ทำเนียบรัฐบาล-- 25 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ รวม 2 ฉบับ และมอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ลงนามในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย โดยให้มีอำนาจในการแก้ไขหรือเพิ่มเติมรายละเอียดในบันทึกความเข้าใจทั้งสองฉบับที่มิใช่สาระสำคัญ และให้รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย
ทั้งนี้ สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจด้านวิชาการเกษตร มีวัตถุประสงค์สำคัญคือ เป็นการเพิ่มความร่วมมือทางด้านวิชาการเกษตร ทั้งในการแลกเปลี่ยนวิชาการพันธุ์พืช และอุปกรณ์ทางวิชาการเกษตร การแลกเปลี่ยนวิทยากร การจัดประชุมสัมมนา กาารฝึกอบรม และศึกษาดูงาน ตลอดจนกาารทำงานวิจัยร่วมและกิจกรรมทางวิชาการอื่น ๆ ที่เป็นไปตามความประสงค์ และผลประโยชน์ร่วมของทั้งสองฝ่าย และสอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละประเทศ โดยแต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยความเสมอภาคกัน โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี และจะขยายเวลาต่อคราวละ 5 ปี นอกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแจ้งยกเลิกความร่วมมือดังกล่าว
สำหรับบันทึกความเข้าใจด้านวิชาการชลประทาน มีสาระสำคัญคือ เป็นการเพิ่มความร่วมมือด้านวิชาการชลประทาน ทั้งในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เอกสารสิ่งพิมพ์ การแลกเปลี่ยนนักวิชาการ ตลอดจนการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมงานการฝึกอบรม - ดูงาน การประชุมสัมมนา ตลอดจนการวิจัยร่วม โดยที่แต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยความเสมอภาคกัน โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี และจะขยายเวลาต่อไปคราวละ 5 ปี นอกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะขอยกเลิกความร่วมมือดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 25 มีนาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ รวม 2 ฉบับ และมอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ลงนามในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย โดยให้มีอำนาจในการแก้ไขหรือเพิ่มเติมรายละเอียดในบันทึกความเข้าใจทั้งสองฉบับที่มิใช่สาระสำคัญ และให้รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย
ทั้งนี้ สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจด้านวิชาการเกษตร มีวัตถุประสงค์สำคัญคือ เป็นการเพิ่มความร่วมมือทางด้านวิชาการเกษตร ทั้งในการแลกเปลี่ยนวิชาการพันธุ์พืช และอุปกรณ์ทางวิชาการเกษตร การแลกเปลี่ยนวิทยากร การจัดประชุมสัมมนา กาารฝึกอบรม และศึกษาดูงาน ตลอดจนกาารทำงานวิจัยร่วมและกิจกรรมทางวิชาการอื่น ๆ ที่เป็นไปตามความประสงค์ และผลประโยชน์ร่วมของทั้งสองฝ่าย และสอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละประเทศ โดยแต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยความเสมอภาคกัน โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี และจะขยายเวลาต่อคราวละ 5 ปี นอกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแจ้งยกเลิกความร่วมมือดังกล่าว
สำหรับบันทึกความเข้าใจด้านวิชาการชลประทาน มีสาระสำคัญคือ เป็นการเพิ่มความร่วมมือด้านวิชาการชลประทาน ทั้งในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เอกสารสิ่งพิมพ์ การแลกเปลี่ยนนักวิชาการ ตลอดจนการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมงานการฝึกอบรม - ดูงาน การประชุมสัมมนา ตลอดจนการวิจัยร่วม โดยที่แต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยความเสมอภาคกัน โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี และจะขยายเวลาต่อไปคราวละ 5 ปี นอกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะขอยกเลิกความร่วมมือดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 25 มีนาคม 2540--