ทำเนียบรัฐบาล--11 เม.ย-- บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ ของคนต่างด้าว พ.ศ. ...... ที่คณะกรรมการปรับปรุงประกาศของคณะปฏิวัติด้านกฎหมายเกี่ยวกับ เศรษฐกิจปรับปรุงแก้ไขแล้ว มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ให้ยกเลิก
1.1 ประกาศของคณะปฏิวิต ฉบับที่ 281 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515
1.2 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวิต ฉบับที่ 281 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2525
2. ร่างพระราชบัญญัติที่เสนอเพื่อปรับปรุงประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281ฯ มีสาระ สำคัญสรุปได้ดังนี้
2.1 กำหนดให้มีบัญชีประเภทธุรกิจท้ายพระราชบัญญัติ รวม 2 บัญชี คือ
2.1.1 บัญชี 1 เป็นประเภทธุรกิจที่พิจารณาจากบัญชี ก. และบัญชี ข. ท้ายประ กาศของคณะปฏิวัติ ฉบับีที่ 281ฯ เป็นประเภทธุรกิจที่มีผลกระทบต่อคนไทย จึงควรมีการควบคุมหรือสงวน ไว้สำหรับคนไทย
2.1.2 บัญชี 2 เป็นประเภทธุรกิจที่เห็นว่าคนไทยสามารถประกอบธุรกิจแข่งขันได้ ในอนาคต ซึ่งได้กำหนดระยะเวลาควบคุมไว้ 2 ปี และเมื่อพ้นกำหนด 2 ปี ให้ถือว่าประเภทธุรกิจตาม บัญชีนี้เปิดให้มีการแข่งขันโดยเสรี
2.2 ประเภทธุรกิจตามบัญชี 1 หากจะอนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจประเภทใด อาจยกเลิการควบคุมธุรกิจประเภทนั้นหรือเปลี่ยนแปลงได้โดยดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกายกเลิกหรือ เปลี่ยนแปลงบัญชีประเภทธุรกิจ
2.3 ประเภทธุรกิจตามบัญชี 2 คนต่างด้าวสามารถยื่นคำขออนุญาตต่ออธิบดีกรมทะ เบียนการค้าได้
2.4 ประเภทธุรกิจตามบัญชี 2 เมื่อพ้นกำหนด 2 ปี และถือว่าธุรกิจตามบัญชีนี้เปิดให้มี การแข่งขันโดยเสรีแล้ว หากมีผู้ร้องขอให้มีการควบคุมต่อไป หรือเห็นว่ายังมีความจำเป็นที่ต้องมีการควบ คุมต่อไปก็สามารถออกพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาการควบคุมออกไปได้
2.5 หากมีธุรกิจเกิดขึ้นใหม่นอกจากที่กำหนดไว้ตามบัญชี 1 และบัญชี 2 และเห็นว่ามี ความจำเป็นที่ต้องมีการควบคุมก็สามารถออกพระราชกฤษฎีกาควบคุม โดยกำหนดให้ธุรกิจนั้นไปอยู่ในบัญชี 1 หรือ บัญชี 2 ได้ และหากกำหนดให้อยู่ในบัญชี 2 ก็สามารถควบคุมได้ 2 ปี เช่นกัน
2.6 การออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อกำหนดประเภทธุรกิจใหม่ การยกเลิกการเปลี่ยน แปลงเงื่อนไขหรือระยะเวลาตามร่างมาตรา 6 วรรคสอง กำหนดให้ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นสา ธารณะก่อน ส่วนหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการในการรับฟังความคิดเห็นให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระ ทรวง
2.7 ปรับปรุงบทนิยามคำว่า "นิติบุคคลต่างด้าว" ใหม่ โดยให้ตัดบทบัญญติเกี่ยวกับ การครอบงำกิจการด้วยการใช้สิทธิออกเสียงออก
2.9 เพิ่มเติมกรรมการในคณะกรรมการที่ได้จัดตั้งตาม ปว.281 ให้มากขึ้น โดยให้มีผู้ แทนจากภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และวิชาชีพต่าง ๆ รวมทั้งจากภาครัฐ กัลให้มีการจัดตั้งคณะ อนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือการทำงานของคณะกรรมการตามพระราชบัญญตินี้ โดยเฉพาะในเรื่องากรดำน เนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ
