ทำเนียบรัฐบาล--10 ส.ค.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาแนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์และสินค้าอาหาร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. แนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์
กระทรวงพาณิชย์เสนอว่า ภาวะการส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของไทยในช่วง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2538 - 2541 (มกราคม - มิถุนายน) มีอัตราการขยายตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากมูลค่าการส่งออก 755.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (30,212 ล้านบาท) ในปี 2538 ลดลงเหลือ 725.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (29,028 ล้านบาท) ในปี 2540 สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2541 มีมูลค่าส่งออกรวมทั้งสิ้น 288.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (11,532 ล้านบาท) มีอัตราการขยายตัวลดลงถึงร้อยละ 20.9 ไทยมีตลาดส่งออกสำคัญ คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยตลาดญี่ปุ่น มีอัตราลดลงถึงร้อยละ 37.3 สำหรับปัญหาอุปสรรคและแนวทางการส่งเสริมการส่งออกและการแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ได้แก่ ปัญหาอุปสรรคด้านกฎระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐ ปัญหาด้านการเงิน ด้านต้นทุน ด้านการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านแรงงาน ด้านข้อมูลข่าวสาร การเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาปัญหา อุปสรรค และแนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ตามที่กรมส่งเสริมการส่งออกเสนอ เห็นว่าปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ คือ ปัญหาอุปสรรคด้านกฎระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐ อาทิ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งล้าสมัยไม่ทันการณ์ และมุ่งเน้นในด้านการควบคุมมากกว่าการส่งเสริม โดยที่พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ได้กำหนดแนวทางในการปฏิบัติครอบคลุมป่าไม้ทั้งหมด ไม่แยกว่าเป็นป่าธรรมชาติ หรือป่าจากสวนปลูก เช่น ไม้ยางพารา ซึ่งข้อกำหนดบางมาตรายากแก่การปฏิบัติ และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของไทยเป็นอย่างมาก จึงเห็นควรแก้ไขปัญหาด้าน กฎระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และกฎ ระเบียบ มาตรการอื่น ๆ ที่เป็นปัญหาอุปสรรคโดยเร่งด่วน ด้วยการตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปรับปรุง กฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมและพัฒนาการส่งออกของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และให้คณะทำงานฯ รีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และรายงานให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
สำหรับปัญหา อุปสรรคด้านอื่น ๆ อาทิ ปัญหาด้านการเงิน ด้านต้นทุน ด้านการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านแรงงาน ด้านข้อมูลข่าวสาร การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้มีผลการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาในลักษณะมาตรการและแผนงานของหน่วยงานราชการต่าง ๆ อยู่แล้ว จึงเห็นควรให้มีการเร่งรัดติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานนั้น ๆ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมด้วย
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
1. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งคณะทำงานฯ เพื่อแก้ไขปรับปรุง กฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการส่งเสริมและพัฒนาการส่งออกอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ โดยให้คณะทำงานฯ รีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
2. รับทราบสรุปปัญหาอุปสรรค และแนวทางการส่งเสริมการส่งออก และการแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ และให้คณะกรรมการพัฒนาการส่งออกได้มีการเร่งรัดติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
2. แนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าอาหาร
กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาปัญหาอุปสรรค แนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าอาหาร ตามที่กรมส่งเสริมการส่งออกเสนอในกลุ่มสินค้าหลัก คือ กุ้งสดแช่แข็ง แช่เย็น สับปะรดกระป๋อง ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป เนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์เห็นว่าปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการส่งออก ที่ควรเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้จริงจังและเร่งด่วน ดังนี้
1. สินค้ากุ้งแช่เย็นและแช่แข็ง เห็นควรให้เร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพ่อแม่พันธุ์ที่จริงจัง โดยมีคณะทำงานเฉพาะในเรื่องการพัฒนาและวิจัยพ่อแม่พันธุ์จากภาคราชการและเอกชน เพื่อศึกษาอย่างจริงจัง และมีการนำผลความคืบหน้าเป็นระยะทุก 3 เดือน รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผลการพัฒนาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศได้ทราบอย่างต่อเนื่อง
2. สินค้าสับปะรดกระป๋อง เห็นควรให้มีการพัฒนาด้านการผลิต ทั้งด้านวิจัยพัฒนาพันธุ์ที่มีผลต่อไร่สูง มีคุณภาพและมีปริมาณที่เพียงพอสม่ำเสมอ การเร่งแก้ไขปัญกาการกีดกันทางการค้า ได้แก่ การเก็บภาษีการทุ่มตลาดของสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน รักษาตลาดและสามารถเพิ่มการส่งออกให้เพิ่มสูงขึ้นในตลาดใหม่
3. ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป เห็นควรให้เร่งการแก้ไขปัญหาในเรื่องต้นทุนการผลิต และการพัฒนาการสร้างความเชื่อถือของผลิตภัณฑ์จากไทยในตลาดต่างประเทศ
4. เนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ เห็นควรให้เร่งการแก้ไขปัญหาเรื่องการกำหนดเขตปลอดโรคปากเท้าเปื่อย และพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูง
สำหรับปัญหา อุปสรรคด้านอื่น ๆ อาทิ ปัญหาด้านการขาดแคลนวัตถุดิบ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตด้านแรงงาน การรวมกลุ่มของผู้ผลิตผู้ประกอบการที่มีความเข้มแข็งด้านข้อมูลข่าวสาร การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้มีผลการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาในลักษณะมาตรการและแผนงานของหน่วยราชการต่าง ๆ อยู่แล้ว เห็นควรให้มีการเร่งรัดติดตามผล เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในระยะเวลาที่กำหนด
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาแล้วมีมติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1) จัดตั้งคณะทำงานฯ ร่วมกับสมาคมผู้เพาะเลี้ยงกุ้งแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพ่อแม่พันธุ์กุ้ง และแผนการจัดการใช้ประโยชน์จากพ่อแม่พันธุ์กุ้งทางธรรมชาติของแต่ละแหล่งให้เหมาะสมต่อความต้องการต่อปริมาณฟาร์มเลี้ยงกุ้งให้มีปริมาณและคุณภาพที่ดี โดยเห็นควรให้คณะทำงานรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
2) จัดทำโครงการศึกษาพัฒนาพันธุ์และปรับปรุงการผลิตสับปะรด เพื่ออุตสาหกรรมให้มีวัตถุดิบรองรับที่มีคุณภาพและเพียงพออย่างต่อเนื่องในระยะยาว รวมถึงการเผยแพร่ให้ความรู้ความเข้าใจให้แก่กลุ่มผู้ปลูกสับปะรด เพื่อการอุตสาหกรรมโดยการส่งเสริมและพัฒนาใช้ระบบ Contract Farming ให้เกิดประสิทธิผล โดยให้เร่งดำเนินการและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลความคืบหน้าภายใน 3 เดือน
2. ให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศร่วมกันเพิ่มขีดความสามารถในการเจรจาต่อรอง และเร่งรัดแก้ไขปัญหากรณีสหรัฐอเมริกากล่าวหาสับปะรดกระป๋องของไทยทุ่มตลาด โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมสนับสนุนข้อมูลด้านเทคนิคที่จำเป็นต้องใช้ในการเจรจา โดยเร่งดำเนินการและนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบผลความคืบหน้าภายใน 3 เดือน
3. ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการนโยบายในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าไทย โดยการใช้เครื่องหมายการค้าของไทย และการสร้างความเชื่อถือในคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารจากไทยในตลาดต่างประเทศ โดยกำหนดเป็นแผนงานระยะยาว 1 - 3 ปี และนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบผลความคืบหน้าภายใน 6 เดือน
4. รับทราบสรุปการวิเคราะห์ตลาดส่งออก 6 เดือนแรกของปี 2541 ปัญหาและอุปสรรคแนวทางการส่งเสริมการส่งออก การแก้ไขปัญหาสินค้าอาหาร และผลการดำเนินการ และให้คณะกรรมการพัฒนาการส่งออกได้เร่งรัดติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในระยะเวลาที่กำหนดต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 สิงหาคม 2541--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาแนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์และสินค้าอาหาร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. แนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์
