ทำเนียบรัฐบาล--3 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจให้ความเห็นชอบโครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระ บบไฟฟ้า ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินโครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า โดยมีวงเงินลงทุน รวม 17,999 ล้านบาท แยกเป็นเงินตราต่างประเทศ 6,549 ล้านบาท และเงิน บาท 11,450 ล้านบาท โดยในส่วนของเงินบาท ให้ใช้จากเงินกู้สถาบันการเงินในต่างประเทศ และ /หรือเงินรายได้ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อเพิ่ม ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าให้สูงขึ้น รวมทั้งลดจำนวนครั้งและระยะเวลาที่ไฟฟ้าดับ โดยแผนงานมี การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงขึ้นในเขตเมืองใหม่ พื้นที่ธุรกิจ อุตสาหกรรม นิคมอุต สาหกรรม และพื้นที่สำคัญ มีระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี (พ.ศ. 2539 - 2542) ประโยชน์ที่คาดว่าจะ ได้รับคือ สามารถลดปัญหาไฟกระพริบและไฟดับในระบบจำหน่าย รวมทั้งลดความสูญเสียของธุรกิจ เอกชนที่เกิดขึ้นเนื่องจากไฟกระพริบและไฟดับ นอกจากนี้ โครงการนี้ไม่มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และ ไม่ต้องจัดทำผลการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
2. เห็นชอบให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ในส่วนของเงินตราต่างประ เทศ ตามความเหมาะสมต่อไป
3. เห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพิ่มระดับคุณภาพจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในเขตนิคมอุต สาหกรรมมาบตาพุดและแหลมฉบัง โดยเปลี่ยนระบบสายส่งและสายจำหน่ายที่เป็นสายอากาศให้เป็นสาย เคเบิลใต้ดิน
--ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 2 กันยายน 2539--
คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจให้ความเห็นชอบโครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระ บบไฟฟ้า ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินโครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า โดยมีวงเงินลงทุน รวม 17,999 ล้านบาท แยกเป็นเงินตราต่างประเทศ 6,549 ล้านบาท และเงิน บาท 11,450 ล้านบาท โดยในส่วนของเงินบาท ให้ใช้จากเงินกู้สถาบันการเงินในต่างประเทศ และ /หรือเงินรายได้ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อเพิ่ม ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าให้สูงขึ้น รวมทั้งลดจำนวนครั้งและระยะเวลาที่ไฟฟ้าดับ โดยแผนงานมี การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงขึ้นในเขตเมืองใหม่ พื้นที่ธุรกิจ อุตสาหกรรม นิคมอุต สาหกรรม และพื้นที่สำคัญ มีระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี (พ.ศ. 2539 - 2542) ประโยชน์ที่คาดว่าจะ ได้รับคือ สามารถลดปัญหาไฟกระพริบและไฟดับในระบบจำหน่าย รวมทั้งลดความสูญเสียของธุรกิจ เอกชนที่เกิดขึ้นเนื่องจากไฟกระพริบและไฟดับ นอกจากนี้ โครงการนี้ไม่มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และ ไม่ต้องจัดทำผลการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
2. เห็นชอบให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ในส่วนของเงินตราต่างประ เทศ ตามความเหมาะสมต่อไป
3. เห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพิ่มระดับคุณภาพจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในเขตนิคมอุต สาหกรรมมาบตาพุดและแหลมฉบัง โดยเปลี่ยนระบบสายส่งและสายจำหน่ายที่เป็นสายอากาศให้เป็นสาย เคเบิลใต้ดิน
--ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 2 กันยายน 2539--