ทำเนียรัฐบาล--10 ก.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.พ. ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ว่าด้วยอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ.เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยนำหลักการตามกฎ ก.พ. เดิมบางเรื่องมากำหนดไว้ และได้เพิ่มเติมหลักการที่สำคัญ เพื่อให้วิธีการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์มีประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งฝ่ายผู้อุทธรณ์และฝ่ายราชการมากยิ่งขึ้น ร่างกฎ ก.พ.ดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ให้สิทธิแก่ผู้อุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรงที่จะแถลงการณ์ด้วยวาจาเพื่อประกอบการพิจารณาอุทธรณ์ของตนได้ เช่นเดียวกับผู้อุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงที่มีอยู่ในหลักการเดิม และให้โอกาสผู้สั่งลงโทษเข้าฟังการแถลงการณ์และสามารถแถลงแก้ได้ด้วย
2. ให้สิทธิผู้อุทธรณ์ที่จะคัดค้านผู้พิจารณาอุทธรณ์ได้ ถ้ามีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
3. กำหนดหลักเกณฑ์เรื่องการนับวันทราบคำสั่งลงโทษไว้ด้วย เพื่อประโยชน์ในการนับระยะเวลาอุทธรณ์
4. กำหนดวิธีการยื่นหรือส่งหนังสืออุทธรณ์ คำแถลงการณ์ และเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และให้สามารถยื่นหรือส่งได้หลายวิธี
5. กำหนดให้ ก.พ.มีอำนาจตรวจสอบวินิจฉัยได้ในกรณีที่ อ.ก.พ.จังหวัด อ.ก.พ.กรม หรือ อ.ก.พ.กระทรวงไม่รับอุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ไว้พิจารณา
6. กำหนดเรื่องการถอนอุทธรณ์ได้ในกรณีที่ อ.ก.พ. หรือ ก.พ.ยังพิจารณาอุทธรณ์ไม่เสร็จ
7. กำหนดเรื่ององค์กรที่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ในกรณีที่ผู้อุทธรณ์ย้ายหรือโอนสังกัด
8. กำหนดแนวทางวิธีพิจารณาอุทธรณ์ อำนาจของ อ.ก.พ.จังหวัด อ.ก.พ.กรม อ.ก.พ.กระทรวง ในการขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม หรือขอให้บุคคลใดมาให้ถ้อยคำชี้แจง และอำนาจในการสอบสวนใหม่ สอบสวนเพิ่มเติม ตลอดจนการมีมติในเรื่องที่อุทธรณ์
9. กำหนดเรื่องเหตุในลักษณะคดีที่มีผู้กระทำผิดร่วมกับผู้อุทธรณ์ แต่ไม่ได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ ให้ผลการพิจารณาที่เป็นคุณแก่ผู้อุทธรณ์มีผลในทางที่เป็นคุณแก่ผู้ที่ไม่ได้อุทธรณ์ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--9 กรกฎาคม 2539--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.พ. ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ว่าด้วยอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ.เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยนำหลักการตามกฎ ก.พ. เดิมบางเรื่องมากำหนดไว้ และได้เพิ่มเติมหลักการที่สำคัญ เพื่อให้วิธีการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์มีประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งฝ่ายผู้อุทธรณ์และฝ่ายราชการมากยิ่งขึ้น ร่างกฎ ก.พ.ดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ให้สิทธิแก่ผู้อุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรงที่จะแถลงการณ์ด้วยวาจาเพื่อประกอบการพิจารณาอุทธรณ์ของตนได้ เช่นเดียวกับผู้อุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงที่มีอยู่ในหลักการเดิม และให้โอกาสผู้สั่งลงโทษเข้าฟังการแถลงการณ์และสามารถแถลงแก้ได้ด้วย
2. ให้สิทธิผู้อุทธรณ์ที่จะคัดค้านผู้พิจารณาอุทธรณ์ได้ ถ้ามีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
3. กำหนดหลักเกณฑ์เรื่องการนับวันทราบคำสั่งลงโทษไว้ด้วย เพื่อประโยชน์ในการนับระยะเวลาอุทธรณ์
4. กำหนดวิธีการยื่นหรือส่งหนังสืออุทธรณ์ คำแถลงการณ์ และเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และให้สามารถยื่นหรือส่งได้หลายวิธี
5. กำหนดให้ ก.พ.มีอำนาจตรวจสอบวินิจฉัยได้ในกรณีที่ อ.ก.พ.จังหวัด อ.ก.พ.กรม หรือ อ.ก.พ.กระทรวงไม่รับอุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ไว้พิจารณา
6. กำหนดเรื่องการถอนอุทธรณ์ได้ในกรณีที่ อ.ก.พ. หรือ ก.พ.ยังพิจารณาอุทธรณ์ไม่เสร็จ
7. กำหนดเรื่ององค์กรที่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ในกรณีที่ผู้อุทธรณ์ย้ายหรือโอนสังกัด
8. กำหนดแนวทางวิธีพิจารณาอุทธรณ์ อำนาจของ อ.ก.พ.จังหวัด อ.ก.พ.กรม อ.ก.พ.กระทรวง ในการขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม หรือขอให้บุคคลใดมาให้ถ้อยคำชี้แจง และอำนาจในการสอบสวนใหม่ สอบสวนเพิ่มเติม ตลอดจนการมีมติในเรื่องที่อุทธรณ์
9. กำหนดเรื่องเหตุในลักษณะคดีที่มีผู้กระทำผิดร่วมกับผู้อุทธรณ์ แต่ไม่ได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ ให้ผลการพิจารณาที่เป็นคุณแก่ผู้อุทธรณ์มีผลในทางที่เป็นคุณแก่ผู้ที่ไม่ได้อุทธรณ์ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--9 กรกฎาคม 2539--