ทำเนียบรัฐบาล--23 มิ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบมาตรการส่งเสริมกิจการเกี่ยวเนื่องกับกิจการพาณิชยนาวี เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งทางทะเลและการขนส่งต่อเนื่อง รวม 3 มาตรการ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
1. มาตรการสนับสนุนเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการเดินเรือชายฝั่ง โดยมอบหมายให้ส่วนราชการต่าง ๆ รับผิดชอบดำเนินการต่อไป โดยให้ภาครัฐให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ประกอบการขนส่งชายฝั่งในรูปเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำตามโครงการเงินกู้ที่รัฐได้ให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการเดินเรือระหว่างประเทศ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับของเรือเดินทะเลระหว่างประเทศ
2. มาตรการส่งเสริมการจัดตั้งโรงพักสินค้าเพื่อตรวจปล่อยของขาเข้า และบรรจุของขาออกที่ขนส่งโดยระบบคอนเทนเนอร์นอกเขตทำเนียบท่าเรือ : รพท. (Inland Clearance Depot : ICD) โดยมอบหมายให้ส่วนราชการต่าง ๆ รับผิดชอบดำเนินการต่อไป ดังนี้
2.1 ให้กรมศุลกากรพิจารณาสนับสนุนการลงทุนของเอกชนในกิจการ รพท. ริมน้ำ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำ
2.2 ให้กระทรวงการคลังสนับสนุนการจัดหาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อส่งเสริมการลงทุนในกิจการ รพท. ริมน้ำ
2.3 ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนพิจารณาให้สิทธิประโยชน์สูงสุดแก่กิจการ รพท. ริมน้ำ โดยไม่จำกัดเขต
2.4 ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยพิจารณากำหนดอัตราค่าภาระยกขนตู้สินค้าที่นำเข้าหรือออกนอกเขตศุลกากรทางน้ำโดยเรือเดินทะเลชายฝั่งทะเล และเรือลำเลียง ณ ท่าเรือแหลมฉบังเป็นการถาวร และพิจารณาปรับลดอัตราค่าภาระสำหรับเรือเดินชายฝั่ง และเรือลำเลียง ณ ท่าเรือกรุงเทพ ลงเหลือในอัตราเดียวกันกับท่าเรือแหลมฉบัง
3. มาตรการพัฒนากำลังคนด้านพาณิชยนาวี โดยมอบหมายให้ส่วนราชการต่าง ๆ รับผิดชอบดำเนินการต่อไป ดังนี้
3.1 กำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนี้
1) พัฒนาขีดความสามารถในการผลิตบุคลากรด้านพาณิชยนาวีให้เพียงพอกับปริมาณความต้องการในทุกระดับทั้งบนเรือและบนฝั่ง โดยยึดถือมาตรฐานสากล
2) ให้สถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาจารย์ และผู้ฝึกสอนด้านพาณิชยนาวี
3) สนับสนุน และส่งเสริมให้สถาบันการศึกษา ทั้งในระดับอุดมศึกษา และต่ำกว่าอุดมศึกษาเปิดหลักสูตร วิชาและโครงการฝึกอบรม ตลอดจนจัดหาทุนการศึกษาและอื่น ๆ ด้านพาณิชยนาวี
3.2 มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ ดังนี้
1) ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจำกัดอัตรากำลังคนแก่อาจารย์ และผู้ฝึกสอนด้านพาณิชยนาวีเป็นกรณีพิเศษ
2) ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาบรรจุความหมายและลักษณะของธุรกิจการพาณิชยนาวีในหลักสูตรการศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา
3) ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาดำเนินการยกเว้นให้สถาบันด้านพาณิชยนาวีที่ขอรับการสนับสนุนการจัดตั้งสถานศึกษาเอกชนตามโครงการเงินกู้ ไม่ต้องตั้งอยู่นอกเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี และนนทบุรี)
4) ให้กระทรวงศึกษาธิการ ทบวงมหาวิทยาลัย และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนพิจารณากำหนดให้สาขาวิชาด้านพาณิชยนาวีเป็นสาขาวิชาชีพขาดแคลน
5) ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมเจ้าท่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ และหรือให้การสนับสนุนการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการพัฒนากำลังคนของรัฐ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 23 มิถุนายน 2541--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบมาตรการส่งเสริมกิจการเกี่ยวเนื่องกับกิจการพาณิชยนาวี เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งทางทะเลและการขนส่งต่อเนื่อง รวม 3 มาตรการ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
1. มาตรการสนับสนุนเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการเดินเรือชายฝั่ง โดยมอบหมายให้ส่วนราชการต่าง ๆ รับผิดชอบดำเนินการต่อไป โดยให้ภาครัฐให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ประกอบการขนส่งชายฝั่งในรูปเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำตามโครงการเงินกู้ที่รัฐได้ให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการเดินเรือระหว่างประเทศ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับของเรือเดินทะเลระหว่างประเทศ
2. มาตรการส่งเสริมการจัดตั้งโรงพักสินค้าเพื่อตรวจปล่อยของขาเข้า และบรรจุของขาออกที่ขนส่งโดยระบบคอนเทนเนอร์นอกเขตทำเนียบท่าเรือ : รพท. (Inland Clearance Depot : ICD) โดยมอบหมายให้ส่วนราชการต่าง ๆ รับผิดชอบดำเนินการต่อไป ดังนี้
2.1 ให้กรมศุลกากรพิจารณาสนับสนุนการลงทุนของเอกชนในกิจการ รพท. ริมน้ำ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำ
2.2 ให้กระทรวงการคลังสนับสนุนการจัดหาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อส่งเสริมการลงทุนในกิจการ รพท. ริมน้ำ
2.3 ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนพิจารณาให้สิทธิประโยชน์สูงสุดแก่กิจการ รพท. ริมน้ำ โดยไม่จำกัดเขต
2.4 ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยพิจารณากำหนดอัตราค่าภาระยกขนตู้สินค้าที่นำเข้าหรือออกนอกเขตศุลกากรทางน้ำโดยเรือเดินทะเลชายฝั่งทะเล และเรือลำเลียง ณ ท่าเรือแหลมฉบังเป็นการถาวร และพิจารณาปรับลดอัตราค่าภาระสำหรับเรือเดินชายฝั่ง และเรือลำเลียง ณ ท่าเรือกรุงเทพ ลงเหลือในอัตราเดียวกันกับท่าเรือแหลมฉบัง
3. มาตรการพัฒนากำลังคนด้านพาณิชยนาวี โดยมอบหมายให้ส่วนราชการต่าง ๆ รับผิดชอบดำเนินการต่อไป ดังนี้
3.1 กำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนี้
1) พัฒนาขีดความสามารถในการผลิตบุคลากรด้านพาณิชยนาวีให้เพียงพอกับปริมาณความต้องการในทุกระดับทั้งบนเรือและบนฝั่ง โดยยึดถือมาตรฐานสากล
2) ให้สถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาจารย์ และผู้ฝึกสอนด้านพาณิชยนาวี
3) สนับสนุน และส่งเสริมให้สถาบันการศึกษา ทั้งในระดับอุดมศึกษา และต่ำกว่าอุดมศึกษาเปิดหลักสูตร วิชาและโครงการฝึกอบรม ตลอดจนจัดหาทุนการศึกษาและอื่น ๆ ด้านพาณิชยนาวี
3.2 มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ ดังนี้
1) ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจำกัดอัตรากำลังคนแก่อาจารย์ และผู้ฝึกสอนด้านพาณิชยนาวีเป็นกรณีพิเศษ
2) ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาบรรจุความหมายและลักษณะของธุรกิจการพาณิชยนาวีในหลักสูตรการศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา
3) ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาดำเนินการยกเว้นให้สถาบันด้านพาณิชยนาวีที่ขอรับการสนับสนุนการจัดตั้งสถานศึกษาเอกชนตามโครงการเงินกู้ ไม่ต้องตั้งอยู่นอกเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี และนนทบุรี)
4) ให้กระทรวงศึกษาธิการ ทบวงมหาวิทยาลัย และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนพิจารณากำหนดให้สาขาวิชาด้านพาณิชยนาวีเป็นสาขาวิชาชีพขาดแคลน
5) ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมเจ้าท่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ และหรือให้การสนับสนุนการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการพัฒนากำลังคนของรัฐ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 23 มิถุนายน 2541--