ทำเนียบรัฐบาล--15 ม.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอำนวย วีรวรรณ) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ซึ่งมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. กำหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ
2. กำหนดให้การว่าจ้างที่ปรึกษาจัดทำขอบเขตโครงการหรือความเห็น การคัดเลือกเอกชนอยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นตามกฏหมายนี้ที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม
3.กำหนดหน่วยงานตรวจร่างสัญญาเพิ่มขึ้นตามความเหมาะสมของแต่ละสัญญา และกำหนดระยะเวลาการตรวจร่างสัญญาให้แน่นอนขึ้น
4. กำหนดให้การแก้ไขสัญญาที่ลงนาทไปแล้วต้องให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบก่อนด้วย
ทั้งนี้ โดยที่ในปัจจุบันขั้นตอนการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ยังมีข้อขัดข้องในทางปฏิบัติบางประการ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นไปโดยชัดเจนและสามารถดำเนินการได้รวดเร็วและเพื่อให้มีการกลั่นกรองโครงการที่จะให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐเป็นไปโดยเหมาะสมยิ่งขึ้น จึงเห็นสมควรปรับปรุงพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญ และ ได้กำหนดให้การว่าจ้างที่ปรึกษาโครงการดำเนินการเฉพาะประเด็นสำคัญและมีความจำเป็นเท่านั้น มิใช่ต้องดำเนินการทุกโครงการ รวมทั้งได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจร่างสัญญาให้เป็นไปโดยรวดเร็วยิ่งขึ้นนอกจากนี้ยังได้กำหนดให้การแก้ไขสัญญาที่ลงนามไปแล้วต้องให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 14 มกราคม 2540--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอำนวย วีรวรรณ) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ซึ่งมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. กำหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ
2. กำหนดให้การว่าจ้างที่ปรึกษาจัดทำขอบเขตโครงการหรือความเห็น การคัดเลือกเอกชนอยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นตามกฏหมายนี้ที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม
3.กำหนดหน่วยงานตรวจร่างสัญญาเพิ่มขึ้นตามความเหมาะสมของแต่ละสัญญา และกำหนดระยะเวลาการตรวจร่างสัญญาให้แน่นอนขึ้น
4. กำหนดให้การแก้ไขสัญญาที่ลงนาทไปแล้วต้องให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบก่อนด้วย
ทั้งนี้ โดยที่ในปัจจุบันขั้นตอนการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ยังมีข้อขัดข้องในทางปฏิบัติบางประการ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นไปโดยชัดเจนและสามารถดำเนินการได้รวดเร็วและเพื่อให้มีการกลั่นกรองโครงการที่จะให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐเป็นไปโดยเหมาะสมยิ่งขึ้น จึงเห็นสมควรปรับปรุงพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญ และ ได้กำหนดให้การว่าจ้างที่ปรึกษาโครงการดำเนินการเฉพาะประเด็นสำคัญและมีความจำเป็นเท่านั้น มิใช่ต้องดำเนินการทุกโครงการ รวมทั้งได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจร่างสัญญาให้เป็นไปโดยรวดเร็วยิ่งขึ้นนอกจากนี้ยังได้กำหนดให้การแก้ไขสัญญาที่ลงนามไปแล้วต้องให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 14 มกราคม 2540--