คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอให้กระทรวงการต่างประเทศลงนามและให้สัตยาบันสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับออสเตรเลียว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญา ในโอกาสอันเหมาะสมตามที่จะตกลงกับฝ่ายออสเตรเลีย โดยสนธิสัญญาฉบับนี้จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้ายระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันในทุกข้อบทแล้วและฝ่ายไทยมีพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 เป็นกฎหมายรองรับไม่ต้องขอความเห็นชอบต่อรัฐสภาก่อนการลงนาม สนธิสัญญานี้จะมีผลใช้บังคับเมื่อครบ 30 วัน ภายหลังจากวันที่รัฐคู่สัญญาแจ้งต่อกันและกันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของตนเพื่อการมีผลใช้บังคับของสนธิสัญญานี้ รัฐคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจบอกเลิกสนธิสัญญาได้ทุกเมื่อ โดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้รัฐคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบ การบอกเลิกจะมีผลเมื่อครบ 6 เดือนหลังจากวันที่แจ้ง
ทั้งนี้รัฐคู่สัญญาจะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างกว้างขวางที่สุดตามบทบัญญัติแห่งสนธิสัญญานี้ในเรื่องที่เกี่ยวกับการสืบสวน การฟ้องคดีและกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดอาญา ไม่ว่าความช่วยเหลือดังกล่าวจะเป็นความต้องการของหรือได้รับการดำเนินการโดยศาลหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอื่น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 เมษายน 2548--จบ--
ทั้งนี้รัฐคู่สัญญาจะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างกว้างขวางที่สุดตามบทบัญญัติแห่งสนธิสัญญานี้ในเรื่องที่เกี่ยวกับการสืบสวน การฟ้องคดีและกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดอาญา ไม่ว่าความช่วยเหลือดังกล่าวจะเป็นความต้องการของหรือได้รับการดำเนินการโดยศาลหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอื่น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 เมษายน 2548--จบ--