ทำเนียบรัฐบาล--7 เม.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ขอให้นำข้อเสนอของคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพงานอื่นกับทางราชการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตรา เกี่ยวกับเรื่อง มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพงานอื่น แล้วมีมติอนุมัติดังนี้
ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นปฏิบัติ ดังนี้
1. การขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้าง ให้มีการขยายระยะเวลาออกไปได้อีกเป็น 3 กรณี ดังนี้
1.1 สัญญาก่อสร้างที่เสนอราคาและลงนามไว้กับทางราชการภายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 โดยสัญญาก่อสร้างดังกล่าวจะต้องมีผลบังคับใช้ หรือยังมีนิติสัมพันธ์กันอยู่ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ให้ขยายระยะเวลาสัญญาออกไปได้อีก 180 วัน ในกรณีอายุสัญญาก่อสร้างน้อยกว่า 180 วัน ก็ให้ขยายเวลาได้เท่ากับอายุสัญญาเดิม เว้นแต่ในกรณีที่งานแล้วเสร็จก่อนระยะเวลาดังกล่าวให้ขยายระยะเวลาได้ตามที่ก่อสร้างจริง
1.2 สัญญาก่อสร้างที่เสนอราคาไว้กับทางราชการภายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 และลงนามหลังวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ให้ขยายระยะเวลาสัญญาออกไปได้อีก 180 วัน ในกรณีอายุสัญญาก่อสร้างน้อยกว่า 180 วัน ก็ให้ขยายเวลาได้เท่ากับอายุสัญญาเดิม เว้นแต่ในกรณีที่งานแล้วเสร็จก่อนระยะเวลาดังกล่าว ให้ขยายระยะเวลาได้ตามที่ก่อสร้างจริง
1.3 สัญญาก่อสร้างที่เสนอราคาไว้กับทางราชการหลังวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 จนถึงวันที่ 16 กันยายน 2540 ถ้าลงนามในสัญญาแล้ว หรือจะลงนามในโอกาสต่อไป ให้ขยายระยะเวลาสัญญาออกไปได้อีก 120 วัน ในกรณีอายุสัญญาก่อสร้างน้อยกว่า 120 วัน ก็ให้ขยายเวลาได้เท่ากับอายุสัญญาเดิม เว้นแต่ในกรณีที่งานแล้วเสร็จก่อนระยะเวลาดังกล่าว ให้ขยายระยะเวลาได้ตามที่ก่อสร้างจริงให้มีเงื่อนไขประกอบการพิจารณาดังนี้
(1) การเสนอราคาต้องเสนอราคาไว้ภายในวันที่ 16 กันยายน 2540 เท่านั้น
(2) สัญญาที่เสร็จสิ้นไปก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 จะไม่ได้รับการขยายระยะเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ ยกเว้นสัญญายังคงมีนิติสัมพันธ์ตามสัญญาก่อสร้างกันอยู่
(3) สัญญาที่ไม่ไดรับสิทธิในการขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้างได้แก่ สัญญาที่ได้รับการยกเว้นตามมติคณะรัฐมนตรี เช่น สัญญาก่อสร้างงานเอเชี่ยนเกมส์ สัญญาเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริที่มีหมายกำหนดการแน่นอน
(4) การขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้างตามมติคณะรัฐมนตรีให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจในการอนุมัติ โดยให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วันทำการ นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ กรณีที่ได้มีการยื่นเรื่องไว้แล้วและภายใน 60 วันทำการ นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ กรณีที่ยื่นเรื่องใหม่ โดยเรื่องใหม่ผู้รับจ้างจะต้องยื่นขอขยายระยะเวลาเป็นหนังสือภายใน 30 วันทำการ นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ และให้มีผลเมื่อได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจแล้ว
(5) หากมีการต่ออายุสัญญาก่อสร้างด้วยเหตุตามระเบียบ หรือข้อกำหนดอื่นด้วยให้พิจารณาตามระเบียบหรือข้อกำหนดไว้ โดยไม่ถือว่ามีเวลาทับซ้อนกับการขยายเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีนี้(6) กรณีที่เข้าหลักเกณฑ์ในการพิจารณาข้อ (1) และ (2) แล้วหากมีการปรับในช่วงที่ต้องขยายเวลาสัญญาก่อสร้างให้คืนเงินค่าปรับหรือลดหรืองดค่าปรับ
