ทำเนียบรัฐบาล--24 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบ การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การ
ออกพันธบัตรในตลาดทุนต่างประเทศของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย-พลังงาน
แห่งชาติ (สพช.) เสนอ ในวงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อใช้ในโครงการลงทุนของ กฟผ. จำนวน 6 โครงการ ได้แก่
(1) โครงการโรงพลังความร้อนร่วมวังน้อย ระยะที่ 2 (2) โครงการโรงไฟฟ้าราชบุรี (โครงการโรงไฟฟ้าราชบุรีพลังความร้อน
ราชบุรี เครื่องที่ 1 และ 2) (3) โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกระบี่ เครื่องที่ 1 (4) โครงการระบบส่งไฟฟ้าเชื่อมโยงไทย
-มาเลเซีย ระยะที่ 2 (5) โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า ระยะที่ 9 และ (6) โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และ
ปริมณฑล ระยะที่ 2 สรุปสาระสำคัญของผลการออกพันธบัตรฯ ได้ดังนี้
1. การศึกษาโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาเรื่อง THAILAND:
ELECTRIC POWER TARIFF โดย สพช.ได้จัดทำขอบเขตการศึกษา (Terms of Referencd : TOR) แล้วเสร็จและได้เวียนแจ้ง
บริษัทที่ปรึกษาที่สนใจแล้ว คาดว่าจะดำเนินการคัดเลือกได้ในเดือนพฤศจิกายน 2541 และเริ่มจัดทำการศึกษาได้ในราวเดือนธันวาคม
2541
2. การปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขณะนี้ได้จัดทำร่างแผนพัฒนา
กำลังผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ที่สอดคล้องกับความต้องการไฟฟ้าในสถานการณ์ปัจจุบันแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างรอการเจรจากับประเทศ
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในเรื่องการรับซื้อไฟฟ้า หากได้ข้อยุติเป็นที่ตกลงร่วมกันแล้ว จะได้นำข้อมูลดังกล่าวประกอบ
เข้าในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อประกาศใช้แผนอย่างเป็นทางการต่อไป
3. การจัดทำแผนการแปรรูป กฟผ.และการเพิ่มประสิทธิภาพ กฟผ.คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (1 กันยายน 2541) เห็นชอบ
แผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อเป็นกรอบในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ในส่วนของแผนแม่บทฯ สาขาพลังงาน ได้รับการพิจารณาเห็น
ชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วและคณะอนุกรรมการประสานการดำเนินงานในอนาคตของการไฟฟ้าได้เห็นชอบในแนวทางการแปลง
แผนสู่ภาคปฏิบัติ โดยมอบให้แต่ละหน่วยงานของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง จัดทำการศึกษาเพื่อการแปรสภาพและการแปรรูป ให้แล้วเสร็จ
ภายในปีพ.ศ. 2542 ซึ่งการแปรรูปโรงไฟฟ้าราชบุรี บริษัทที่ปรึกษาฯได้จัดทำรายงานผลการศึกษาเสนอต่อคณะอนุกรรมการประสานฯ
เป็นระยะๆ และได้รับความเห็นชอบในหลักการการแปรรูปโรงไฟฟ้าราชบุรีตามที่บริษัทที่ปรึกษาฯ เสนอ คาดว่าจะนำเสนอขออนุมัติ
คณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนธันวาคม 2541
4. การศึกษาเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการกำกับดูแลกิจการด้านพลังงาน ขณะนี้บริษัทที่ปรึกษา London Economics
ได้จัดทำรายงานผลการศึกษา เรื่อง Regulatory of the Energy Sector in Thailand ซึ่งเป็นกรอบแนวทางของการกำกับ
ดูแลกิจการด้านพลังงาน โดยเฉพาะกิจการไฟฟ้าของประเทศไทย เสร็จสมบูรณ์แล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2541 และ สพช. ได้จัดส่งให้
แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมพิจารณาผลการศึกษาดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้กำหนดที่จะนำเรื่องผลการศึกษานี้เข้าสู่วาระการประชุม
ของคณะอนุกรรรมการประสานการดำเนินงานในอนาคตของการไฟฟ้าเพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไขของพันธบัตร ดังนี้
ผู้ออกพันธบัตร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ผู้ค้ำประกัน 1. กระทรวงการคลังค้ำประกันดอกเบี้ยพันธบัตร
2. - ธนาคารโลกค้ำประกันเงินต้นแบบ Non-accelerable
Guarantee และกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระคืน
เงินต้นอีกต่อหนึ่ง(Counter Guarantee) ในกรณีที่กฟผ.
