธุรกิจประกันภัยของประเทศ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้บริโภค และการเปิดเสรีธุรกิจประกันภัยให้มากขึ้น ควรเป็นระบบค่อยเป็นค่อยไปตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยมีขั้นตอนเป็นระยะ ดังนี้
1. ในระยะเริ่มแรกควรอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทประกันภัยในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายโดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
2. ในระยะกลางควรเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างประเทศให้สูงขึ้นจากปัจจุบันในอัตราร้อยละ 25 ให้เพิ่มขึ้นสูงสุดไม่เกินร้อยละ 49 เพื่อให้ต่างประเทศสามารถเข้ามาถือสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจประกันภัยได้มากขึ้น ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยการแก้ไขพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535
3. ในระยะยาวควรอนุญาตให้บริษัทประกันภัยต่างประเทศเข้ามาประกอบกิจการหรือตั้งสาขาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นได้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต ทั้งนี้ ต้องรอเวลาที่บริษัทประกันภัยมีความพร้อมที่จะแข่งขันได้ ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งสาขาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีในการอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยใหม่เพิ่มขึ้นนี้ กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดเงื่อนไขที่สำคัญดังนี้ คือ
1. ทุนจดทะเบียนและชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท สำหรับริษัทประกันชีวิต และ 300 ล้านบาท สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อให้บริษัทมีฐานะการเงินมั่นคงและมีเงินทุนเพียงพอกับการขยายงานในอนาคต
2. ต้องมีเงินวางประกันหรือธนาคาพาณิชย์ค้ำประกันในวงเงินไม่น้อยกว่าที่กำหนด เพื่อเป็นประกันว่าบริษัท จะดำเนินการจดทะเบียนและประกอบธุรกิจประกันภัยภายในระยะเวลาที่กำหนด
3. ห้ามมิให้ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทโอนหรือขายหุ้นให้บุคคลอื่นภายใน 3 ปี นับแต่วันจัดตั้งบริษัท ยกเว้นในกรณีเพื่อการพัฒนาธุรกิจประกันภัยของบริษัท และเมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการขายสิทธิต่อผู้อื่น และให้ผู้ยื่นขอมีความตั้งใจจริงในการดำเนินกิจการ
4. มีคณะผู้บริหารและแผนการดำเนินงานที่เหมาะสม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจประกันภัยและประชาชนผู้เอาประกันภัย
5. มีกำหนดระยะเวลาการยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย 3 เดือน โดยให้กระทรวงพาณิชย์ ประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อให้ผู้ที่สนใจจะประกอบธุรกิจประกันภัยสามารถยื่นคำขอได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
6. ให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณาคำขอรับใบอนุญาตของผู้ยื่นประกอบธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด
7. เงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่ระบุในเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัท มหาชน จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจประกันภัยสำหรับปี 2538 และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เห็นควรกำหนดเพิ่มเติม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 เมษายน 2538--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยในประเทศเพิ่มขึ้น และให้ดำเนินการเป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เนื่องจากความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการประกาศใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งกำหนดให้รถทุกคันในประเทศเข้าสู่ระบบการประกันภัยภาคบังคับ ประกอบกับการเจรจาการค้ารอบอุรุกวัยได้มีมติให้เปิดเสรีการค้าบริการ ซึ่งรวมถึงการเปิดเสรีการประกันภัยด้วย ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับความเจริญเติบโตของธุรกิจประกันภัยของประเทศ กระแสโลกาภิวัฒน์ และพันธกรณีของแกตต์ ทำให้ต้องปรับนโยบายการให้ประกอบธุรกิจประกันภัยทั้งการประกันชีวิตและการประกันวินาศภัยให้มีความเสรีมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับความเจริญเติบโตของธุรกิจประกันภัยของประเทศ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้บริโภค และการเปิดเสรีธุรกิจประกันภัยให้มากขึ้น ควรเป็นระบบค่อยเป็นค่อยไปตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยมีขั้นตอนเป็นระยะ ดังนี้
1. ในระยะเริ่มแรกควรอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทประกันภัยในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายโดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
2. ในระยะกลางควรเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างประเทศให้สูงขึ้นจากปัจจุบันในอัตราร้อยละ 25 ให้เพิ่มขึ้นสูงสุดไม่เกินร้อยละ 49 เพื่อให้ต่างประเทศสามารถเข้ามาถือสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจประกันภัยได้มากขึ้น ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยการแก้ไขพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535
3. ในระยะยาวควรอนุญาตให้บริษัทประกันภัยต่างประเทศเข้ามาประกอบกิจการหรือตั้งสาขาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นได้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต ทั้งนี้ ต้องรอเวลาที่บริษัทประกันภัยมีความพร้อมที่จะแข่งขันได้ ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งสาขาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีในการอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยใหม่เพิ่มขึ้นนี้ กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดเงื่อนไขที่สำคัญดังนี้ คือ
1. ทุนจดทะเบียนและชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท สำหรับริษัทประกันชีวิต และ 300 ล้านบาท สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อให้บริษัทมีฐานะการเงินมั่นคงและมีเงินทุนเพียงพอกับการขยายงานในอนาคต
2. ต้องมีเงินวางประกันหรือธนาคาพาณิชย์ค้ำประกันในวงเงินไม่น้อยกว่าที่กำหนด เพื่อเป็นประกันว่าบริษัท จะดำเนินการจดทะเบียนและประกอบธุรกิจประกันภัยภายในระยะเวลาที่กำหนด
3. ห้ามมิให้ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทโอนหรือขายหุ้นให้บุคคลอื่นภายใน 3 ปี นับแต่วันจัดตั้งบริษัท ยกเว้นในกรณีเพื่อการพัฒนาธุรกิจประกันภัยของบริษัท และเมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการขายสิทธิต่อผู้อื่น และให้ผู้ยื่นขอมีความตั้งใจจริงในการดำเนินกิจการ
4. มีคณะผู้บริหารและแผนการดำเนินงานที่เหมาะสม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจประกันภัยและประชาชนผู้เอาประกันภัย
5. มีกำหนดระยะเวลาการยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย 3 เดือน โดยให้กระทรวงพาณิชย์ ประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อให้ผู้ที่สนใจจะประกอบธุรกิจประกันภัยสามารถยื่นคำขอได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
6. ให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณาคำขอรับใบอนุญาตของผู้ยื่นประกอบธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด
7. เงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่ระบุในเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัท มหาชน จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจประกันภัยสำหรับปี 2538 และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เห็นควรกำหนดเพิ่มเติม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 เมษายน 2538--