ทำเนียบรัฐบาล--21 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานการปฏิรูประบบบริหารการศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิรูปโครงสร้างและขบวนการบริหารการศึกษาทุกประเภทและทุกระดับการศึกษาทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และระดับสถานศึกษา โดยคำนึงถึงเอกภาพความคล่องตัวและการจัดองค์การที่กระทัดรัด และประหยัด แต่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับสาระสำคัญของรายงานดังกล่าว สรุปได้ดังนี้
1. หลักการ ยึดหลักการสำคัญ 3 ประการ คือ ความเป็นเอกภาพ การกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของประชาชน
2. แนวทาง ยึดแนวทางสำคัญ 5 แนวทาง คือ
- ปรับอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความสัมพันธ์ระหว่างราชการส่วนกลางกับท้องถิ่นและสถานศึกษา
- ปรับโครงสร้าง องค์กร และกระบวนการบริหารส่วนกลาง
- กำหนดเขตพื้นที่การศึกษา เป็น 2 ระดับ คือ เขตประเทศ และเขตท้องถิ่น
- กระจายอำนาจการบริหารและการจัดการไปยังสถานศึกษาทุกระดับ
- ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับนโยบายและมาตรฐานการศึกษาของชาติ
3. การจัดองค์กรการบริหารการศึกษา
3.1 การจัดองค์กรบริหารการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา
3.2 การจัดองค์กรการบริหารการศึกษาของส่วนกลาง โดยแบ่งเป็น
- ระดับกระทรวง ได้แก่ คณะกรรมการต่างๆ
- หน่วยบริหารกลาง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวง และหน่วยงานส่วนกลาง
- องค์กรอิสระในกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ องค์กรประกันคุณภาพการศึกษา คุรุสภา ราชบัณฑิตยสถาน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
4. ข้อเสนอแนะ : จากการปฏิรูปสู่การปฏิบัติ
- จัดให้มีองค์กรเฉพาะกิจ ซึ่งอาจจัดตั้งเป็นองค์กรมหาชน เพื่อระดมผู้ทรงคุณวุฒิ จัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้าง องค์กร การแบ่งส่วนงาน การจัดระบบบริหารงานบุคคล และการจัดระบบทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา ทั้งในส่วนกลางและ เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา
- จัดให้มีโครงการนำร่องเพื่อทดสอบระบบบริหารใหม่ ทันทีที่มีการดำเนินการจัดตั้งองค์กรเฉพาะกิจเสร็จ โดยเลือกเขตพื้นที่การศึกษาในแต่ละภาค ทำการทดสอบระบบริหาร เป็นเวลา 2 ปี (พ.ศ.2543-2545) แล้วนำผลมาปรับปรุงระบบบริหารก่อนประกาศใช้ทั้งประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 กันยายน 2542--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานการปฏิรูประบบบริหารการศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิรูปโครงสร้างและขบวนการบริหารการศึกษาทุกประเภทและทุกระดับการศึกษาทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และระดับสถานศึกษา โดยคำนึงถึงเอกภาพความคล่องตัวและการจัดองค์การที่กระทัดรัด และประหยัด แต่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับสาระสำคัญของรายงานดังกล่าว สรุปได้ดังนี้
1. หลักการ ยึดหลักการสำคัญ 3 ประการ คือ ความเป็นเอกภาพ การกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของประชาชน
2. แนวทาง ยึดแนวทางสำคัญ 5 แนวทาง คือ
- ปรับอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความสัมพันธ์ระหว่างราชการส่วนกลางกับท้องถิ่นและสถานศึกษา
- ปรับโครงสร้าง องค์กร และกระบวนการบริหารส่วนกลาง
- กำหนดเขตพื้นที่การศึกษา เป็น 2 ระดับ คือ เขตประเทศ และเขตท้องถิ่น
- กระจายอำนาจการบริหารและการจัดการไปยังสถานศึกษาทุกระดับ
- ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับนโยบายและมาตรฐานการศึกษาของชาติ
3. การจัดองค์กรการบริหารการศึกษา
3.1 การจัดองค์กรบริหารการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา
3.2 การจัดองค์กรการบริหารการศึกษาของส่วนกลาง โดยแบ่งเป็น
- ระดับกระทรวง ได้แก่ คณะกรรมการต่างๆ
- หน่วยบริหารกลาง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวง และหน่วยงานส่วนกลาง
- องค์กรอิสระในกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ องค์กรประกันคุณภาพการศึกษา คุรุสภา ราชบัณฑิตยสถาน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
4. ข้อเสนอแนะ : จากการปฏิรูปสู่การปฏิบัติ
- จัดให้มีองค์กรเฉพาะกิจ ซึ่งอาจจัดตั้งเป็นองค์กรมหาชน เพื่อระดมผู้ทรงคุณวุฒิ จัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้าง องค์กร การแบ่งส่วนงาน การจัดระบบบริหารงานบุคคล และการจัดระบบทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา ทั้งในส่วนกลางและ เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา
- จัดให้มีโครงการนำร่องเพื่อทดสอบระบบบริหารใหม่ ทันทีที่มีการดำเนินการจัดตั้งองค์กรเฉพาะกิจเสร็จ โดยเลือกเขตพื้นที่การศึกษาในแต่ละภาค ทำการทดสอบระบบริหาร เป็นเวลา 2 ปี (พ.ศ.2543-2545) แล้วนำผลมาปรับปรุงระบบบริหารก่อนประกาศใช้ทั้งประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 กันยายน 2542--