ผิดนัดชำระหนี้เมื่อพันธบัตรครบกำหนดไถ่ถอน
- ธนาคารโลกค้ำประกันการจ่ายดอกเบี้ย ครั้งละ 1 งวด
โดยจะค้ำประกันแบบ Rolling Basis (คือ ค้ำประกัน
การชำระดอกเบี้ยที่ครบกำหนด ทีละงวดๆ ไปจนครบอายุ
พันธบัตร)
รูปแบบการออกพันธบัตร พันธบัตรจำหน่ายทั่วไปในรูป Euro/144a โดยจำหน่ายทั้งใน
ยุโรปและสหรัฐฯ และผู้จัดจำหน่ายรับประกันการจัดจำหน่ายทั้ง
จำนวน (Fully Underwritten Basis)
วงเงินพันธบัตร 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
วันออกพันธบัตร 14 ตุลาคม 2541
ระยะไถ่ถอน 10 ปี
วันไถ่ถอน 14 ตุลาคม 2551
การไถ่ถอน กำหนดไถ่ถอนพันธบัตรคืนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันสิ้นระยะไถ่ถอน
ราคาจำหน่าย(Issue Price) ร้อยละ 99.215
อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 7.00 ต่อปี โดยชำระทุกงวดครึ่งปี (กำหนดอัตราคงที่
โดยใช้อัตราตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Us
Treasury Bond)อายุ 10 ปี ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2541 เท่ากับ
4.261 % บวกด้วยส่วนต่าง (spread) ร้อยละ 2.85 ต่อปี)
วันจ่ายดอกเบี้ย 14 เมษายน และ 14 ตุลาคมของทุกปี
ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันของธนาคารโลก ร้อยละ 0.25 ของวงเงินค้ำประกัน
ค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่าย ร้อยละ 0.55 ของวงเงินพันธบัตร
ค่าใช้จ่ายต่างๆ กำหนดไว้ไม่เกิน 60,000 เหรียญสหรัฐฯ
ค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย ไม่เกิน 225,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับค่าให้ปรึกษา บวกค่าใช้
White & Case จ่ายอื่น ๆ ไม่เกินร้อยละ 15 ของค่าที่ปรึกษาข้างต้น
ค่าธรรมเนียมการจัดอันดับเครดิต ร้อยละ 0.0325 ของวงเงินพันธบัตร แต่ไม่เกิน 90,000 เหรียญ
สหรัฐ บวกค่าธรรมเนียม (Non - refundable Fee) อีก
20,000 เหรียญสหรัฐ
ค่าใช้จ่ายในการติดตามอันดับเครดิต 40,000 เหรียญสหรัฐ ต่อปี โดยเริ่มชำระในปีที่สองของการออก
(Surveillance Fee) ของบริษัท Standard พันธบัตร
& Poor's
ภาระภาษี การชำระเงินใด ๆ ภายใต้การออกพันธบัตรจะปลอดภาระภาษีทุกประเภท
การจดทะเบียน Luxembourg Stock Exchange
กฎหมายที่ใช้บังคับ กฎหมายมลรัฐนิวยอร์ค
แกนนำในการจัดจำหน่ายและประกันการจำหน่าย ABN AMRO
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 24 พฤศจิกายน 2541--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบ การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การ
ออกพันธบัตรในตลาดทุนต่างประเทศของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย-พลังงาน
แห่งชาติ (สพช.) เสนอ ในวงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อใช้ในโครงการลงทุนของ กฟผ. จำนวน 6 โครงการ ได้แก่
(1) โครงการโรงพลังความร้อนร่วมวังน้อย ระยะที่ 2 (2) โครงการโรงไฟฟ้าราชบุรี (โครงการโรงไฟฟ้าราชบุรีพลังความร้อน
ราชบุรี เครื่องที่ 1 และ 2) (3) โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกระบี่ เครื่องที่ 1 (4) โครงการระบบส่งไฟฟ้าเชื่อมโยงไทย
-มาเลเซีย ระยะที่ 2 (5) โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า ระยะที่ 9 และ (6) โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และ
