ทำเนียบรัฐบาล--2 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการ และแผนการดำเนินการเกี่ยวกับการใช้สาร เคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ดังนี้
1. กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินงานด้านวิจัย ซึ่งประกอบด้วยโครงการวิจัยเพื่อลดการใช้ สารเคมีเกษตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณการใช้สารเคมีในการป้องการและกำจัดศัตรูพืช และ ศึกษาถึงวิธีการต่างๆ เพื่อรักษาความสมดุลด้านระบบนิเวศวิทยา และสภาพสิ่งแวดล้อมทางการเกษตร นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินงานด้านกฏหมายเกี่ยวกับการควบคุมดูแลสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืชตามพระ- ราชบัญญัติวัตถุอันตรายพ.ศ.2535ได้แก่การกำหนดการขึ้นทะเบียนกำหนดการผลิตและจำหน่ายกำหนด การควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกำหนดการติดตามและดูแลการใช้เป็นต้น
2.การส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการรณรงค์เผยแพร่ความรู้ด้านการใช้สารเคมีกำจัด ศัตรูพืชอย่างถูกต้องและปลอดภัยแก่เกษตรกร และผู้เกี่ยวข้อง โดยการจัดอบรมเกษตรกร เจ้าหน้าที่หน่วย ป้องกันและกำจัดศัตรูพืชตลอดจนผู้ค้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในท้องถิ่นซึ่งได้ดำเนินการร่วมกันกับกรมวิชา การเกษตร สมาคมผู้ผลิตสารเคมีเกษตรกรสากล (GIFAP) และสมาคมผู้ประกอบธุรกิจสารเคมีกำจัดศัตรู พืช ดำเนินการจัดให้มีการบริการตรวจเลือดเพื่อหาระดับสารพิษในร่างการของเกษตรกร โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในแหล่งที่เกษตรกรมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชมาก เช่น จังหวัดราชบุรี สมุทรสาคม นครปฐม กาญจนบุรี เลย เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และนครราชสีมา เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีบริการตรวจ วิเคราะห์สารพิษตกค้างในดิน น้ำ และผลผลิต เพื่อแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบถึงปริมาณสารพิษตกค้างด้วย
3. กระทรวงเกษตรและสหกรณืได้ให้หน่วยงานในสังกัดฯ ที่เกี่ยวข้องทำแผนงานที่จะดำเนิน การในปี 2538-2541 จำนวน 10 แผนงาน คือ
1) แผนการดำเนินการป้องกัน และแก้ไขมลพิษทางน้ำจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ย เคมี 4 ปี (2538-2541)
2) แผนการดำเนินการป้องกันและแก้ไขมลพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชบริเวณพื้นที่สูง 4 ปี (2538-2541)
3) แผนการส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารพิษ 5 ปี (2538-2541)
4) แผนการส่งเสริมวิธีการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน 4 ปี (2538-2541)
5)แผนการส่งเสริมการควบคุมศัตรูพืชผักและผลไม้โดยวิธีผสมผสานเพื่อการส่งออก 4 ปี (2538-2541)
6)แผนการรณรงค์ป้องกันและกำจัดแมลงวันผลไม้โดยการทำหมันแล้วนำไปปล่อยใน ธรรมชาติ 4 ปี (2538-2541)
7) แผนการส่งเสริมการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ผึ้งและแมลงอุตสาหกรรม 4 ปี (2538- 2541)
8) แผนการอบรมเกษตรกรหลักสูตร "การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน และ การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้องและปลอดภัย" 4 ปี (2538-2541) จังหวัดละ 500 คน จำนวน 76 จังหวัด รวม 38,000 คน/ปี
9)แผนการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร จะมีเกษตรกรได้รับความรู้ เรื่องการป้องกัน และกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสานและการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้องและ ปลอดภัย 4 ปี (2538-2541) ปีละประมาณ 60,000 คน
10)แผนการอบรมผู้ค้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหลักสูตร"การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่าง ถูกต้องและปลอดภัย"4 ปี (2538-2541) ปีละ 6 ครั้ง ครั้งละ 35-40 คน รวมประมาณ 225 คน/ปี และได้แต่งตั้งคณะกรรมการให้รับผิดชอบดำเนินการเกี่ยวกับการใช้สารเคมี 2 คณะ คือ คณะกรรม- การแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำด้านการเกษตรและคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีบริเวณพื้นที่สูง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 1 พฤศจิกายน 2537--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการ และแผนการดำเนินการเกี่ยวกับการใช้สาร เคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ดังนี้
1. กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินงานด้านวิจัย ซึ่งประกอบด้วยโครงการวิจัยเพื่อลดการใช้ สารเคมีเกษตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณการใช้สารเคมีในการป้องการและกำจัดศัตรูพืช และ ศึกษาถึงวิธีการต่างๆ เพื่อรักษาความสมดุลด้านระบบนิเวศวิทยา และสภาพสิ่งแวดล้อมทางการเกษตร นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินงานด้านกฏหมายเกี่ยวกับการควบคุมดูแลสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืชตามพระ- ราชบัญญัติวัตถุอันตรายพ.ศ.2535ได้แก่การกำหนดการขึ้นทะเบียนกำหนดการผลิตและจำหน่ายกำหนด การควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกำหนดการติดตามและดูแลการใช้เป็นต้น
2.การส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการรณรงค์เผยแพร่ความรู้ด้านการใช้สารเคมีกำจัด ศัตรูพืชอย่างถูกต้องและปลอดภัยแก่เกษตรกร และผู้เกี่ยวข้อง โดยการจัดอบรมเกษตรกร เจ้าหน้าที่หน่วย ป้องกันและกำจัดศัตรูพืชตลอดจนผู้ค้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในท้องถิ่นซึ่งได้ดำเนินการร่วมกันกับกรมวิชา การเกษตร สมาคมผู้ผลิตสารเคมีเกษตรกรสากล (GIFAP) และสมาคมผู้ประกอบธุรกิจสารเคมีกำจัดศัตรู พืช ดำเนินการจัดให้มีการบริการตรวจเลือดเพื่อหาระดับสารพิษในร่างการของเกษตรกร โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในแหล่งที่เกษตรกรมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชมาก เช่น จังหวัดราชบุรี สมุทรสาคม นครปฐม กาญจนบุรี เลย เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และนครราชสีมา เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีบริการตรวจ วิเคราะห์สารพิษตกค้างในดิน น้ำ และผลผลิต เพื่อแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบถึงปริมาณสารพิษตกค้างด้วย
3. กระทรวงเกษตรและสหกรณืได้ให้หน่วยงานในสังกัดฯ ที่เกี่ยวข้องทำแผนงานที่จะดำเนิน การในปี 2538-2541 จำนวน 10 แผนงาน คือ
1) แผนการดำเนินการป้องกัน และแก้ไขมลพิษทางน้ำจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ย เคมี 4 ปี (2538-2541)
2) แผนการดำเนินการป้องกันและแก้ไขมลพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชบริเวณพื้นที่สูง 4 ปี (2538-2541)
3) แผนการส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารพิษ 5 ปี (2538-2541)
4) แผนการส่งเสริมวิธีการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน 4 ปี (2538-2541)
5)แผนการส่งเสริมการควบคุมศัตรูพืชผักและผลไม้โดยวิธีผสมผสานเพื่อการส่งออก 4 ปี (2538-2541)
6)แผนการรณรงค์ป้องกันและกำจัดแมลงวันผลไม้โดยการทำหมันแล้วนำไปปล่อยใน ธรรมชาติ 4 ปี (2538-2541)
7) แผนการส่งเสริมการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ผึ้งและแมลงอุตสาหกรรม 4 ปี (2538- 2541)
8) แผนการอบรมเกษตรกรหลักสูตร "การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน และ การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้องและปลอดภัย" 4 ปี (2538-2541) จังหวัดละ 500 คน จำนวน 76 จังหวัด รวม 38,000 คน/ปี
9)แผนการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร จะมีเกษตรกรได้รับความรู้ เรื่องการป้องกัน และกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสานและการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้องและ ปลอดภัย 4 ปี (2538-2541) ปีละประมาณ 60,000 คน
10)แผนการอบรมผู้ค้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหลักสูตร"การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่าง ถูกต้องและปลอดภัย"4 ปี (2538-2541) ปีละ 6 ครั้ง ครั้งละ 35-40 คน รวมประมาณ 225 คน/ปี และได้แต่งตั้งคณะกรรมการให้รับผิดชอบดำเนินการเกี่ยวกับการใช้สารเคมี 2 คณะ คือ คณะกรรม- การแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำด้านการเกษตรและคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีบริเวณพื้นที่สูง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 1 พฤศจิกายน 2537--