การคืนเงินค่าปรับ หรือลดหรืองดค่าปรับจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์กรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
(6.1) สัญญาที่ครบกำหนดอายุสัญญาก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 แต่ผู้รับจ้างยังคงปฏิบัติงานต่อไป โดยระยะเวลาปฏิบัติงานคาบเกี่ยวไปถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ผู้ว่าจ้างจะต้องขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้าง โดยเริ่มนับระยะเวลายกเว้นตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เป็นต้นไป ตามจำนวนวันที่ได้รับการขยาย และมีสิทธิปรับผู้รับจ้างได้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่สัญญาสิ้นสุดถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2540 หลังจากนั้นผู้ว่าจ้างจะต้องคืนเงินค่าปรับ หรือลด หรืองดค่าปรับแก่ผู้รับจ้างจนถึงวันสุดท้ายที่ได้รับการขยายระยะเวลา
(6.2) สัญญาที่ครบกำหนดอายุสัญญาตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เป็นต้นไปให้คืนเงินค่าปรับ หรือลด หรืองดค่าปรับตามจำนวนวันที่ได้รับการขยาย
(7) การขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้าง ให้เริ่มขยายตั้งแต่วันถัดจากวันที่สัญญาสิ้นสุด เว้นแต่สัญญาสิ้นสุดก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ให้ขยายเวลาให้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2540
(8) กรณีที่มีค่าควบคุมงานและหรือค่าจ้างที่ปรึกษา ให้ผู้รับจ้างเป็นผู้รับภาระค่าควบคุมงานหรือค่าจ้างที่ปรึกษา สำหรับระยะเวลาที่ขยายออกไป โดยผู้รับจ้างจะต้องยินยอมให้ผู้ว่าจ้างหักค่าควบคุมงานและหรือค่าจ้างที่ปรึกษาในส่วนที่อนุมัติให้ขยายเวลาด้วย
(9) มติคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ให้การช่วยเหลือเฉพาะผู้ประกอบการคนไทยหรือกิจการร่วมค้านิติบุคคลสัญชาติไทย และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป โดยไม่ให้มีผลย้อนหลัง
2. การนิรโทษผู้เสนอราคาที่ไม่ประสงค์จะลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงงานก่อสร้างที่เสนอราคาไว้กับทางราชการภายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 หากยังไม่ได้ลงนามและผู้เสนอราคาไม่ประสงค์จะลงนามในสัญญา หรือลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงแล้วแต่ยังไม่ได้ทำงาน ถ้าได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงแลกเปลี่ยนเงินตรา ก็ให้ยกเลิกสัญญา หรือข้อตกลงกันได้โดยไม่ถือว่าเป็นผู้ทิ้งงานและไม่ริบหลักประกันซองเสนอราคาหรือเรียกร้องจากผู้ค้ำประกันตามระเบียบ หรือข้อบังคับเกี่ยวกับการพัสดุของหน่วยงานนั้น ทั้งนี้ ให้แจ้งความประสงค์ต่อคู่สัญญาทราบเป็นหนังสือภายใน 60 วันทำการ นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติ และในกรณีที่ผู้เสนอราคาหรือผู้รับจ้างรายใดได้รับเงินล่วงหน้า ก็ให้กำหนดเป็นเงื่อนไขให้คืนเงินดังกล่าวกับทางราชการก่อนด้วย
การยกเลิกสัญญาหรือข้อตกลงกับทางราชการข้างต้น จะกระทำได้หากไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับทางราชการ ดังนี้
(1) ไม่มีผลกระทบต่องาน แผนงาน หรือโครงการที่มีความสำคัญหรือที่มีความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาล
(2) ไม่มีผลกระทบต่องาน แผนงาน หรือโครงการลงทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหรือโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
(3) ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของสาธารณชนโดยส่วนรวมที่อยู่ในหน้าที่ความรับผิดชอบของส่วนราชการนั้น