2.10 การปรับปรุงกำหนดโทษ ดังนี้
2.10.1 กรณีคนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยฝ่าฝืนมาตรา 5 ให้เพิ่มโทษปรับ จากกฎหมายเดิมที่กำหนดไว้ "ปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท" เป็น "ปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้า ล้านบาท"
2.10.2 กรณีผู้รับใบอนุญาตถูกสั่งพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตและหมดสิทธิ อุทธรณ์หรือรัฐมนตรีวินิจฉัยเป็นที่สุดให้เพิกถอนใบอนุญาตแล้วยังคงประกอบธุรกิจนั้นต่อไป ให้เพิ่มโทษปรับ จากกฎหมายเดิมที่กำหนดไว้ "ปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท" เป็น "ปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้า ล้านบาท"
2.10.3 กรณีผู้มีสัญชาติไทยประกอบธุรกิจอันเป็นของคนต่างด้าว ซึ่งมิได้รับอนุ ญาตตามพระราชบัญญัตินี้ โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของคนสัญชาติไทยให้เพิ่มโทษปรับจากฎหมายเดิมที่กำ หนดไว้ "ปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท" เป็น "ปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าล้านบาท"
2.10.4 กรณีผู้มีสัญชาติไทยถือหุ้นในฐานะเป็นตัวแทนของคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วน ที่เป็นนิติบุคคลหรือบริษัทจำกัด เพื่อให้นิติบุคคลนั้นประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เพิ่มโทษปรับ จากฎหมายเดิมที่กำหนดไว้ "ปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท" เป็น "ปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้า ล้านบาท"
2.11 เพิ่มมาตรการป้องกันการเข้าครอบงำธุรกิจของคนต่างด้าว ดังนี้
2.11.1 กรณีสัญญาการจัดการในลักษณะ ซึ่งให้ประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้จัดการต่าง ด้าวเสมือนกับการเป็นหุ้นใหญ่โดยปริยาย โดยกำหนดให้การรับจ้างจัดการบริหารธุรกิจ เป็นธุรกิจประ เภทหนึ่ง ซึ่งต้องมีกำหนดไว้ในกฎกระทรวง และให้จัดอยู่ในบัญชี 2 (9) หมวด 4 ในบัญชี 2)
2.11.2 กรณีนิติบุคคลไทยที่มีข้อบังคับให้สิทธิในการออกเสียงเป็นของคนต่างด้าว ได้กำหนดให้บริษัทที่มีข้อบังคับดังกล่าว หากประสงค์จะประกอบธุรกิจประเภทใดในบัญชี 1 หรือบัญชี 2 ต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก่อน และให้คนต่างด้าวที่ถือหุ้นในบริษัทที่มีข้อบังคับดัง กล่าว ซึ่งประกอบธุรกิจอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงสิทธิถือหุ้นนั้นต่อไปได้ แต่ถ้าได้จำหน่าย หุ้นนั้นไปก็ให้คงสิทธิถือหุ้นประเภทนั้นได้เท่าที่เหลืออยู่
2.12 เพิ่มบทบัญญัติรับรองสิทธิของคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งได้ รับยกเว้นไม่ให้ใช้การประกาศของคณะปฏิบัติ ฉบับที่ 281ฯ บังคับเป็นการเฉพาะตามสนธิสัญญา หรือ ความตกลงที่รัฐบาลไทยทำกับรัฐบาลต่างประเทศ โดยกำหนดให้ยังคงสิทธิดังกล่าวต่อไปได้ตามเงื่อนไข และระยะเวลาเดิม และกำหนดให้คนต่างด้าวที่จะได้สิทธิในการประกอบธุรกิจใดตามพระราชบัญญัตินี้ โดยอาศัยบทสนธิสัญญาใดจะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี สำหรับการประกอบธุรกิจในบัญชี 1 และ จากอธิบดีสำหรับการประกอบธุรกิจในบัญชี 2
--ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 เมษายน 2538--
คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ ของคนต่างด้าว พ.ศ. ...... ที่คณะกรรมการปรับปรุงประกาศของคณะปฏิวัติด้านกฎหมายเกี่ยวกับ เศรษฐกิจปรับปรุงแก้ไขแล้ว มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ให้ยกเลิก
1.1 ประกาศของคณะปฏิวิต ฉบับที่ 281 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515
1.2 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวิต ฉบับที่ 281 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2525
2. ร่างพระราชบัญญัติที่เสนอเพื่อปรับปรุงประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281ฯ มีสาระ สำคัญสรุปได้ดังนี้
2.1 กำหนดให้มีบัญชีประเภทธุรกิจท้ายพระราชบัญญัติ รวม 2 บัญชี คือ
2.1.1 บัญชี 1 เป็นประเภทธุรกิจที่พิจารณาจากบัญชี ก. และบัญชี ข. ท้ายประ กาศของคณะปฏิวัติ ฉบับีที่ 281ฯ เป็นประเภทธุรกิจที่มีผลกระทบต่อคนไทย จึงควรมีการควบคุมหรือสงวน ไว้สำหรับคนไทย
2.1.2 บัญชี 2 เป็นประเภทธุรกิจที่เห็นว่าคนไทยสามารถประกอบธุรกิจแข่งขันได้ ในอนาคต ซึ่งได้กำหนดระยะเวลาควบคุมไว้ 2 ปี และเมื่อพ้นกำหนด 2 ปี ให้ถือว่าประเภทธุรกิจตาม บัญชีนี้เปิดให้มีการแข่งขันโดยเสรี
2.2 ประเภทธุรกิจตามบัญชี 1 หากจะอนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจประเภทใด อาจยกเลิการควบคุมธุรกิจประเภทนั้นหรือเปลี่ยนแปลงได้โดยดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกายกเลิกหรือ เปลี่ยนแปลงบัญชีประเภทธุรกิจ
2.3 ประเภทธุรกิจตามบัญชี 2 คนต่างด้าวสามารถยื่นคำขออนุญาตต่ออธิบดีกรมทะ เบียนการค้าได้
2.4 ประเภทธุรกิจตามบัญชี 2 เมื่อพ้นกำหนด 2 ปี และถือว่าธุรกิจตามบัญชีนี้เปิดให้มี การแข่งขันโดยเสรีแล้ว หากมีผู้ร้องขอให้มีการควบคุมต่อไป หรือเห็นว่ายังมีความจำเป็นที่ต้องมีการควบ คุมต่อไปก็สามารถออกพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาการควบคุมออกไปได้
2.5 หากมีธุรกิจเกิดขึ้นใหม่นอกจากที่กำหนดไว้ตามบัญชี 1 และบัญชี 2 และเห็นว่ามี ความจำเป็นที่ต้องมีการควบคุมก็สามารถออกพระราชกฤษฎีกาควบคุม โดยกำหนดให้ธุรกิจนั้นไปอยู่ในบัญชี 1 หรือ บัญชี 2 ได้ และหากกำหนดให้อยู่ในบัญชี 2 ก็สามารถควบคุมได้ 2 ปี เช่นกัน
2.6 การออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อกำหนดประเภทธุรกิจใหม่ การยกเลิกการเปลี่ยน แปลงเงื่อนไขหรือระยะเวลาตามร่างมาตรา 6 วรรคสอง กำหนดให้ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นสา ธารณะก่อน ส่วนหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการในการรับฟังความคิดเห็นให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระ ทรวง
2.7 ปรับปรุงบทนิยามคำว่า "นิติบุคคลต่างด้าว" ใหม่ โดยให้ตัดบทบัญญติเกี่ยวกับ การครอบงำกิจการด้วยการใช้สิทธิออกเสียงออก
2.9 เพิ่มเติมกรรมการในคณะกรรมการที่ได้จัดตั้งตาม ปว.281 ให้มากขึ้น โดยให้มีผู้ แทนจากภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และวิชาชีพต่าง ๆ รวมทั้งจากภาครัฐ กัลให้มีการจัดตั้งคณะ อนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือการทำงานของคณะกรรมการตามพระราชบัญญตินี้ โดยเฉพาะในเรื่องากรดำน เนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ
