ทำเนียบรัฐบาล--28 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ แล้วมีมติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2539 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2540 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ โดยให้กรมชลประทานทำความตกลงกับสำนักงบประมาณในการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ โดยรวมค่าใช้จ่ายการแก้ไขผลกระทบต่อราษฎร จากการก่อสร้างโครงการตามแนวทางที่กรมชลประทานเสนอ
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า การก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชรจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อราษฎรในพื้นที่สองฝั่งลำห้วยลำเชียงทา และลำน้ำชี ตั้งแต่อำเภอบ้านเขว้า อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอจัตุรัส อำเภอเมือง อำเภอเนินสง่า อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ลงมาถึง อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น รวมเป็นพื้นที่ประมาณ 100,000 ไร่ ซึ่งมีปัญหาการขาดแคลนน้ำในการเกษตรกรรม และการอุปโภค - บริโภค โดยเฉพาะช่วงฝนทิ้งช่วงและช่วงฤดูแล้ง หากการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชรแล้วเสร็จ ราษฎรในพื้นที่เหล่านี้สามารถที่จะมีน้ำใช้อย่างเพียงพอทั้งในด้านการเกษตรกรรม และการอุปโภค - บริโภค ซึ่งจะเป็นการเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ในด้านความพร้อมของโครงการ กรมชลประทานได้ดำเนินการประกวดราคาและทำสัญญาจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างแล้วแต่ยังไม่สามารถให้ผู้รับจ้างเข้าทำงานตามสัญญาได้ เนื่องจากมีมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ชะลอโครงการ และเป็นข้ออ้างของกลุ่มผู้คัดค้านในการที่ทางราชการจะเข้าสำรวจหรือตรวจสอบพื้นที่ ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่ได้ อีกทั้งมีราษฎรบางส่วนเข้าบุกรุกใช้ประโยชน์ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำซึ่งทำการเวนคืนและจ่ายค่าชดเชยไปแล้ว ถ้าหากการดำเนินการโครงการมีความล่าช้าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการมากขึ้นได้
สำหรับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2539 คือ เห็นชอบให้กำหนดหลักการเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนว่า เขื่อนที่ยังไม่ได้สร้างในชั้นนี้ให้ชะลอการดำเนินการก่อสร้างไว้ก่อน และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องศึกษาเหตุผลความจำเป็น ผลดีผลเสียในด้านต่าง ๆ ของการสร้างเขื่อนดังกล่าวเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2540 คือ เห็นชอบผลการประชุมเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน กรณีผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ ส่วนการให้นายกรัฐมนตรีใช้ดุลพินิจออกคำสั่งให้ยุติการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับโครงการฯ ไว้ก่อนจนกว่าจะมีข้อสรุปของคณะกรรมการเพื่อดำเนินการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในโครงการตามกรอบที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2540 นั้น เพื่อให้เป็นไปตามหลักการบริหาร จึงให้คณะกรรมการดังกล่าวเร่งรัดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยศึกษาและพิจารณาความเหมาะสมของโครงการตามกระบวนการก่อน แล้วสรุปผลเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโดยด่วนต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 28 กันยายน 2542--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ แล้วมีมติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2539 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2540 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ โดยให้กรมชลประทานทำความตกลงกับสำนักงบประมาณในการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ โดยรวมค่าใช้จ่ายการแก้ไขผลกระทบต่อราษฎร จากการก่อสร้างโครงการตามแนวทางที่กรมชลประทานเสนอ
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า การก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชรจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อราษฎรในพื้นที่สองฝั่งลำห้วยลำเชียงทา และลำน้ำชี ตั้งแต่อำเภอบ้านเขว้า อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอจัตุรัส อำเภอเมือง อำเภอเนินสง่า อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ลงมาถึง อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น รวมเป็นพื้นที่ประมาณ 100,000 ไร่ ซึ่งมีปัญหาการขาดแคลนน้ำในการเกษตรกรรม และการอุปโภค - บริโภค โดยเฉพาะช่วงฝนทิ้งช่วงและช่วงฤดูแล้ง หากการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชรแล้วเสร็จ ราษฎรในพื้นที่เหล่านี้สามารถที่จะมีน้ำใช้อย่างเพียงพอทั้งในด้านการเกษตรกรรม และการอุปโภค - บริโภค ซึ่งจะเป็นการเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ในด้านความพร้อมของโครงการ กรมชลประทานได้ดำเนินการประกวดราคาและทำสัญญาจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างแล้วแต่ยังไม่สามารถให้ผู้รับจ้างเข้าทำงานตามสัญญาได้ เนื่องจากมีมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ชะลอโครงการ และเป็นข้ออ้างของกลุ่มผู้คัดค้านในการที่ทางราชการจะเข้าสำรวจหรือตรวจสอบพื้นที่ ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่ได้ อีกทั้งมีราษฎรบางส่วนเข้าบุกรุกใช้ประโยชน์ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำซึ่งทำการเวนคืนและจ่ายค่าชดเชยไปแล้ว ถ้าหากการดำเนินการโครงการมีความล่าช้าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการมากขึ้นได้
สำหรับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2539 คือ เห็นชอบให้กำหนดหลักการเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนว่า เขื่อนที่ยังไม่ได้สร้างในชั้นนี้ให้ชะลอการดำเนินการก่อสร้างไว้ก่อน และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องศึกษาเหตุผลความจำเป็น ผลดีผลเสียในด้านต่าง ๆ ของการสร้างเขื่อนดังกล่าวเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2540 คือ เห็นชอบผลการประชุมเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน กรณีผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ ส่วนการให้นายกรัฐมนตรีใช้ดุลพินิจออกคำสั่งให้ยุติการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับโครงการฯ ไว้ก่อนจนกว่าจะมีข้อสรุปของคณะกรรมการเพื่อดำเนินการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในโครงการตามกรอบที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2540 นั้น เพื่อให้เป็นไปตามหลักการบริหาร จึงให้คณะกรรมการดังกล่าวเร่งรัดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยศึกษาและพิจารณาความเหมาะสมของโครงการตามกระบวนการก่อน แล้วสรุปผลเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโดยด่วนต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 28 กันยายน 2542--