ทำเนียบรัฐบาล--27 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างข้อบังคับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ว่าด้วยกองทุนบำเหน็จผู้ปฏิบัติงานในองค์กาารอุตสาหกรรมป่าไม้ พ.ศ. 2541 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยรับข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง และความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการด้วย
ร่างข้อบังคับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้ยกเลิกข้อบังคับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ฉบับที่ 10 ว่าด้วยกองทุนบำเหน็จผู้ปฏิบัติงานในองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ลงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2521 และข้อบังคับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ฉบับที่ 12 ว่าด้วยกองทุนบำเหน็จผู้ปฏิบัติงานในองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2524 ลงวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2524
2. กำหนดให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) จัดตั้งกองทุนบำเหน็จขึ้น โดยให้ อ.อ.ป. จ่ายเงินสมทบเข้าบัญชีกองทุนบำเหน็จในอัตราร้อยละ 10 ของเงินเดือนและค่าจ้างประจำของผู้ปฏิบัติงานเป็นประจำทุก ๆ เดือน
3. กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานซึ่งได้ทำงานใน อ.อ.ป. ติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีบริบูรณ์ เมื่อออกจากงานเพราะตายหรือเพราะเหตุอื่น ให้มีสิทธิได้รับบำเหน็จเท่ากับเงินเดือนหรือค่าจ้างเดือนสุดท้ายคูณด้วยจำนวนปีที่ผู้นั้นปฏิบัติงาน ในกรณีที่มีเศษของปีให้คำนวณบำเหน็จตามอัตราส่วนของปีที่ผู้นั้นปฏิบัติงานด้วย โดยถือว่าปีหนึ่งมี 365 วัน เว้นแต่ผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นสมาชิกภาพหรือพ้นจากสมาชิกภาพกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือผู้ปฏิบัติงานที่เข้าปฏิบัติงานใน อ.อ.ป. ในวันหรือภายหลังวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จตามข้อบังคับนี้
4. กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานซึ่งถูกลงโทษไล่ออกจากงานตามข้อบังคับของ อ.อ.ป. ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จ
5. เมื่อผู้ปฏิบัติงานถึงแก่ความตาย ให้จ่ายเงินบำเหน็จให้แก่บุคคลซึ่งผู้ปฏิบัติงานได้แสดงเจตนาระบุไว้เป็นหนังสือและการขอรับบำเหน็จให้ยื่นคำร้องขอภายในกำหนดเวลา 90 วัน นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งหรือผู้ปฏิบัติงานตาย
6. กำหนดให้ภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีทุกปี ให้แสดงงบดุลบัญชีรายรับและรายจ่ายของกองทุนบำเหน็จซึ่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้วต่อคณะกรรมการของ อ.อ.ป. เพื่อทราบ
7. กำหนดให้กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติ หรือการตีความในข้อบังคับนี้ ให้ผู้อำนวยการเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 ตุลาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างข้อบังคับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ว่าด้วยกองทุนบำเหน็จผู้ปฏิบัติงานในองค์กาารอุตสาหกรรมป่าไม้ พ.ศ. 2541 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยรับข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง และความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการด้วย
ร่างข้อบังคับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้ยกเลิกข้อบังคับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ฉบับที่ 10 ว่าด้วยกองทุนบำเหน็จผู้ปฏิบัติงานในองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ลงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2521 และข้อบังคับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ฉบับที่ 12 ว่าด้วยกองทุนบำเหน็จผู้ปฏิบัติงานในองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2524 ลงวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2524
2. กำหนดให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) จัดตั้งกองทุนบำเหน็จขึ้น โดยให้ อ.อ.ป. จ่ายเงินสมทบเข้าบัญชีกองทุนบำเหน็จในอัตราร้อยละ 10 ของเงินเดือนและค่าจ้างประจำของผู้ปฏิบัติงานเป็นประจำทุก ๆ เดือน
3. กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานซึ่งได้ทำงานใน อ.อ.ป. ติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีบริบูรณ์ เมื่อออกจากงานเพราะตายหรือเพราะเหตุอื่น ให้มีสิทธิได้รับบำเหน็จเท่ากับเงินเดือนหรือค่าจ้างเดือนสุดท้ายคูณด้วยจำนวนปีที่ผู้นั้นปฏิบัติงาน ในกรณีที่มีเศษของปีให้คำนวณบำเหน็จตามอัตราส่วนของปีที่ผู้นั้นปฏิบัติงานด้วย โดยถือว่าปีหนึ่งมี 365 วัน เว้นแต่ผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นสมาชิกภาพหรือพ้นจากสมาชิกภาพกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือผู้ปฏิบัติงานที่เข้าปฏิบัติงานใน อ.อ.ป. ในวันหรือภายหลังวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จตามข้อบังคับนี้
4. กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานซึ่งถูกลงโทษไล่ออกจากงานตามข้อบังคับของ อ.อ.ป. ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จ
5. เมื่อผู้ปฏิบัติงานถึงแก่ความตาย ให้จ่ายเงินบำเหน็จให้แก่บุคคลซึ่งผู้ปฏิบัติงานได้แสดงเจตนาระบุไว้เป็นหนังสือและการขอรับบำเหน็จให้ยื่นคำร้องขอภายในกำหนดเวลา 90 วัน นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งหรือผู้ปฏิบัติงานตาย
6. กำหนดให้ภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีทุกปี ให้แสดงงบดุลบัญชีรายรับและรายจ่ายของกองทุนบำเหน็จซึ่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้วต่อคณะกรรมการของ อ.อ.ป. เพื่อทราบ
7. กำหนดให้กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติ หรือการตีความในข้อบังคับนี้ ให้ผู้อำนวยการเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 ตุลาคม 2541--