2.10 การปรับปรุงกำหนดโทษ ดังนี้
2.10.1 กรณีคนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยฝ่าฝืนมาตรา 5 ให้เพิ่มโทษปรับ จากกฎหมายเดิมที่กำหนดไว้ "ปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท" เป็น "ปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้า ล้านบาท"
2.10.2 กรณีผู้รับใบอนุญาตถูกสั่งพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตและหมดสิทธิ อุทธรณ์หรือรัฐมนตรีวินิจฉัยเป็นที่สุดให้เพิกถอนใบอนุญาตแล้วยังคงประกอบธุรกิจนั้นต่อไป ให้เพิ่มโทษปรับ จากกฎหมายเดิมที่กำหนดไว้ "ปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท" เป็น "ปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้า ล้านบาท"
2.10.3 กรณีผู้มีสัญชาติไทยประกอบธุรกิจอันเป็นของคนต่างด้าว ซึ่งมิได้รับอนุ ญาตตามพระราชบัญญัตินี้ โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของคนสัญชาติไทยให้เพิ่มโทษปรับจากฎหมายเดิมที่กำ หนดไว้ "ปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท" เป็น "ปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าล้านบาท"
2.10.4 กรณีผู้มีสัญชาติไทยถือหุ้นในฐานะเป็นตัวแทนของคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วน ที่เป็นนิติบุคคลหรือบริษัทจำกัด เพื่อให้นิติบุคคลนั้นประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เพิ่มโทษปรับ จากฎหมายเดิมที่กำหนดไว้ "ปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท" เป็น "ปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้า ล้านบาท"
2.11 เพิ่มมาตรการป้องกันการเข้าครอบงำธุรกิจของคนต่างด้าว ดังนี้
2.11.1 กรณีสัญญาการจัดการในลักษณะ ซึ่งให้ประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้จัดการต่าง ด้าวเสมือนกับการเป็นหุ้นใหญ่โดยปริยาย โดยกำหนดให้การรับจ้างจัดการบริหารธุรกิจ เป็นธุรกิจประ เภทหนึ่ง ซึ่งต้องมีกำหนดไว้ในกฎกระทรวง และให้จัดอยู่ในบัญชี 2 (9) หมวด 4 ในบัญชี 2)
2.11.2 กรณีนิติบุคคลไทยที่มีข้อบังคับให้สิทธิในการออกเสียงเป็นของคนต่างด้าว ได้กำหนดให้บริษัทที่มีข้อบังคับดังกล่าว หากประสงค์จะประกอบธุรกิจประเภทใดในบัญชี 1 หรือบัญชี 2 ต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก่อน และให้คนต่างด้าวที่ถือหุ้นในบริษัทที่มีข้อบังคับดัง กล่าว ซึ่งประกอบธุรกิจอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงสิทธิถือหุ้นนั้นต่อไปได้ แต่ถ้าได้จำหน่าย หุ้นนั้นไปก็ให้คงสิทธิถือหุ้นประเภทนั้นได้เท่าที่เหลืออยู่
2.12 เพิ่มบทบัญญัติรับรองสิทธิของคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งได้ รับยกเว้นไม่ให้ใช้การประกาศของคณะปฏิบัติ ฉบับที่ 281ฯ บังคับเป็นการเฉพาะตามสนธิสัญญา หรือ ความตกลงที่รัฐบาลไทยทำกับรัฐบาลต่างประเทศ โดยกำหนดให้ยังคงสิทธิดังกล่าวต่อไปได้ตามเงื่อนไข และระยะเวลาเดิม และกำหนดให้คนต่างด้าวที่จะได้สิทธิในการประกอบธุรกิจใดตามพระราชบัญญัตินี้ โดยอาศัยบทสนธิสัญญาใดจะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี สำหรับการประกอบธุรกิจในบัญชี 1 และ จากอธิบดีสำหรับการประกอบธุรกิจในบัญชี 2
--ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 เมษายน 2538--