คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขอรับการสนับสนุนโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุนตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแล้วมีมติอนุมัติเห็นชอบในหลักการโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุนโดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) รับเรื่องนี้ไปพิจารณาทบทวนร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี(นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม โดยให้รับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงาน ก.พ. ไปประกอบการพิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวว่า เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนแพทย์ในประเทศโดยเฉพาะในชนบท และปัญหาแพทย์จากภาครัฐไหลออกไปภาคเอกชนมากขึ้น ทำให้มีความต้องการแพทย์เพิ่มสูงยิ่งขึ้น ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์แล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อส่งเสริมให้มีการกระจายโอกาสในการศึกษาแพทย์ให้กับนักเรียนในชนบท โดยให้กลับไปปฏิบัติงานในภูมิลำเนา กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ต่าง ๆ จัดทำโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน เพื่อให้มีแพทย์ไปปฏิบัติงานในภูมิลำเนาได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยการปรับกระบวนการคัดเลือกและจำนวนการผลิตแพทย์ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติดังกล่าว เพื่อเกลี่ยจำนวนแพทย์บางส่วนมาให้กับโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน โดยในภาพรวมไม่ได้เพิ่มจำนวนการผลิตแพทย์จากเป้าหมายเดิม ซึ่งสรุปสาระสำคัญของโครงการได้ ดังนี้
1. วิธีดำเนินการ
1.1 กำหนดจำนวนโควตาที่คณะแพทยศาสตร์แต่ละแห่ง และกำหนดพื้นที่เป็นรายจังหวัดให้คณะแพทยศาสตร์ที่เข้าร่วมโครงการรับผิดชอบ
1.2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และคณะแพทยศาสตร์ที่รับผิดชอบแต่ละจังหวัด ร่วมกันจัดทำแนวทางและหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกนักเรียนในพื้นที่โดยการคัดเลือกจำนวน 2 เท่าของโควตา
1.3 นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกในช่วงชั้นมัธยมปีที่ 6 ทั้งในช่วงเปิดและปิดภาคเรียนจะได้รับการพัฒนาศักยภาพ โดยการจัดเข้าค่ายวิชาการการพัฒนาทัศนคติและการเรียนรู้สู่ความเป็นแพทย์เบื้องต้น
1.4 คณะแพทยศาสตร์แต่ละแห่งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกนักเรียนที่ผ่านการพัฒนาศักยภาพ เพื่อเข้าศึกษาแพทย์ โดยต้องให้ความสำคัญกับนักเรียนที่มีภูมิลำเนาในระดับอำเภอที่มีความขาดแคลนแพทย์
1.5 นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาแพทย์ ระหว่างการเรียนชั้นปีที่ 1-3 จะได้รับการพัฒนา ด้านวิชาการอย่างเข้มข้น
1.6 เมื่อแพทย์ในโครงการสำเร็จการศึกษาแล้ว ต้องปฏิบัติงานในภูมิลำเนาตามเงื่อนไขการชดใช้ทุน โดยต้องปฏิบัติงานระดับอำเภอที่กำหนดติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี หลังผ่านการเพิ่มพูนทักษะแล้ว ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานชดใช้ทุนรวม 6 ปี หรือ กรณีผิดสัญญาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขต้องชดใช้เงิน จำนวน 2 ล้านบาท
2. ระยะเวลาดำเนินการ เริ่มรับนักเรียนเข้าศึกษาแพทย์ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 เป็นต้นไป จนถึงรุ่นสุดท้ายที่จะเข้ารับในปีการศึกษา 2556 ซึ่งต้องเริ่มพัฒนาศักยภาพนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 6 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 เป็นต้นไป
3. ปัจจัยที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ
3.1 การพัฒนาความพร้อมและศักยภาพนักเรียนทั้งด้านวิชาการ ทัศนคติ และความประสงค์ที่จะเป็นแพทย์
3.2 การสนับสนุนทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว และค่าธรรมเนียมการศึกษา
3.3 กระบวนการคัดเลือกนักเรียนเพื่อเข้าเรียนแพทย์ต้องแตกต่างจากระบบการคัดเลือกปกติของคณะแพทย์ศาสตร์แต่ละแห่ง
3.4 การพัฒนาศักยภาพของคณะแพทยศาสตร์ จะต้องได้รับการสนับสนุนอัตราอาจารย์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้มาตรฐานในการผลิตแพทย์ในสัดส่วนอาจารย์ : นักศึกษา เป็น 1:4 และต้องได้รับการสนับสนุนงบลงทุนให้เพียงพอและเหมาะสมด้วย
3.5 กำหนดเงื่อนไขการชดใช้ทุนเพื่อให้แพทย์ที่สำเร็จจากโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุนกระจายอยู่ในภูมิลำเนาได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากแพทย์กลุ่มนี้จะเป็นผู้ได้รับสิทธิพิเศษในกระบวนการคัดเลือก และได้รับทุนสนับสนุนจึงจำเป็นต้องกำหนดเงื่อนไขการชดใช้ทุนเป็น 6 ปี หรือกรณีจ่ายเงินแทนการปฏิบัติงานกำหนดเป็น 2 ล้านบาท ตลอดจนเงื่อนไขการสร้างขวัญกำลังใจ เช่น ค่าตอบแทนที่แตกต่างและจูงใจ การสร้างศักดิ์ศรีของความเป็นแพทย์เวชปฏิบัติครอบครัวซึ่งเหมาะสมกับการปฏิบัติงานในชุมชนมากกว่าความเป็นแพทย์เฉพาะทาง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 สิงหาคม 2548--จบ--
กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวว่า เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนแพทย์ในประเทศโดยเฉพาะในชนบท และปัญหาแพทย์จากภาครัฐไหลออกไปภาคเอกชนมากขึ้น ทำให้มีความต้องการแพทย์เพิ่มสูงยิ่งขึ้น ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์แล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อส่งเสริมให้มีการกระจายโอกาสในการศึกษาแพทย์ให้กับนักเรียนในชนบท โดยให้กลับไปปฏิบัติงานในภูมิลำเนา กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ต่าง ๆ จัดทำโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน เพื่อให้มีแพทย์ไปปฏิบัติงานในภูมิลำเนาได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยการปรับกระบวนการคัดเลือกและจำนวนการผลิตแพทย์ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติดังกล่าว เพื่อเกลี่ยจำนวนแพทย์บางส่วนมาให้กับโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน โดยในภาพรวมไม่ได้เพิ่มจำนวนการผลิตแพทย์จากเป้าหมายเดิม ซึ่งสรุปสาระสำคัญของโครงการได้ ดังนี้
1. วิธีดำเนินการ
1.1 กำหนดจำนวนโควตาที่คณะแพทยศาสตร์แต่ละแห่ง และกำหนดพื้นที่เป็นรายจังหวัดให้คณะแพทยศาสตร์ที่เข้าร่วมโครงการรับผิดชอบ
1.2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และคณะแพทยศาสตร์ที่รับผิดชอบแต่ละจังหวัด ร่วมกันจัดทำแนวทางและหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกนักเรียนในพื้นที่โดยการคัดเลือกจำนวน 2 เท่าของโควตา
1.3 นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกในช่วงชั้นมัธยมปีที่ 6 ทั้งในช่วงเปิดและปิดภาคเรียนจะได้รับการพัฒนาศักยภาพ โดยการจัดเข้าค่ายวิชาการการพัฒนาทัศนคติและการเรียนรู้สู่ความเป็นแพทย์เบื้องต้น
1.4 คณะแพทยศาสตร์แต่ละแห่งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกนักเรียนที่ผ่านการพัฒนาศักยภาพ เพื่อเข้าศึกษาแพทย์ โดยต้องให้ความสำคัญกับนักเรียนที่มีภูมิลำเนาในระดับอำเภอที่มีความขาดแคลนแพทย์
1.5 นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาแพทย์ ระหว่างการเรียนชั้นปีที่ 1-3 จะได้รับการพัฒนา ด้านวิชาการอย่างเข้มข้น
1.6 เมื่อแพทย์ในโครงการสำเร็จการศึกษาแล้ว ต้องปฏิบัติงานในภูมิลำเนาตามเงื่อนไขการชดใช้ทุน โดยต้องปฏิบัติงานระดับอำเภอที่กำหนดติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี หลังผ่านการเพิ่มพูนทักษะแล้ว ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานชดใช้ทุนรวม 6 ปี หรือ กรณีผิดสัญญาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขต้องชดใช้เงิน จำนวน 2 ล้านบาท
2. ระยะเวลาดำเนินการ เริ่มรับนักเรียนเข้าศึกษาแพทย์ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 เป็นต้นไป จนถึงรุ่นสุดท้ายที่จะเข้ารับในปีการศึกษา 2556 ซึ่งต้องเริ่มพัฒนาศักยภาพนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 6 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 เป็นต้นไป
3. ปัจจัยที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ
3.1 การพัฒนาความพร้อมและศักยภาพนักเรียนทั้งด้านวิชาการ ทัศนคติ และความประสงค์ที่จะเป็นแพทย์
3.2 การสนับสนุนทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว และค่าธรรมเนียมการศึกษา
3.3 กระบวนการคัดเลือกนักเรียนเพื่อเข้าเรียนแพทย์ต้องแตกต่างจากระบบการคัดเลือกปกติของคณะแพทย์ศาสตร์แต่ละแห่ง
3.4 การพัฒนาศักยภาพของคณะแพทยศาสตร์ จะต้องได้รับการสนับสนุนอัตราอาจารย์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้มาตรฐานในการผลิตแพทย์ในสัดส่วนอาจารย์ : นักศึกษา เป็น 1:4 และต้องได้รับการสนับสนุนงบลงทุนให้เพียงพอและเหมาะสมด้วย
3.5 กำหนดเงื่อนไขการชดใช้ทุนเพื่อให้แพทย์ที่สำเร็จจากโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุนกระจายอยู่ในภูมิลำเนาได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากแพทย์กลุ่มนี้จะเป็นผู้ได้รับสิทธิพิเศษในกระบวนการคัดเลือก และได้รับทุนสนับสนุนจึงจำเป็นต้องกำหนดเงื่อนไขการชดใช้ทุนเป็น 6 ปี หรือกรณีจ่ายเงินแทนการปฏิบัติงานกำหนดเป็น 2 ล้านบาท ตลอดจนเงื่อนไขการสร้างขวัญกำลังใจ เช่น ค่าตอบแทนที่แตกต่างและจูงใจ การสร้างศักดิ์ศรีของความเป็นแพทย์เวชปฏิบัติครอบครัวซึ่งเหมาะสมกับการปฏิบัติงานในชุมชนมากกว่าความเป็นแพทย์เฉพาะทาง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 สิงหาคม 2548--จบ--