ทำเนียบรัฐบาล--7 ก.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้เสนอร่างประกาศการมีผลใช้บังคับของอนุสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชรัฐลักเซมเบิร์ก เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้และจากทุน มาเพื่อประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
ทั้งนี้ ไทยและลักเซมเบิร์กได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารอนุสัญญาฯ ระหว่างกัน เพื่อให้อนุสัญญาฯ มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2541 ซึ่งอนุสัญญาฯ ข้อ 30 กำหนดให้อนุสัญญาฯ เริ่มใช้บังคับเมื่อได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารกันแล้ว ดังนั้นอนุสัญญาฯ ฉบับดังกล่าว จึงมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 กรกฎาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้เสนอร่างประกาศการมีผลใช้บังคับของอนุสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชรัฐลักเซมเบิร์ก เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้และจากทุน มาเพื่อประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
ทั้งนี้ ไทยและลักเซมเบิร์กได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารอนุสัญญาฯ ระหว่างกัน เพื่อให้อนุสัญญาฯ มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2541 ซึ่งอนุสัญญาฯ ข้อ 30 กำหนดให้อนุสัญญาฯ เริ่มใช้บังคับเมื่อได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารกันแล้ว ดังนั้นอนุสัญญาฯ ฉบับดังกล่าว จึงมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 กรกฎาคม 2541--