ทำเนียบรัฐบาล--21 เม.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง ขอปรับแผนงานและขยายเวลาก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสียัด และโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง แล้วมีมติอนุมัติการขยายระยะเวลาการก่อสร้าง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1. แผนงานก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสียัด แผนงานล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ในแผน 3 ปี ในปี พ.ศ. 2542 โครงการฯ เหลืองบประมาณที่จะต้องดำเนินการตามแผนงานอีก 3,343 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการก่อสร้างโครงการฯ ออกไปอีก 3 ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. 2543 - 2545
2. แผนงานก่อสร้างโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง แผนงานล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ในแผน 2 ปี ในปี พ.ศ. 2542 โครงการฯ เหลืองบประมาณที่จะต้องดำเนินการตามแผนงานอีก 2,866 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการฯ ออกไปอีก 2 ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. 2543 - 2544
สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายตามแผนงานก่อสร้างที่ขยายเวลาออกไปของทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ให้กรมชลประทานเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับแผนงานก่อสร้างต่อไป ภายในวงเงินงบประมาณค่าก่อสร้างเดิมของแต่ละโครงการ
ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการดังกล่าวข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรซึ่งจะได้ใช้น้ำในทางด้านการเกษตร อุปโภค-บริโภคเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและบรรเทาอุทกภัย อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับภาคอุตสาหกรรม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 เมษายน 2541--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง ขอปรับแผนงานและขยายเวลาก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสียัด และโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง แล้วมีมติอนุมัติการขยายระยะเวลาการก่อสร้าง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1. แผนงานก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสียัด แผนงานล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ในแผน 3 ปี ในปี พ.ศ. 2542 โครงการฯ เหลืองบประมาณที่จะต้องดำเนินการตามแผนงานอีก 3,343 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการก่อสร้างโครงการฯ ออกไปอีก 3 ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. 2543 - 2545
2. แผนงานก่อสร้างโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง แผนงานล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ในแผน 2 ปี ในปี พ.ศ. 2542 โครงการฯ เหลืองบประมาณที่จะต้องดำเนินการตามแผนงานอีก 2,866 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการฯ ออกไปอีก 2 ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. 2543 - 2544
สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายตามแผนงานก่อสร้างที่ขยายเวลาออกไปของทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ให้กรมชลประทานเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับแผนงานก่อสร้างต่อไป ภายในวงเงินงบประมาณค่าก่อสร้างเดิมของแต่ละโครงการ
ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการดังกล่าวข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรซึ่งจะได้ใช้น้ำในทางด้านการเกษตร อุปโภค-บริโภคเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและบรรเทาอุทกภัย อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับภาคอุตสาหกรรม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 เมษายน 2541--