ทำเนียบรัฐบาล--25 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังต่อไปนี้
1. รับทราบผลการลงนามในความตกลง ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน
2. อนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ กู้เงินจากสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (Kfw) ภายในวงเงิน 100 ล้านดอยซ์มาร์ค ตามเงื่อนไขที่ตกลง
3. อนุมัติให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้เงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ในนามราชอาณาจักรไทย โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในสัญญาค้ำประกัน รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า ได้มีการลงนามในความตกลงว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2539 โดยมีสาระสำคัญอยู่ภายใต้กรอบเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติทุกประการ อย่างไรก็ดี ผลจากการประกวดราคาภายใต้โครงการติดตั้งระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์สำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนแม่เมาะ เครื่องที่ 4-7 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต่ำกว่าวงเงินที่ประมาณการ จึงมีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ภายใต้ความตกลงว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันเพียง 100 ล้านดอยซ์มาร์ค สำหรับวงเงินส่วนที่เหลือจะได้เจรจากับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันเพื่อจัดสรรให้แก่โครงการอื่นต่อไป ในการนี้ กระทรวงการคลัง และ กฟผ. ได้ร่วมกันเจรจาร่างสัญญากู้เงิน ร่างสัญญาค้ำประกัน และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ Kfw แล้ว สาระสำคัญของเงื่อนไขเงินกู้ และการค้ำประกันเป็นไปในทำนองเดียวกับการกู้เงินรายก่อนๆ ที่ กฟผ.ได้เคยลงนามไว้กับ Kfw
อนึ่ง กระทรวงการคลังชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้
1. รัฐบาลเยอรมันได้ระงับการจัดสรรเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนแก่ประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2534 เนื่องจากเหตุผลการรวมประเทศ และเห็นว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ โดยมีอัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง
2. การกู้เงินรายนี้เป็นเงินกู้ในรูป Composite Finanacing ซึ่งเป็นเงินกู้แบบใหม่ที่รัฐบาลเยอรมันเสนอให้กู้ โดยเป็นเงินกู้ผสมผสานระหว่างเงินกู้ผ่อนปรนจากรัฐบาลเยอรมัน และเงินกู้ที่รัฐบาลเยอรมัน โดย Kfw ระดมจากตลาดทุนเยอรมัน ซึ่งตามภาวะตลาดปัจจุบัน การกู้เงิน โดยวิธีนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยร้อยละ 4 ต่อปี ต่ำกว่าอัตราตลาด ซึ่งมีอัตราร้อยละ 7.42 ต่อปี และมีระยะชำระเงินคืนที่ยาวกว่า และ Kfw และ กฟผ.ได้กำหนดจะลงนามผูกพันการกู้เงินรายปี ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2540
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 25 มีนาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังต่อไปนี้
1. รับทราบผลการลงนามในความตกลง ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน
2. อนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ กู้เงินจากสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (Kfw) ภายในวงเงิน 100 ล้านดอยซ์มาร์ค ตามเงื่อนไขที่ตกลง
3. อนุมัติให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้เงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ในนามราชอาณาจักรไทย โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในสัญญาค้ำประกัน รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า ได้มีการลงนามในความตกลงว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2539 โดยมีสาระสำคัญอยู่ภายใต้กรอบเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติทุกประการ อย่างไรก็ดี ผลจากการประกวดราคาภายใต้โครงการติดตั้งระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์สำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนแม่เมาะ เครื่องที่ 4-7 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต่ำกว่าวงเงินที่ประมาณการ จึงมีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ภายใต้ความตกลงว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันเพียง 100 ล้านดอยซ์มาร์ค สำหรับวงเงินส่วนที่เหลือจะได้เจรจากับรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันเพื่อจัดสรรให้แก่โครงการอื่นต่อไป ในการนี้ กระทรวงการคลัง และ กฟผ. ได้ร่วมกันเจรจาร่างสัญญากู้เงิน ร่างสัญญาค้ำประกัน และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ Kfw แล้ว สาระสำคัญของเงื่อนไขเงินกู้ และการค้ำประกันเป็นไปในทำนองเดียวกับการกู้เงินรายก่อนๆ ที่ กฟผ.ได้เคยลงนามไว้กับ Kfw
อนึ่ง กระทรวงการคลังชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้
1. รัฐบาลเยอรมันได้ระงับการจัดสรรเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนแก่ประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2534 เนื่องจากเหตุผลการรวมประเทศ และเห็นว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ โดยมีอัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง
2. การกู้เงินรายนี้เป็นเงินกู้ในรูป Composite Finanacing ซึ่งเป็นเงินกู้แบบใหม่ที่รัฐบาลเยอรมันเสนอให้กู้ โดยเป็นเงินกู้ผสมผสานระหว่างเงินกู้ผ่อนปรนจากรัฐบาลเยอรมัน และเงินกู้ที่รัฐบาลเยอรมัน โดย Kfw ระดมจากตลาดทุนเยอรมัน ซึ่งตามภาวะตลาดปัจจุบัน การกู้เงิน โดยวิธีนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยร้อยละ 4 ต่อปี ต่ำกว่าอัตราตลาด ซึ่งมีอัตราร้อยละ 7.42 ต่อปี และมีระยะชำระเงินคืนที่ยาวกว่า และ Kfw และ กฟผ.ได้กำหนดจะลงนามผูกพันการกู้เงินรายปี ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2540
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 25 มีนาคม 2540--