ทำเนียบรัฐบาล--18 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2537 ของการทางพิ เศษแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และอนุมัติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยกู้ยืม หรือออกพันธบัตรระยะยาวอายุมากกว่า 1 ปี แทนการออกพันธบัตรระยะสั้นหรือกู้ยืมระยะเวลา 1 ปี โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาเงื่อนไขระยะเวลาที่เหมาะสม ตลอดจนเป็นผู้ค้ำประกันเงินต้น และดอกเบี้ยด้วย
สำหรับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 และ 22 มีนาคม 2537 คือ ได้อนุมัติให้การทางพิเศษ แห่งประเทศไทยออกพันธบัตรระยะสั้นหรือกู้เงินในวงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยให้พันธบัตรหรือการกู้ยืม มีระยะเวลา 1 ปี และต่ออายุวงเงินได้ไม่เกินครั้งละ 1 ปี และให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็น ผู้รับภาระชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณา วิธีการ เงื่อนไข และ รายละเอียดในการกู้เงินและค้ำประกัน
จากการที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้กู้เงินเพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร วงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรอายุ 1 ปี ต่อวงเงินครั้งละ 1 ปี ตั้งแต่ปี 2537 เป็น ต้นมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2537 ทำให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยต้องเสียค่า ธรรมเนียมในการจัดจำหน่ายและประกันการจำหน่ายพันธบัตรในแต่ละปีในอัตราประมาณร้อยละ1 ของ วงเงินกู้จากการออกพันธบัตรแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าปีละ 20 ล้านบาท คณะกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจึงมีมติให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว เพื่ออนุมัติให้การทางพิเศษ แห่งประเทศไทยกู้ยืมหรือออกพันธบัตรระยะยาวมีอายุมากกว่า 1 ปี แทนการออกพันธบัตรระยะสั้น หรือ กู้ยืมระยะเวลา 1 ปี โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาเงื่อนไข ระยะเวลาที่เหมาะสม ตลอดจน เป็นผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 17 กันยายน 2539--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2537 ของการทางพิ เศษแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และอนุมัติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยกู้ยืม หรือออกพันธบัตรระยะยาวอายุมากกว่า 1 ปี แทนการออกพันธบัตรระยะสั้นหรือกู้ยืมระยะเวลา 1 ปี โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาเงื่อนไขระยะเวลาที่เหมาะสม ตลอดจนเป็นผู้ค้ำประกันเงินต้น และดอกเบี้ยด้วย
สำหรับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 และ 22 มีนาคม 2537 คือ ได้อนุมัติให้การทางพิเศษ แห่งประเทศไทยออกพันธบัตรระยะสั้นหรือกู้เงินในวงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยให้พันธบัตรหรือการกู้ยืม มีระยะเวลา 1 ปี และต่ออายุวงเงินได้ไม่เกินครั้งละ 1 ปี และให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็น ผู้รับภาระชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณา วิธีการ เงื่อนไข และ รายละเอียดในการกู้เงินและค้ำประกัน
จากการที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้กู้เงินเพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร วงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรอายุ 1 ปี ต่อวงเงินครั้งละ 1 ปี ตั้งแต่ปี 2537 เป็น ต้นมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2537 ทำให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยต้องเสียค่า ธรรมเนียมในการจัดจำหน่ายและประกันการจำหน่ายพันธบัตรในแต่ละปีในอัตราประมาณร้อยละ1 ของ วงเงินกู้จากการออกพันธบัตรแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าปีละ 20 ล้านบาท คณะกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจึงมีมติให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว เพื่ออนุมัติให้การทางพิเศษ แห่งประเทศไทยกู้ยืมหรือออกพันธบัตรระยะยาวมีอายุมากกว่า 1 ปี แทนการออกพันธบัตรระยะสั้น หรือ กู้ยืมระยะเวลา 1 ปี โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาเงื่อนไข ระยะเวลาที่เหมาะสม ตลอดจน เป็นผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 17 กันยายน 2539--