ทำเนียบรัฐบาล--11 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุมสุดยอดอาหารโลก (World Food Summit) ที่สำนักงานใหญ่ FAO (Food and Agriculture Organization of the United Nations) กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤศจิกายน 2539 ซึ่งอดีตรองนายกรัฐมนตรี (ม.ร.ว. เกษมสโมสร เกษมศรี) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ผลการประชุมสุดยอดอาหารโลกมีสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมเต็มคณะให้รับการรับรอง และให้ความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ต่อเอกสารปฏิญญาโรมเรื่องความมั่นคงทางอาหารโลก และแผนปฏิบัติการจากการประชุมสุดยอด (Rome Declaration on World Food Security และ World Food Summit Plan of Action) ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. Rome Declaration on World Food Security เป็นปฏิญญาร่วมกันที่จะขจัดความหิวโหยและภาวะทุพโภชนาการของประชากรโลกที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งทุกประเทศควรจะสนับสนุนและดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายและแผนปฏิบัติเพื่อความมั่นคงทางอาหารร่วมกัน
2. World Food Summit Plan of Action กล่าวถึงหลักการและเหตุผลที่จะทำให้นโยบายจากการประชุมสุดยอดมีผลในทางปฏิบัติ ซึ่งจำเป็นต้องมีแผนปฏิบัติการที่ถือปฏิบัติร่วมกันในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับโลก จึงกำหนดเป็นข้อผูกพันที่รัฐบาลของทุกประเทศจะถือปฏิบัติร่วมกัน 7 ประการ คือ
1) ให้คำมั่นที่จะสร้างบรรยากการทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ เกื้อกูลต่อการขจัดความยากจน และให้มีความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน ภายใต้พื้นฐานของการมีส่วนร่วมอย่างเสมอภาคระหว่างหญิงและชาย
2) กำหนดและดำเนินนโยบายที่มีเป้าหมายเพื่อขจัดความยากจน ความไม่เสมอภาค เพื่อให้มีภาวะโภชนาการที่ดีและการได้รับอาหารอย่างยั่งยืน
3) ดำเนินนโยบายให้มีการพัฒนาอาหาร การเกษตร ประมง ป่าไม้ และชนบทอย่างยั่งยืน ทั้งในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงและต่ำ ในทุกระดับ
4) พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อให้การค้าอาหารและการเกษตร และนโยบายการค้าในภาพรวม เกื้อกูลต่อความมั่นคงทางอาหาร โดยคำนึงถึงบทบาทอันหลากหลายของภาคการเกษตร
5) พยายามป้องกัน รวมทั้งเตรียมพร้อมที่จะเผชิญต่อภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ และการกระทำของมนุษย์ที่จะนำไปสู่ความต้องการอาหารอย่างฉุกเฉิน
6) ส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐและเอกชน เพื่อเกื้อกูลต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ความยั่งยืนของความมั่นคงทางอาหาร ในทุกสภาพพื้นที่
7) ดำเนินการปฏิบัติ ควบคุม และติดตามผลจากการดำเนินตามแผนปฏิบัตินี้ ในทุกระดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 11 มีนาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุมสุดยอดอาหารโลก (World Food Summit) ที่สำนักงานใหญ่ FAO (Food and Agriculture Organization of the United Nations) กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤศจิกายน 2539 ซึ่งอดีตรองนายกรัฐมนตรี (ม.ร.ว. เกษมสโมสร เกษมศรี) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ผลการประชุมสุดยอดอาหารโลกมีสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมเต็มคณะให้รับการรับรอง และให้ความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ต่อเอกสารปฏิญญาโรมเรื่องความมั่นคงทางอาหารโลก และแผนปฏิบัติการจากการประชุมสุดยอด (Rome Declaration on World Food Security และ World Food Summit Plan of Action) ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. Rome Declaration on World Food Security เป็นปฏิญญาร่วมกันที่จะขจัดความหิวโหยและภาวะทุพโภชนาการของประชากรโลกที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งทุกประเทศควรจะสนับสนุนและดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายและแผนปฏิบัติเพื่อความมั่นคงทางอาหารร่วมกัน
2. World Food Summit Plan of Action กล่าวถึงหลักการและเหตุผลที่จะทำให้นโยบายจากการประชุมสุดยอดมีผลในทางปฏิบัติ ซึ่งจำเป็นต้องมีแผนปฏิบัติการที่ถือปฏิบัติร่วมกันในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับโลก จึงกำหนดเป็นข้อผูกพันที่รัฐบาลของทุกประเทศจะถือปฏิบัติร่วมกัน 7 ประการ คือ
1) ให้คำมั่นที่จะสร้างบรรยากการทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ เกื้อกูลต่อการขจัดความยากจน และให้มีความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน ภายใต้พื้นฐานของการมีส่วนร่วมอย่างเสมอภาคระหว่างหญิงและชาย
2) กำหนดและดำเนินนโยบายที่มีเป้าหมายเพื่อขจัดความยากจน ความไม่เสมอภาค เพื่อให้มีภาวะโภชนาการที่ดีและการได้รับอาหารอย่างยั่งยืน
3) ดำเนินนโยบายให้มีการพัฒนาอาหาร การเกษตร ประมง ป่าไม้ และชนบทอย่างยั่งยืน ทั้งในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงและต่ำ ในทุกระดับ
4) พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อให้การค้าอาหารและการเกษตร และนโยบายการค้าในภาพรวม เกื้อกูลต่อความมั่นคงทางอาหาร โดยคำนึงถึงบทบาทอันหลากหลายของภาคการเกษตร
5) พยายามป้องกัน รวมทั้งเตรียมพร้อมที่จะเผชิญต่อภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ และการกระทำของมนุษย์ที่จะนำไปสู่ความต้องการอาหารอย่างฉุกเฉิน
6) ส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐและเอกชน เพื่อเกื้อกูลต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ความยั่งยืนของความมั่นคงทางอาหาร ในทุกสภาพพื้นที่
7) ดำเนินการปฏิบัติ ควบคุม และติดตามผลจากการดำเนินตามแผนปฏิบัตินี้ ในทุกระดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 11 มีนาคม 2540--