ทำเนียบรัฐบาล--2 มิ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังได้รายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับราคาใบยาสูบ
โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การส่งเจ้าหน้าที่กำกับ ดูแล และติดตามการรับซื้อใบยาสูบทุกปี
รวมทั้งมีการประกาศกำหนดราคารับซื้อใบยาสูบขั้นต่ำไว้ สรุปได้ดังนี้
1. กรมสรรพสามิตได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับราคาใบยาสูบมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสาน
งานกับ 3 หน่วยงาน คือโรงงานยาสูบ บริษัทผู้รับซื้อใบยาสูบเพื่อส่งออกและสมาคมผู้บ่มใบยา เพื่อพิจารณาการ
ปรับราคาใบยาสูบให้เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตใบยาและค่าเงินบาทลอยตัว ซึ่งในส่วนของโรงงานยา
สูบได้มีการปรับราคารับซื้อใบยาแห้งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยเฉลี่ยพันธุ์เวอร์ยิเนียกิโลกรัมละ 8.48 บาท พันธุ์
เบอร์เล่ย์กิโลกรัมละ 4.00 บาท และพันธุ์เตอร์กิชกิโลกรัมละ 3.00 บาท สำหรับบริษัทผู้รับซื้อใบยาสูบเพื่อส่ง
ออกได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะรับซื้อใบยาในราคาที่ไม่ต่ำกว่าปีก่อน แม้ว่าจะถูกบริษัทผู้รับซื้อต่างประเทศลดราคา
รับซื้อลงประมาณร้อยละ 10 - 20 ส่วนพันธุ์เตอร์กิชจะปรับราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.00 บาท
2. ในช่วงการซื้อขายใบยาสูบ กรมสรรพสามิตได้ส่งเจ้าหน้าที่กำกับดูแลและติดตามการรับซื้อใบ
ยาสูบทุกปี ซึ่งในปีนี้จากการติดตามดูแลการรับซื้อใบยาสูบ ปรากฏว่าจากการปรับราคาใบยาแห้งดังกล่าวข้างต้น
มีผลให้ราคารับซื้อใบยาสดและใบยาแห้งจากเกษตรกรผู้ทำไร่ยาสูบโดยเฉลี่ยสูงขึ้นจากปีก่อน ตามตารางการรับ
ซื้อใบยาสูบตั้งแต่เริ่มต้นการรับซื้อ ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2541 ดังนี้
บาท/กิโลกรัม
รายการ พันธุ์เวอร์ยิเนีย พันธุ์เบอร์เลย์ พันธุ์เตอร์กิช
ใบยาสด ใบยาแห้ง
ราคาเฉลี่ยปี 2539/2540 2.87 53.60 37.59 39.26
ราคาเฉลี่ยปี 2540/2541 3.18 59.84 42.00 42.26
(ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2541)
เพิ่มขึ้น 0.31 6.24 4.41 3.00
คิดเป็นร้อยละ 10.80 11.64 11.73 7.64
อนึ่ง เนื่องจากปีนี้อากาศแห้งแล้งมาก มีผลให้คุณภาพใบยาสูบจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมา และส่งผลให้ราคา
ใบยาสูบไม่เพิ่มขึ้นมากนัก
3. กรมสรรพสามิต ได้มีการประกาศกำหนดราคารับซื้อใบยาสูบขั้นต่ำ เพื่อเป็นหลักประกันด้านราคา
แก่เกษตรกรผู้ทำไร่ยาสูบไว้แล้ว ส่วนราคาขั้นสูงไม่มีการกำหนดไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด และ
คุณภาพใบยาสูบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 มิถุนายน 2541--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังได้รายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับราคาใบยาสูบ
โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การส่งเจ้าหน้าที่กำกับ ดูแล และติดตามการรับซื้อใบยาสูบทุกปี
รวมทั้งมีการประกาศกำหนดราคารับซื้อใบยาสูบขั้นต่ำไว้ สรุปได้ดังนี้
1. กรมสรรพสามิตได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับราคาใบยาสูบมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสาน
งานกับ 3 หน่วยงาน คือโรงงานยาสูบ บริษัทผู้รับซื้อใบยาสูบเพื่อส่งออกและสมาคมผู้บ่มใบยา เพื่อพิจารณาการ
ปรับราคาใบยาสูบให้เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตใบยาและค่าเงินบาทลอยตัว ซึ่งในส่วนของโรงงานยา
สูบได้มีการปรับราคารับซื้อใบยาแห้งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยเฉลี่ยพันธุ์เวอร์ยิเนียกิโลกรัมละ 8.48 บาท พันธุ์
เบอร์เล่ย์กิโลกรัมละ 4.00 บาท และพันธุ์เตอร์กิชกิโลกรัมละ 3.00 บาท สำหรับบริษัทผู้รับซื้อใบยาสูบเพื่อส่ง
ออกได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะรับซื้อใบยาในราคาที่ไม่ต่ำกว่าปีก่อน แม้ว่าจะถูกบริษัทผู้รับซื้อต่างประเทศลดราคา
รับซื้อลงประมาณร้อยละ 10 - 20 ส่วนพันธุ์เตอร์กิชจะปรับราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.00 บาท
2. ในช่วงการซื้อขายใบยาสูบ กรมสรรพสามิตได้ส่งเจ้าหน้าที่กำกับดูแลและติดตามการรับซื้อใบ
ยาสูบทุกปี ซึ่งในปีนี้จากการติดตามดูแลการรับซื้อใบยาสูบ ปรากฏว่าจากการปรับราคาใบยาแห้งดังกล่าวข้างต้น
มีผลให้ราคารับซื้อใบยาสดและใบยาแห้งจากเกษตรกรผู้ทำไร่ยาสูบโดยเฉลี่ยสูงขึ้นจากปีก่อน ตามตารางการรับ
ซื้อใบยาสูบตั้งแต่เริ่มต้นการรับซื้อ ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2541 ดังนี้
บาท/กิโลกรัม
รายการ พันธุ์เวอร์ยิเนีย พันธุ์เบอร์เลย์ พันธุ์เตอร์กิช
ใบยาสด ใบยาแห้ง
ราคาเฉลี่ยปี 2539/2540 2.87 53.60 37.59 39.26
ราคาเฉลี่ยปี 2540/2541 3.18 59.84 42.00 42.26
(ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2541)
เพิ่มขึ้น 0.31 6.24 4.41 3.00
คิดเป็นร้อยละ 10.80 11.64 11.73 7.64
อนึ่ง เนื่องจากปีนี้อากาศแห้งแล้งมาก มีผลให้คุณภาพใบยาสูบจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมา และส่งผลให้ราคา
ใบยาสูบไม่เพิ่มขึ้นมากนัก
3. กรมสรรพสามิต ได้มีการประกาศกำหนดราคารับซื้อใบยาสูบขั้นต่ำ เพื่อเป็นหลักประกันด้านราคา
แก่เกษตรกรผู้ทำไร่ยาสูบไว้แล้ว ส่วนราคาขั้นสูงไม่มีการกำหนดไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด และ
คุณภาพใบยาสูบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 มิถุนายน 2541--