(4) ไม่มีผลกระทบต่องานต่อเนื่องส่วนอื่น ทำให้งานนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ทั้งหมด
เมื่อมีผู้รับจ้างได้แสดงความประสงค์ที่จะขอเลิกสัญญาและส่วนราชการได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะเลิกสัญญาหรือข้อตกลงตามที่กล่าวมาข้างต้น ก็ให้ส่วนราชการนั้นพิจารณาตกลงเลิกสัญญา หรือข้อตกลงได้ โดยถือปฏิบัติอนุโลมตามระเบียบพัสดุของหน่วยงานนั้น โดยไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายตามสัญญากันทั้งสองฝ่าย
3. หากมติคณะรัฐมนตรีเรื่องนี้ขัด หรือแย้งกับมติคณะรัฐมนตรี ระเบียบ หรือข้อบังคับที่ใช้บังคับอยู่ ก็ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีนี้ และให้สำนักงบประมาณมีอำนาจวินิจฉัยปัญหาข้อขัดข้องในทางปฏิบัติเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้
4. ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้คือ ผู้ที่ได้ร้องขอเข้ามาภายในกำหนดเวลาที่ทางคณะกรรมการฯ ได้กำหนดให้
5. ผู้ที่ได้ร้องขอและได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้แล้ว หากไปยื่นหรือร่วมยื่นข้อเรียกร้องอื่นใดต่อรัฐบาลที่ขัด หรือมากกว่ามาตรการช่วยเหลือตามที่กำหนดไว้นี้ ให้ถือว่าสละสิทธิในการรับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวนี้ทั้งสิ้น
6. กรณีสัญญาอื่น ๆ ที่ทำกับทางราชการไว้นอกเหนือจากสัญญาก่อสร้าง หากได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตรา ก็ให้อนุโลมใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นเช่นเดียวกับสัญญาก่อสร้าง
7. เงื่อนไข หลักเกณฑ์ สูตรและวิธีการคำนวณที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2532 ที่อนุมัติให้นำสัญญาแบบปรับราคาได้มาใช้เป็นการถาวร โดยมีเงื่อนไข หลักเกณฑ์ ประเภทงานก่อสร้าง สูตรและวิธีการคำนวณที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 เมษายน 2541--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ขอให้นำข้อเสนอของคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพงานอื่นกับทางราชการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตรา เกี่ยวกับเรื่อง มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพงานอื่น แล้วมีมติอนุมัติดังนี้
ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นปฏิบัติ ดังนี้
1. การขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้าง ให้มีการขยายระยะเวลาออกไปได้อีกเป็น 3 กรณี ดังนี้
1.1 สัญญาก่อสร้างที่เสนอราคาและลงนามไว้กับทางราชการภายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 โดยสัญญาก่อสร้างดังกล่าวจะต้องมีผลบังคับใช้ หรือยังมีนิติสัมพันธ์กันอยู่ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ให้ขยายระยะเวลาสัญญาออกไปได้อีก 180 วัน ในกรณีอายุสัญญาก่อสร้างน้อยกว่า 180 วัน ก็ให้ขยายเวลาได้เท่ากับอายุสัญญาเดิม เว้นแต่ในกรณีที่งานแล้วเสร็จก่อนระยะเวลาดังกล่าวให้ขยายระยะเวลาได้ตามที่ก่อสร้างจริง
1.2 สัญญาก่อสร้างที่เสนอราคาไว้กับทางราชการภายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 และลงนามหลังวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ให้ขยายระยะเวลาสัญญาออกไปได้อีก 180 วัน ในกรณีอายุสัญญาก่อสร้างน้อยกว่า 180 วัน ก็ให้ขยายเวลาได้เท่ากับอายุสัญญาเดิม เว้นแต่ในกรณีที่งานแล้วเสร็จก่อนระยะเวลาดังกล่าว ให้ขยายระยะเวลาได้ตามที่ก่อสร้างจริง
1.3 สัญญาก่อสร้างที่เสนอราคาไว้กับทางราชการหลังวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 จนถึงวันที่ 16 กันยายน 2540 ถ้าลงนามในสัญญาแล้ว หรือจะลงนามในโอกาสต่อไป ให้ขยายระยะเวลาสัญญาออกไปได้อีก 120 วัน ในกรณีอายุสัญญาก่อสร้างน้อยกว่า 120 วัน ก็ให้ขยายเวลาได้เท่ากับอายุสัญญาเดิม เว้นแต่ในกรณีที่งานแล้วเสร็จก่อนระยะเวลาดังกล่าว ให้ขยายระยะเวลาได้ตามที่ก่อสร้างจริงให้มีเงื่อนไขประกอบการพิจารณาดังนี้