ปริมณฑล ระยะที่ 2 สรุปสาระสำคัญของผลการออกพันธบัตรฯ ได้ดังนี้
1. การศึกษาโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาเรื่อง THAILAND:
ELECTRIC POWER TARIFF โดย สพช.ได้จัดทำขอบเขตการศึกษา (Terms of Referencd : TOR) แล้วเสร็จและได้เวียนแจ้ง
บริษัทที่ปรึกษาที่สนใจแล้ว คาดว่าจะดำเนินการคัดเลือกได้ในเดือนพฤศจิกายน 2541 และเริ่มจัดทำการศึกษาได้ในราวเดือนธันวาคม
2541
2. การปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขณะนี้ได้จัดทำร่างแผนพัฒนา
กำลังผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ที่สอดคล้องกับความต้องการไฟฟ้าในสถานการณ์ปัจจุบันแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างรอการเจรจากับประเทศ
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในเรื่องการรับซื้อไฟฟ้า หากได้ข้อยุติเป็นที่ตกลงร่วมกันแล้ว จะได้นำข้อมูลดังกล่าวประกอบ
เข้าในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อประกาศใช้แผนอย่างเป็นทางการต่อไป
3. การจัดทำแผนการแปรรูป กฟผ.และการเพิ่มประสิทธิภาพ กฟผ.คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (1 กันยายน 2541) เห็นชอบ
แผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อเป็นกรอบในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ในส่วนของแผนแม่บทฯ สาขาพลังงาน ได้รับการพิจารณาเห็น
ชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วและคณะอนุกรรมการประสานการดำเนินงานในอนาคตของการไฟฟ้าได้เห็นชอบในแนวทางการแปลง
แผนสู่ภาคปฏิบัติ โดยมอบให้แต่ละหน่วยงานของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง จัดทำการศึกษาเพื่อการแปรสภาพและการแปรรูป ให้แล้วเสร็จ
ภายในปีพ.ศ. 2542 ซึ่งการแปรรูปโรงไฟฟ้าราชบุรี บริษัทที่ปรึกษาฯได้จัดทำรายงานผลการศึกษาเสนอต่อคณะอนุกรรมการประสานฯ
เป็นระยะๆ และได้รับความเห็นชอบในหลักการการแปรรูปโรงไฟฟ้าราชบุรีตามที่บริษัทที่ปรึกษาฯ เสนอ คาดว่าจะนำเสนอขออนุมัติ
คณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนธันวาคม 2541
4. การศึกษาเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการกำกับดูแลกิจการด้านพลังงาน ขณะนี้บริษัทที่ปรึกษา London Economics
ได้จัดทำรายงานผลการศึกษา เรื่อง Regulatory of the Energy Sector in Thailand ซึ่งเป็นกรอบแนวทางของการกำกับ
ดูแลกิจการด้านพลังงาน โดยเฉพาะกิจการไฟฟ้าของประเทศไทย เสร็จสมบูรณ์แล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2541 และ สพช. ได้จัดส่งให้
แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมพิจารณาผลการศึกษาดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้กำหนดที่จะนำเรื่องผลการศึกษานี้เข้าสู่วาระการประชุม
ของคณะอนุกรรรมการประสานการดำเนินงานในอนาคตของการไฟฟ้าเพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไขของพันธบัตร ดังนี้
ผู้ออกพันธบัตร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ผู้ค้ำประกัน 1. กระทรวงการคลังค้ำประกันดอกเบี้ยพันธบัตร
2. - ธนาคารโลกค้ำประกันเงินต้นแบบ Non-accelerable
Guarantee และกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระคืน
เงินต้นอีกต่อหนึ่ง(Counter Guarantee) ในกรณีที่กฟผ.
