ทำเนียบรัฐบาล--7 ก.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ป.ป.ป. เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานการดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พิจารณารายละเอียดแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เพื่อส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 329 กำหนดให้ดำเนินการตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้แล้วเสร็จภายในสองปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สำนักงาน ป.ป.ป. จึงได้ยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. .... ซึ่งแบ่งเป็น 6 หมวด กับ 1 บทเฉพาะกาล มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ พ.ศ. 2518 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม และยกเลิกพระราชบัญญัติการแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2539
2. ให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นอีกแปดคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา และกำหนดคุณสมบัติ การพ้นจากตำแหน่งอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
3. กำหนดการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
4. กำหนดการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
5. กำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การไต่สวนเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่ง และการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง
6. กำหนดหลักเกณฑ์การร้องขอให้ทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงตกเป็นของแผ่นดินในกรณีการกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
7. กำหนดการตรวจสอบเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐที่ถูกร้องเรียนว่าร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำการทุจริต
8. กำหนดข้อห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐ และรัฐมนตรีในกรณีที่มีการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม
9. กำหนดบทลงโทษคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และบุคคลอื่นที่ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฉบับนี้
10. กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับเรื่องที่รับไว้และค้างดำเนินการ และให้นำระเบียบที่กำหนดไว้แล้วที่ไม่ขัดแย้งกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับไปพลางก่อน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 กรกฎาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ป.ป.ป. เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานการดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พิจารณารายละเอียดแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เพื่อส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 329 กำหนดให้ดำเนินการตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้แล้วเสร็จภายในสองปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สำนักงาน ป.ป.ป. จึงได้ยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. .... ซึ่งแบ่งเป็น 6 หมวด กับ 1 บทเฉพาะกาล มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ พ.ศ. 2518 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม และยกเลิกพระราชบัญญัติการแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2539
2. ให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นอีกแปดคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา และกำหนดคุณสมบัติ การพ้นจากตำแหน่งอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
3. กำหนดการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
4. กำหนดการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
5. กำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การไต่สวนเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่ง และการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง
6. กำหนดหลักเกณฑ์การร้องขอให้ทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงตกเป็นของแผ่นดินในกรณีการกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
7. กำหนดการตรวจสอบเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐที่ถูกร้องเรียนว่าร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำการทุจริต
8. กำหนดข้อห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐ และรัฐมนตรีในกรณีที่มีการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม
9. กำหนดบทลงโทษคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และบุคคลอื่นที่ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฉบับนี้
10. กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับเรื่องที่รับไว้และค้างดำเนินการ และให้นำระเบียบที่กำหนดไว้แล้วที่ไม่ขัดแย้งกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับไปพลางก่อน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 กรกฎาคม 2541--