กระทรวงพาณิชย์เสนอว่า ภาวะการส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของไทยในช่วง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2538 - 2541 (มกราคม - มิถุนายน) มีอัตราการขยายตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากมูลค่าการส่งออก 755.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (30,212 ล้านบาท) ในปี 2538 ลดลงเหลือ 725.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (29,028 ล้านบาท) ในปี 2540 สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2541 มีมูลค่าส่งออกรวมทั้งสิ้น 288.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (11,532 ล้านบาท) มีอัตราการขยายตัวลดลงถึงร้อยละ 20.9 ไทยมีตลาดส่งออกสำคัญ คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยตลาดญี่ปุ่น มีอัตราลดลงถึงร้อยละ 37.3 สำหรับปัญหาอุปสรรคและแนวทางการส่งเสริมการส่งออกและการแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ได้แก่ ปัญหาอุปสรรคด้านกฎระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐ ปัญหาด้านการเงิน ด้านต้นทุน ด้านการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านแรงงาน ด้านข้อมูลข่าวสาร การเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาปัญหา อุปสรรค และแนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ตามที่กรมส่งเสริมการส่งออกเสนอ เห็นว่าปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ คือ ปัญหาอุปสรรคด้านกฎระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐ อาทิ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งล้าสมัยไม่ทันการณ์ และมุ่งเน้นในด้านการควบคุมมากกว่าการส่งเสริม โดยที่พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ได้กำหนดแนวทางในการปฏิบัติครอบคลุมป่าไม้ทั้งหมด ไม่แยกว่าเป็นป่าธรรมชาติ หรือป่าจากสวนปลูก เช่น ไม้ยางพารา ซึ่งข้อกำหนดบางมาตรายากแก่การปฏิบัติ และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของไทยเป็นอย่างมาก จึงเห็นควรแก้ไขปัญหาด้าน กฎระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และกฎ ระเบียบ มาตรการอื่น ๆ ที่เป็นปัญหาอุปสรรคโดยเร่งด่วน ด้วยการตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปรับปรุง กฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมและพัฒนาการส่งออกของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และให้คณะทำงานฯ รีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และรายงานให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
สำหรับปัญหา อุปสรรคด้านอื่น ๆ อาทิ ปัญหาด้านการเงิน ด้านต้นทุน ด้านการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านแรงงาน ด้านข้อมูลข่าวสาร การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้มีผลการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาในลักษณะมาตรการและแผนงานของหน่วยงานราชการต่าง ๆ อยู่แล้ว จึงเห็นควรให้มีการเร่งรัดติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานนั้น ๆ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมด้วย
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
1. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งคณะทำงานฯ เพื่อแก้ไขปรับปรุง กฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการส่งเสริมและพัฒนาการส่งออกอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ โดยให้คณะทำงานฯ รีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
2. รับทราบสรุปปัญหาอุปสรรค และแนวทางการส่งเสริมการส่งออก และการแก้ไขปัญหาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ และให้คณะกรรมการพัฒนาการส่งออกได้มีการเร่งรัดติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
2. แนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าอาหาร
กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาปัญหาอุปสรรค แนวทางการส่งเสริมการส่งออกและแก้ไขปัญหาสินค้าอาหาร ตามที่กรมส่งเสริมการส่งออกเสนอในกลุ่มสินค้าหลัก คือ กุ้งสดแช่แข็ง แช่เย็น สับปะรดกระป๋อง ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป เนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์เห็นว่าปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการส่งออก ที่ควรเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้จริงจังและเร่งด่วน ดังนี้
1. สินค้ากุ้งแช่เย็นและแช่แข็ง เห็นควรให้เร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพ่อแม่พันธุ์ที่จริงจัง โดยมีคณะทำงานเฉพาะในเรื่องการพัฒนาและวิจัยพ่อแม่พันธุ์จากภาคราชการและเอกชน เพื่อศึกษาอย่างจริงจัง และมีการนำผลความคืบหน้าเป็นระยะทุก 3 เดือน รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผลการพัฒนาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศได้ทราบอย่างต่อเนื่อง
2. สินค้าสับปะรดกระป๋อง เห็นควรให้มีการพัฒนาด้านการผลิต ทั้งด้านวิจัยพัฒนาพันธุ์ที่มีผลต่อไร่สูง มีคุณภาพและมีปริมาณที่เพียงพอสม่ำเสมอ การเร่งแก้ไขปัญกาการกีดกันทางการค้า ได้แก่ การเก็บภาษีการทุ่มตลาดของสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน รักษาตลาดและสามารถเพิ่มการส่งออกให้เพิ่มสูงขึ้นในตลาดใหม่
3. ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป เห็นควรให้เร่งการแก้ไขปัญหาในเรื่องต้นทุนการผลิต และการพัฒนาการสร้างความเชื่อถือของผลิตภัณฑ์จากไทยในตลาดต่างประเทศ
4. เนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ เห็นควรให้เร่งการแก้ไขปัญหาเรื่องการกำหนดเขตปลอดโรคปากเท้าเปื่อย และพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูง
สำหรับปัญหา อุปสรรคด้านอื่น ๆ อาทิ ปัญหาด้านการขาดแคลนวัตถุดิบ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตด้านแรงงาน การรวมกลุ่มของผู้ผลิตผู้ประกอบการที่มีความเข้มแข็งด้านข้อมูลข่าวสาร การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้มีผลการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาในลักษณะมาตรการและแผนงานของหน่วยราชการต่าง ๆ อยู่แล้ว เห็นควรให้มีการเร่งรัดติดตามผล เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในระยะเวลาที่กำหนด
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาแล้วมีมติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1) จัดตั้งคณะทำงานฯ ร่วมกับสมาคมผู้เพาะเลี้ยงกุ้งแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพ่อแม่พันธุ์กุ้ง และแผนการจัดการใช้ประโยชน์จากพ่อแม่พันธุ์กุ้งทางธรรมชาติของแต่ละแหล่งให้เหมาะสมต่อความต้องการต่อปริมาณฟาร์มเลี้ยงกุ้งให้มีปริมาณและคุณภาพที่ดี โดยเห็นควรให้คณะทำงานรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
2) จัดทำโครงการศึกษาพัฒนาพันธุ์และปรับปรุงการผลิตสับปะรด เพื่ออุตสาหกรรมให้มีวัตถุดิบรองรับที่มีคุณภาพและเพียงพออย่างต่อเนื่องในระยะยาว รวมถึงการเผยแพร่ให้ความรู้ความเข้าใจให้แก่กลุ่มผู้ปลูกสับปะรด เพื่อการอุตสาหกรรมโดยการส่งเสริมและพัฒนาใช้ระบบ Contract Farming ให้เกิดประสิทธิผล โดยให้เร่งดำเนินการและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลความคืบหน้าภายใน 3 เดือน
2. ให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศร่วมกันเพิ่มขีดความสามารถในการเจรจาต่อรอง และเร่งรัดแก้ไขปัญหากรณีสหรัฐอเมริกากล่าวหาสับปะรดกระป๋องของไทยทุ่มตลาด โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมสนับสนุนข้อมูลด้านเทคนิคที่จำเป็นต้องใช้ในการเจรจา โดยเร่งดำเนินการและนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบผลความคืบหน้าภายใน 3 เดือน
3. ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการนโยบายในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าไทย โดยการใช้เครื่องหมายการค้าของไทย และการสร้างความเชื่อถือในคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารจากไทยในตลาดต่างประเทศ โดยกำหนดเป็นแผนงานระยะยาว 1 - 3 ปี และนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบผลความคืบหน้าภายใน 6 เดือน
4. รับทราบสรุปการวิเคราะห์ตลาดส่งออก 6 เดือนแรกของปี 2541 ปัญหาและอุปสรรคแนวทางการส่งเสริมการส่งออก การแก้ไขปัญหาสินค้าอาหาร และผลการดำเนินการ และให้คณะกรรมการพัฒนาการส่งออกได้เร่งรัดติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในระยะเวลาที่กำหนดต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 สิงหาคม 2541--