ทำเนียบรัฐบาล--15 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติทำความตกลงในรูปหนังสือแลกเปลี่ยน กับสถานเอกอัครราชทูต มาเลเซีย เกี่ยวกับการโอนที่ดินของสถานเอกอัครราชทูตฯ บางส่วนให้แก่บริษัทเอกชน ซึ่งกระทรวงการ คลัง และกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาเห็นชอบด้วยแล้ว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดย พิจารณาเห็นว่ารัฐบาลมาเลเซีย มีความประสงค์ที่จะดำเนินโครงการพัฒนาที่ดินของสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินของสถานเอกอัครราชทูตฯ ส่วนหนึ่งให้แก่บริษัทเอกชนร่วมลงทุนไทย - มาเลเซีย ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างที่ทำการ ทำเนียบ และที่พักของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ขึ้น ใหม่บนที่ดินส่วนที่มิได้โอนให้บริษัทฯ และบริษัทฯ จะโอนห้องชุดจำนวนหนึ่งในอาคารสูงที่สร้างขึ้นใหม่บนที่ ดินส่วนที่โอนกรรมสิทธิ์ไปให้แก่สถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักของเจ้าหน้าที่ ในการ นี้สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย ได้เสนอทำความตกลงในรูปหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อให้รัฐบาลไทยอนุญาต ให้รัฐบาลมาเลเซีย ทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของสถานเอกอัครราชทูตฯ บางส่วนให้แก่บริษัทเอกชน ดังกล่าว โดยยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการโอนดังกล่าว โดยตกลงที่จะให้การ ปฎิบัติต่างตอบแทนในลักษณะเดียวกัน ในกรณีที่ในอนาคตประเทศไทยประสงค์จะดำเนินการพัฒนาที่ดินของ สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้โดยเป็นการทำความตกลงเฉพาะ กรณี (on a one-time basis) และในประเด็นการยกเว้นอากรค่าธรรมเนียมนี้ กระทรวงการต่าง ประเทศได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อคำนึงถึงความสัมพันธ์ในภาพรวมระหว่างไทยกับมาเลเซีย ในฐานะ มิตรที่ใกล้ชิดแล้วรัฐบาลไทย น่าจะยกเว้นภาษีอากรและค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินดังกล่าว ให้แก่ มาเลเซีย โดยเป็นการยกเว้นให้เฉพาะการโอนครั้งนี้เท่านั้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 14 พฤศจิกายน 2538--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติทำความตกลงในรูปหนังสือแลกเปลี่ยน กับสถานเอกอัครราชทูต มาเลเซีย เกี่ยวกับการโอนที่ดินของสถานเอกอัครราชทูตฯ บางส่วนให้แก่บริษัทเอกชน ซึ่งกระทรวงการ คลัง และกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาเห็นชอบด้วยแล้ว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดย พิจารณาเห็นว่ารัฐบาลมาเลเซีย มีความประสงค์ที่จะดำเนินโครงการพัฒนาที่ดินของสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินของสถานเอกอัครราชทูตฯ ส่วนหนึ่งให้แก่บริษัทเอกชนร่วมลงทุนไทย - มาเลเซีย ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างที่ทำการ ทำเนียบ และที่พักของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ขึ้น ใหม่บนที่ดินส่วนที่มิได้โอนให้บริษัทฯ และบริษัทฯ จะโอนห้องชุดจำนวนหนึ่งในอาคารสูงที่สร้างขึ้นใหม่บนที่ ดินส่วนที่โอนกรรมสิทธิ์ไปให้แก่สถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อใช้เป็นที่ทำการและที่พักของเจ้าหน้าที่ ในการ นี้สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย ได้เสนอทำความตกลงในรูปหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อให้รัฐบาลไทยอนุญาต ให้รัฐบาลมาเลเซีย ทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของสถานเอกอัครราชทูตฯ บางส่วนให้แก่บริษัทเอกชน ดังกล่าว โดยยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการโอนดังกล่าว โดยตกลงที่จะให้การ ปฎิบัติต่างตอบแทนในลักษณะเดียวกัน ในกรณีที่ในอนาคตประเทศไทยประสงค์จะดำเนินการพัฒนาที่ดินของ สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้โดยเป็นการทำความตกลงเฉพาะ กรณี (on a one-time basis) และในประเด็นการยกเว้นอากรค่าธรรมเนียมนี้ กระทรวงการต่าง ประเทศได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อคำนึงถึงความสัมพันธ์ในภาพรวมระหว่างไทยกับมาเลเซีย ในฐานะ มิตรที่ใกล้ชิดแล้วรัฐบาลไทย น่าจะยกเว้นภาษีอากรและค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินดังกล่าว ให้แก่ มาเลเซีย โดยเป็นการยกเว้นให้เฉพาะการโอนครั้งนี้เท่านั้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 14 พฤศจิกายน 2538--