ทำเนียบรัฐบาล--28 ธ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้เปิดตลาดสินค้าเกษตรตามข้อผูกพัน ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organisation) ภายหลังจากที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคี องค์การดังกล่าว ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระ ทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกันเกี่ยวกับการเตรียมการรองรับ และมาตรการบริหารนโยบายอีกครั้ง หนึ่ง โดยให้เร่งสรุปให้ได้ภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2538 แล้วให้ถือปฏิบัติต่อไป
การเปิดตลาดสินค้าเกษตรตามข้อผูกพันของไทยในการเข้าเป็นภาคีสมาชิกองค์การค้าโลกที่ เริ่มดำเนินการในวันที่ 1 มกราคม 2538 นี้ รัฐบาลจะต้องเปิดตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรที่เคยควบคุม การนำเข้ามาก่อน 22 รายการ (ยกเว้นใบยาสูบ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง)
สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณามี ดังนี้
1. สินค้าที่ไม่จำเป็นต้องนำเข้า เช่น หัวหอม กระเทียม มะพร้าว เป็นต้น เป็นข้อผูกพันที่ ประเทศไทยจะต้องปฏิบัติ ควรเปิดตลาดไปตามเงื่อนไขของความตกลงฯ
2. สินค้าที่จำเป็นต้องนำเข้า เช่น ถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง เป็นต้น ควรเปิดตลาดได้โดย บางรายการให้นำเข้าในปริมาณที่มากกว่าข้อผูกพัน และ/หรือปรับลดอัตราภาษีให้ต่ำกว่าข้อผูกพันเพื่อให้ สอดคล้องกับความต้องการภายในประเทศ
3. สำหรับสินค้าบางรายการเมื่อเปิดตลาดแล้วตามข้อ 1. และ 2. จะมีผลกระทบต่อผู้ที่ เกี่ยวข้องภายในประเทศ เช่น น้ำนม เส้นไหมดิบ เป็นต้น จำเป็นจะต้องใช้ระบบการบริหารโดยให้หน่วย งานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจเป็นผู้นำเข้าแต่เพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ ให้มีการเน้นการบริหารนโยบายนำเข้า และคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรต้องเข้า มามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ
สินค้าที่ไทยต้องเปิดตลาดสินค้าเกษตรที่ไม่จำเป็นต้องนำเข้ามี 13 รายการ ได้แก่ 1) หัว หอม (ให้หน่วยงานของรัฐนำเข้าในแต่ละช่วงที่เห็นว่าจะมีปัญหาขาดแคลน ทั้งนี้ เมื่อการควบคุมและคุ้ม ครองผลผลิตภายในประเทศ) 2) กระเทียม 3) มะพร้าว 4) เนื้อมะพร้าวแห้ง 5) น้ำมันมะพร้าว 6) น้ำนม 7) น้ำมันถั่วเหลือง 8) เมล็ดกาแฟ 9) พริกไทย 10) ข้าวโพด 11) ข้าว 12) น้ำตาลทราย 13) ลำใยแห้ง
สำหรับสินค้าที่จำเป็นต้องนำเข้าเฉพาะปี 2538 มี 9 รายการ ได้แก่ 1) นมผงขาดมันเนย 2) หัวมันฝรั่ง 3) ชา 4) เมล็ดพันธุ์หัวหอม (ปัจจุบันผลผลิตในประเทศต่ำมาก) 5) ถั่วเหลือง (การ ผลิตในประเทศไม่เพียงพอ จำนวนวัตถุดิบกำลังมีปัญหา รัฐบาลยังต้องช่วยเหลือผู้ปลูกถั่วเหลืองอยู่ตาม นโยบายของ คชก.) 6) กากถั่วเหลือง (เป็นเรื่องสำคัญเพราะจะมีผลกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์ ต้องมี การบริหารนโยบายมิให้มีปัญหากับผู้ผลิตภายใน) 7) น้ำมันปาล์มและน้ำมันเมล็ดในปาล์ม 8) เส้นไหมด้าย 9) กาแฟสำเร็จรูป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 ธันวาคม 