ทำเนียบรัฐบาล--24 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
1. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2536 ที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับให้ทำลายของกลาง (กระเทียมและหอมหัวใหญ่) และไม่มีการจ่ายเงินสินบนและรางวัล
2. การป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร ให้ครอบคลุมสินค้า 5 ชนิด คือ กระเทียม หอมหัวใหญ่ (รวมเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่) หอมแดง มันฝรั่ง และเส้นไหม
3. ให้นำของกลางมาจำหน่ายและเพื่อไม่ให้สินค้าเวียนกลับเข้ามาจำหน่ายในท้องตลาดได้อีก ควรให้กรมศุลกากรนำมาจำหน่ายให้องค์การคลังสินค้า เพื่อจัดจำหน่ายให้กับส่วนราชการและองค์การสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม ทั้งนี้ ให้สามารถจำหน่ายของกลางได้ทันที เพื่อไม่ให้เป็นภาระในการเก็บรักษา และเกิดการสูญเสียน้ำหนักในระหว่างที่คดียังไม่สิ้นสุด
4. ให้มีเงินสินบนและรางวัล แก่ผู้นำจับและผู้จับกุม เพื่อให้การปราบปรามมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยใช้เงินจากการจำหน่ายของกลาง ทั้งนี้ ให้ตั้งเป็นสินบนนำจับร้อยละ 30 ของมูลค่าของกลางที่จำหน่ายได้ อีกร้อยละ 25 เป็นรางวัลสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ส่วนที่เหลือร้อยละ 45 ให้จัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกรณีเกิดปัญหา รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายในการพิสูจน์หลักฐานของกลางที่จับกุมได้
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการเดินขบวนเรียกร้องของเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมและหอมหัวใหญ่ ขอให้รัฐเข้าช่วยเหลือแทรกแซงตลาดกระเทียมและหอมหัวใหญ่เนื่องจากราคาตกต่ำ ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณไปปีละหลายร้อยล้านบาท สาเหตุมาจากการลักลอบนำเข้าทั้งกระเทียมจากจีนและพม่า หอมหัวใหญ่ทางภาคใต้ และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่มาปลูก ทำให้มีปริมาณผลผลิตเกินความต้องการของตลาด เป็นเหตุให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2541--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
1. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2536 ที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับให้ทำลายของกลาง (กระเทียมและหอมหัวใหญ่) และไม่มีการจ่ายเงินสินบนและรางวัล
2. การป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร ให้ครอบคลุมสินค้า 5 ชนิด คือ กระเทียม หอมหัวใหญ่ (รวมเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่) หอมแดง มันฝรั่ง และเส้นไหม
3. ให้นำของกลางมาจำหน่ายและเพื่อไม่ให้สินค้าเวียนกลับเข้ามาจำหน่ายในท้องตลาดได้อีก ควรให้กรมศุลกากรนำมาจำหน่ายให้องค์การคลังสินค้า เพื่อจัดจำหน่ายให้กับส่วนราชการและองค์การสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม ทั้งนี้ ให้สามารถจำหน่ายของกลางได้ทันที เพื่อไม่ให้เป็นภาระในการเก็บรักษา และเกิดการสูญเสียน้ำหนักในระหว่างที่คดียังไม่สิ้นสุด
4. ให้มีเงินสินบนและรางวัล แก่ผู้นำจับและผู้จับกุม เพื่อให้การปราบปรามมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยใช้เงินจากการจำหน่ายของกลาง ทั้งนี้ ให้ตั้งเป็นสินบนนำจับร้อยละ 30 ของมูลค่าของกลางที่จำหน่ายได้ อีกร้อยละ 25 เป็นรางวัลสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ส่วนที่เหลือร้อยละ 45 ให้จัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกรณีเกิดปัญหา รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายในการพิสูจน์หลักฐานของกลางที่จับกุมได้
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการเดินขบวนเรียกร้องของเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมและหอมหัวใหญ่ ขอให้รัฐเข้าช่วยเหลือแทรกแซงตลาดกระเทียมและหอมหัวใหญ่เนื่องจากราคาตกต่ำ ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณไปปีละหลายร้อยล้านบาท สาเหตุมาจากการลักลอบนำเข้าทั้งกระเทียมจากจีนและพม่า หอมหัวใหญ่ทางภาคใต้ และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่มาปลูก ทำให้มีปริมาณผลผลิตเกินความต้องการของตลาด เป็นเหตุให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2541--