(1) การเสนอราคาต้องเสนอราคาไว้ภายในวันที่ 16 กันยายน 2540 เท่านั้น
(2) สัญญาที่เสร็จสิ้นไปก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 จะไม่ได้รับการขยายระยะเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ ยกเว้นสัญญายังคงมีนิติสัมพันธ์ตามสัญญาก่อสร้างกันอยู่
(3) สัญญาที่ไม่ไดรับสิทธิในการขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้างได้แก่ สัญญาที่ได้รับการยกเว้นตามมติคณะรัฐมนตรี เช่น สัญญาก่อสร้างงานเอเชี่ยนเกมส์ สัญญาเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริที่มีหมายกำหนดการแน่นอน
(4) การขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้างตามมติคณะรัฐมนตรีให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจในการอนุมัติ โดยให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วันทำการ นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ กรณีที่ได้มีการยื่นเรื่องไว้แล้วและภายใน 60 วันทำการ นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ กรณีที่ยื่นเรื่องใหม่ โดยเรื่องใหม่ผู้รับจ้างจะต้องยื่นขอขยายระยะเวลาเป็นหนังสือภายใน 30 วันทำการ นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ และให้มีผลเมื่อได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจแล้ว
(5) หากมีการต่ออายุสัญญาก่อสร้างด้วยเหตุตามระเบียบ หรือข้อกำหนดอื่นด้วยให้พิจารณาตามระเบียบหรือข้อกำหนดไว้ โดยไม่ถือว่ามีเวลาทับซ้อนกับการขยายเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีนี้(6) กรณีที่เข้าหลักเกณฑ์ในการพิจารณาข้อ (1) และ (2) แล้วหากมีการปรับในช่วงที่ต้องขยายเวลาสัญญาก่อสร้างให้คืนเงินค่าปรับหรือลดหรืองดค่าปรับ
การคืนเงินค่าปรับ หรือลดหรืองดค่าปรับจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์กรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
(6.1) สัญญาที่ครบกำหนดอายุสัญญาก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 แต่ผู้รับจ้างยังคงปฏิบัติงานต่อไป โดยระยะเวลาปฏิบัติงานคาบเกี่ยวไปถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ผู้ว่าจ้างจะต้องขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้าง โดยเริ่มนับระยะเวลายกเว้นตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เป็นต้นไป ตามจำนวนวันที่ได้รับการขยาย และมีสิทธิปรับผู้รับจ้างได้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่สัญญาสิ้นสุดถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2540 หลังจากนั้นผู้ว่าจ้างจะต้องคืนเงินค่าปรับ หรือลด หรืองดค่าปรับแก่ผู้รับจ้างจนถึงวันสุดท้ายที่ได้รับการขยายระยะเวลา
(6.2) สัญญาที่ครบกำหนดอายุสัญญาตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เป็นต้นไปให้คืนเงินค่าปรับ หรือลด หรืองดค่าปรับตามจำนวนวันที่ได้รับการขยาย
(7) การขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้าง ให้เริ่มขยายตั้งแต่วันถัดจากวันที่สัญญาสิ้นสุด เว้นแต่สัญญาสิ้นสุดก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ให้ขยายเวลาให้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2540
(8) กรณีที่มีค่าควบคุมงานและหรือค่าจ้างที่ปรึกษา ให้ผู้รับจ้างเป็นผู้รับภาระค่าควบคุมงานหรือค่าจ้างที่ปรึกษา สำหรับระยะเวลาที่ขยายออกไป โดยผู้รับจ้างจะต้องยินยอมให้ผู้ว่าจ้างหักค่าควบคุมงานและหรือค่าจ้างที่ปรึกษาในส่วนที่อนุมัติให้ขยายเวลาด้วย