2537--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้เปิดตลาดสินค้าเกษตรตามข้อผูกพัน ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organisation) ภายหลังจากที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคี องค์การดังกล่าว ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระ ทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกันเกี่ยวกับการเตรียมการรองรับ และมาตรการบริหารนโยบายอีกครั้ง หนึ่ง โดยให้เร่งสรุปให้ได้ภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2538 แล้วให้ถือปฏิบัติต่อไป
การเปิดตลาดสินค้าเกษตรตามข้อผูกพันของไทยในการเข้าเป็นภาคีสมาชิกองค์การค้าโลกที่ เริ่มดำเนินการในวันที่ 1 มกราคม 2538 นี้ รัฐบาลจะต้องเปิดตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรที่เคยควบคุม การนำเข้ามาก่อน 22 รายการ (ยกเว้นใบยาสูบ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง)
สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณามี ดังนี้
1. สินค้าที่ไม่จำเป็นต้องนำเข้า เช่น หัวหอม กระเทียม มะพร้าว เป็นต้น เป็นข้อผูกพันที่ ประเทศไทยจะต้องปฏิบัติ ควรเปิดตลาดไปตามเงื่อนไขของความตกลงฯ
2. สินค้าที่จำเป็นต้องนำเข้า เช่น ถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง เป็นต้น ควรเปิดตลาดได้โดย บางรายการให้นำเข้าในปริมาณที่มากกว่าข้อผูกพัน และ/หรือปรับลดอัตราภาษีให้ต่ำกว่าข้อผูกพันเพื่อให้ สอดคล้องกับความต้องการภายในประเทศ
3. สำหรับสินค้าบางรายการเมื่อเปิดตลาดแล้วตามข้อ 1. และ 2. จะมีผลกระทบต่อผู้ที่ เกี่ยวข้องภายในประเทศ เช่น น้ำนม เส้นไหมดิบ เป็นต้น จำเป็นจะต้องใช้ระบบการบริหารโดยให้หน่วย งานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจเป็นผู้นำเข้าแต่เพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ ให้มีการเน้นการบริหารนโยบายนำเข้า และคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรต้องเข้า มามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ
สินค้าที่ไทยต้องเปิดตลาดสินค้าเกษตรที่ไม่จำเป็นต้องนำเข้ามี 13 รายการ ได้แก่ 1) หัว หอม (ให้หน่วยงานของรัฐนำเข้าในแต่ละช่วงที่เห็นว่าจะมีปัญหาขาดแคลน ทั้งนี้ เมื่อการควบคุมและคุ้ม ครองผลผลิตภายในประเทศ) 2) กระเทียม 3) มะพร้าว 4) เนื้อมะพร้าวแห้ง 5) น้ำมันมะพร้าว 6) น้ำนม 7) น้ำมันถั่วเหลือง 8) เมล็ดกาแฟ 9) พริกไทย 10) ข้าวโพด 11) ข้าว 12) น้ำตาลทราย 13) ลำใยแห้ง
สำหรับสินค้าที่จำเป็นต้องนำเข้าเฉพาะปี 2538 มี 9 รายการ ได้แก่ 1) นมผงขาดมันเนย 2) หัวมันฝรั่ง 3) ชา 4) เมล็ดพันธุ์หัวหอม (ปัจจุบันผลผลิตในประเทศต่ำมาก) 5) ถั่วเหลือง (การ ผลิตในประเทศไม่เพียงพอ จำนวนวัตถุดิบกำลังมีปัญหา รัฐบาลยังต้องช่วยเหลือผู้ปลูกถั่วเหลืองอยู่ตาม นโยบายของ คชก.) 6) กากถั่วเหลือง (เป็นเรื่องสำคัญเพราะจะมีผลกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์ ต้องมี การบริหารนโยบายมิให้มีปัญหากับผู้ผลิตภายใน) 7) น้ำมันปาล์มและน้ำมันเมล็ดในปาล์ม 8) เส้นไหมด้าย 9) กาแฟสำเร็จรูป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 ธันวาคม 2537--