ผิดนัดชำระหนี้เมื่อพันธบัตรครบกำหนดไถ่ถอน
- ธนาคารโลกค้ำประกันการจ่ายดอกเบี้ย ครั้งละ 1 งวด
โดยจะค้ำประกันแบบ Rolling Basis (คือ ค้ำประกัน
การชำระดอกเบี้ยที่ครบกำหนด ทีละงวดๆ ไปจนครบอายุ
พันธบัตร)
รูปแบบการออกพันธบัตร พันธบัตรจำหน่ายทั่วไปในรูป Euro/144a โดยจำหน่ายทั้งใน
ยุโรปและสหรัฐฯ และผู้จัดจำหน่ายรับประกันการจัดจำหน่ายทั้ง
จำนวน (Fully Underwritten Basis)
วงเงินพันธบัตร 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
วันออกพันธบัตร 14 ตุลาคม 2541
ระยะไถ่ถอน 10 ปี
วันไถ่ถอน 14 ตุลาคม 2551
การไถ่ถอน กำหนดไถ่ถอนพันธบัตรคืนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันสิ้นระยะไถ่ถอน
ราคาจำหน่าย(Issue Price) ร้อยละ 99.215
อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 7.00 ต่อปี โดยชำระทุกงวดครึ่งปี (กำหนดอัตราคงที่
โดยใช้อัตราตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Us
Treasury Bond)อายุ 10 ปี ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2541 เท่ากับ
4.261 % บวกด้วยส่วนต่าง (spread) ร้อยละ 2.85 ต่อปี)
วันจ่ายดอกเบี้ย 14 เมษายน และ 14 ตุลาคมของทุกปี
ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันของธนาคารโลก ร้อยละ 0.25 ของวงเงินค้ำประกัน
ค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่าย ร้อยละ 0.55 ของวงเงินพันธบัตร
ค่าใช้จ่ายต่างๆ กำหนดไว้ไม่เกิน 60,000 เหรียญสหรัฐฯ
ค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย ไม่เกิน 225,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับค่าให้ปรึกษา บวกค่าใช้
White & Case จ่ายอื่น ๆ ไม่เกินร้อยละ 15 ของค่าที่ปรึกษาข้างต้น
ค่าธรรมเนียมการจัดอันดับเครดิต ร้อยละ 0.0325 ของวงเงินพันธบัตร แต่ไม่เกิน 90,000 เหรียญ
สหรัฐ บวกค่าธรรมเนียม (Non - refundable Fee) อีก
20,000 เหรียญสหรัฐ
ค่าใช้จ่ายในการติดตามอันดับเครดิต 40,000 เหรียญสหรัฐ ต่อปี โดยเริ่มชำระในปีที่สองของการออก
(Surveillance Fee) ของบริษัท Standard พันธบัตร
& Poor's
ภาระภาษี การชำระเงินใด ๆ ภายใต้การออกพันธบัตรจะปลอดภาระภาษีทุกประเภท
การจดทะเบียน Luxembourg Stock Exchange
กฎหมายที่ใช้บังคับ กฎหมายมลรัฐนิวยอร์ค
แกนนำในการจัดจำหน่ายและประกันการจำหน่าย ABN AMRO
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 24 พฤศจิกายน 2541--