(9) มติคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ให้การช่วยเหลือเฉพาะผู้ประกอบการคนไทยหรือกิจการร่วมค้านิติบุคคลสัญชาติไทย และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป โดยไม่ให้มีผลย้อนหลัง
2. การนิรโทษผู้เสนอราคาที่ไม่ประสงค์จะลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงงานก่อสร้างที่เสนอราคาไว้กับทางราชการภายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 หากยังไม่ได้ลงนามและผู้เสนอราคาไม่ประสงค์จะลงนามในสัญญา หรือลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงแล้วแต่ยังไม่ได้ทำงาน ถ้าได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงแลกเปลี่ยนเงินตรา ก็ให้ยกเลิกสัญญา หรือข้อตกลงกันได้โดยไม่ถือว่าเป็นผู้ทิ้งงานและไม่ริบหลักประกันซองเสนอราคาหรือเรียกร้องจากผู้ค้ำประกันตามระเบียบ หรือข้อบังคับเกี่ยวกับการพัสดุของหน่วยงานนั้น ทั้งนี้ ให้แจ้งความประสงค์ต่อคู่สัญญาทราบเป็นหนังสือภายใน 60 วันทำการ นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติ และในกรณีที่ผู้เสนอราคาหรือผู้รับจ้างรายใดได้รับเงินล่วงหน้า ก็ให้กำหนดเป็นเงื่อนไขให้คืนเงินดังกล่าวกับทางราชการก่อนด้วย
การยกเลิกสัญญาหรือข้อตกลงกับทางราชการข้างต้น จะกระทำได้หากไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับทางราชการ ดังนี้
(1) ไม่มีผลกระทบต่องาน แผนงาน หรือโครงการที่มีความสำคัญหรือที่มีความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาล
(2) ไม่มีผลกระทบต่องาน แผนงาน หรือโครงการลงทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหรือโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
(3) ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของสาธารณชนโดยส่วนรวมที่อยู่ในหน้าที่ความรับผิดชอบของส่วนราชการนั้น
(4) ไม่มีผลกระทบต่องานต่อเนื่องส่วนอื่น ทำให้งานนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ทั้งหมด
เมื่อมีผู้รับจ้างได้แสดงความประสงค์ที่จะขอเลิกสัญญาและส่วนราชการได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะเลิกสัญญาหรือข้อตกลงตามที่กล่าวมาข้างต้น ก็ให้ส่วนราชการนั้นพิจารณาตกลงเลิกสัญญา หรือข้อตกลงได้ โดยถือปฏิบัติอนุโลมตามระเบียบพัสดุของหน่วยงานนั้น โดยไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายตามสัญญากันทั้งสองฝ่าย
3. หากมติคณะรัฐมนตรีเรื่องนี้ขัด หรือแย้งกับมติคณะรัฐมนตรี ระเบียบ หรือข้อบังคับที่ใช้บังคับอยู่ ก็ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีนี้ และให้สำนักงบประมาณมีอำนาจวินิจฉัยปัญหาข้อขัดข้องในทางปฏิบัติเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้
4. ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้คือ ผู้ที่ได้ร้องขอเข้ามาภายในกำหนดเวลาที่ทางคณะกรรมการฯ ได้กำหนดให้
5. ผู้ที่ได้ร้องขอและได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้แล้ว หากไปยื่นหรือร่วมยื่นข้อเรียกร้องอื่นใดต่อรัฐบาลที่ขัด หรือมากกว่ามาตรการช่วยเหลือตามที่กำหนดไว้นี้ ให้ถือว่าสละสิทธิในการรับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวนี้ทั้งสิ้น
6. กรณีสัญญาอื่น ๆ ที่ทำกับทางราชการไว้นอกเหนือจากสัญญาก่อสร้าง หากได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตรา ก็ให้อนุโลมใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นเช่นเดียวกับสัญญาก่อสร้าง
7. เงื่อนไข หลักเกณฑ์ สูตรและวิธีการคำนวณที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2532 ที่อนุมัติให้นำสัญญาแบบปรับราคาได้มาใช้เป็นการถาวร โดยมีเงื่อนไข หลักเกณฑ์ ประเภทงานก่อสร้าง สูตรและวิธีการคำนวณที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 เมษายน 2541--