ทำเนียบรัฐบาล--12 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. ร่างความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐสโลเวเนีย
2. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศปรับปรุงถ้อยคำในร่างความตกลงฯ ฉบับภาษาไทยในด้านการใช้ภาษาโดยไม่กระทบหรือเป็นการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของร่างความตกลงฯ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามความตกลงฯ ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการทางการทูตให้ความตกลงฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับต่อไป
ทั้งนี้ สารัตถะของความตกลงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ความตกลงฯ นี้มุ่งประสงค์ให้มีการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างกันอย่างเท่าเทียม โดยภาคีคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องไม่เลือกประติบัติต่อการลงทุนของภาคีคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งตามหลักการไม่เลือกประติบัติ
2. ความตกลงฯ นี้คุ้มครองการลงทุนของภาคีคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งไม่ให้ถูกเวนคืน ถูกโอนเป็นของรัฐ หรืออยู่ภายใต้มาตรการใดที่มีผลเท่าเทียมกับการเวนคืนหรือการโอนเป็นของรัฐ โดยการเวนคืนนั้นจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สาธารณะ บนพื้นฐานของการไม่เลือกประติบัติ และมีการชำระค่าทดแทนโดยพลันและเพียงพอ
3. การลงทุนของภาคีคู่สัญญาจะต้องได้รับการชดใช้ค่าทดแทนหากเกิดความสูญเสียอันเนื่องมาจากสงคราม การขัดกันด้วยอาวุธ การปฏิบัติ การจราจล ฯลฯ โดยการชำระเงินทดแทนจะต้องเป็นไปอย่างทันทีและสามารถโอนได้โดยเสรีในสกุลเงินตราที่ใช้โอนได้โดยเสรี
4. การโอนผลตอบแทนจากการลงทุนจะสามารถกระทำได้โดยเสรีตามอัตราแลกเปลี่ยนราคาตลาดที่เป็นอยู่ในวันที่มีการโอน
5. การระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการลงทุนระหว่างผู้ลงทุนกับภาคีคู่สัญญาให้เป็นไปอย่างฉันท์มิตร หากไม่สามารถกระทำได้ ผู้ลงทุนอาจเลือกที่จะเสนอข้อพิพาทให้ศาลภายในประเทศพิจารณาหรือให้มีการไกล่เกลี่ยโดยกระบวนการอนุญาโตตุลาการซึ่งคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจะมีผลผูกพันคู่กรณี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 9 มีนาคม 2542--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. ร่างความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐสโลเวเนีย
2. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศปรับปรุงถ้อยคำในร่างความตกลงฯ ฉบับภาษาไทยในด้านการใช้ภาษาโดยไม่กระทบหรือเป็นการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของร่างความตกลงฯ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามความตกลงฯ ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการทางการทูตให้ความตกลงฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับต่อไป
ทั้งนี้ สารัตถะของความตกลงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ความตกลงฯ นี้มุ่งประสงค์ให้มีการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างกันอย่างเท่าเทียม โดยภาคีคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องไม่เลือกประติบัติต่อการลงทุนของภาคีคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งตามหลักการไม่เลือกประติบัติ
2. ความตกลงฯ นี้คุ้มครองการลงทุนของภาคีคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งไม่ให้ถูกเวนคืน ถูกโอนเป็นของรัฐ หรืออยู่ภายใต้มาตรการใดที่มีผลเท่าเทียมกับการเวนคืนหรือการโอนเป็นของรัฐ โดยการเวนคืนนั้นจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สาธารณะ บนพื้นฐานของการไม่เลือกประติบัติ และมีการชำระค่าทดแทนโดยพลันและเพียงพอ
3. การลงทุนของภาคีคู่สัญญาจะต้องได้รับการชดใช้ค่าทดแทนหากเกิดความสูญเสียอันเนื่องมาจากสงคราม การขัดกันด้วยอาวุธ การปฏิบัติ การจราจล ฯลฯ โดยการชำระเงินทดแทนจะต้องเป็นไปอย่างทันทีและสามารถโอนได้โดยเสรีในสกุลเงินตราที่ใช้โอนได้โดยเสรี
4. การโอนผลตอบแทนจากการลงทุนจะสามารถกระทำได้โดยเสรีตามอัตราแลกเปลี่ยนราคาตลาดที่เป็นอยู่ในวันที่มีการโอน
5. การระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการลงทุนระหว่างผู้ลงทุนกับภาคีคู่สัญญาให้เป็นไปอย่างฉันท์มิตร หากไม่สามารถกระทำได้ ผู้ลงทุนอาจเลือกที่จะเสนอข้อพิพาทให้ศาลภายในประเทศพิจารณาหรือให้มีการไกล่เกลี่ยโดยกระบวนการอนุญาโตตุลาการซึ่งคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการจะมีผลผูกพันคู่กรณี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 9 มีนาคม 2542--