ทำเนียบรัฐบาล--18 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานข้อมูลตัวเลขและสถานการณ์ดุลบัญชีเดินสะพัดและเงินเฟ้อ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. ภาวะเงินเฟ้อ ดรรชนีราคาขายปลีกของเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบจุดต่อจุดหรือเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน คือ เดือนกุมภาพันธ์ 2539 ร้อยละ 7.4 ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ 2540 คือร้อยละ 4.3 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับดรรชนีราคาขายปลีกของเดือนมกราคม 2540 ส่วนดรรชนีราคาขายส่งก็มีแนวโน้มเช่นเดียวกัน คือในเดือนกุมภาพันธ์ 2540 ได้ลดลงเหลือร้อยละ 1.8 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2539 ร้อยละ 5.9 แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์เงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงอย่างชัดเจน
2. สำหรับเรื่องดุลการค้านั้น ในเดือนธันวาคม 2539 ขาดดุลการค้า 22,300 ล้านบาท เมื่อรวมตลอดทั้งปี 2539 ปรากฏว่าขาดดุลการค้ารวม 418,300 ล้านบาท เทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งขาดดุลการค้ารวม 373,796 ล้านบาท ดังนั้น มูลค่าการขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 44,054 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.91 เมื่อเทียบกับการขาดดุลการค้าทั้งปีในปี 2538
ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัด ปรากฏว่าสถานการณ์ดีขึ้นโดยลำดับ กล่าวคือ ในเดือนธันวาคม 2539 ขาดดุลประมาณ 19,100 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2539 ที่ขาดดุล 21,700 ล้านบาท เมื่อพิจารณาทั้งปีปรากฏว่าดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเท่ากับ 373,300 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2538 ซึ่งเท่ากับ 337,641 ล้านบาทแล้ว ปรากฏว่าดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเพิ่มขึ้น 35,659 ล้านบาท
3. สำหรับวงเงินสินเชื่อภายในประเทศที่เป็นสัดส่วนต่อ GDP นั้น เพิ่มขึ้นจาก 1.4373 ในเดือนตุลาคม 2539 เป็น 1.4378 ในเดือนพฤศจิกายน 2539 ซึ่งจะเห็นได้ว่าอัตราเพิ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง และแสดงว่าเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีต่อการลดแรงกดดันต่อการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและเงินเฟ้อ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 18 มีนาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานข้อมูลตัวเลขและสถานการณ์ดุลบัญชีเดินสะพัดและเงินเฟ้อ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. ภาวะเงินเฟ้อ ดรรชนีราคาขายปลีกของเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบจุดต่อจุดหรือเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน คือ เดือนกุมภาพันธ์ 2539 ร้อยละ 7.4 ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ 2540 คือร้อยละ 4.3 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับดรรชนีราคาขายปลีกของเดือนมกราคม 2540 ส่วนดรรชนีราคาขายส่งก็มีแนวโน้มเช่นเดียวกัน คือในเดือนกุมภาพันธ์ 2540 ได้ลดลงเหลือร้อยละ 1.8 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2539 ร้อยละ 5.9 แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์เงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงอย่างชัดเจน
2. สำหรับเรื่องดุลการค้านั้น ในเดือนธันวาคม 2539 ขาดดุลการค้า 22,300 ล้านบาท เมื่อรวมตลอดทั้งปี 2539 ปรากฏว่าขาดดุลการค้ารวม 418,300 ล้านบาท เทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งขาดดุลการค้ารวม 373,796 ล้านบาท ดังนั้น มูลค่าการขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 44,054 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.91 เมื่อเทียบกับการขาดดุลการค้าทั้งปีในปี 2538
ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัด ปรากฏว่าสถานการณ์ดีขึ้นโดยลำดับ กล่าวคือ ในเดือนธันวาคม 2539 ขาดดุลประมาณ 19,100 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2539 ที่ขาดดุล 21,700 ล้านบาท เมื่อพิจารณาทั้งปีปรากฏว่าดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเท่ากับ 373,300 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2538 ซึ่งเท่ากับ 337,641 ล้านบาทแล้ว ปรากฏว่าดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเพิ่มขึ้น 35,659 ล้านบาท
3. สำหรับวงเงินสินเชื่อภายในประเทศที่เป็นสัดส่วนต่อ GDP นั้น เพิ่มขึ้นจาก 1.4373 ในเดือนตุลาคม 2539 เป็น 1.4378 ในเดือนพฤศจิกายน 2539 ซึ่งจะเห็นได้ว่าอัตราเพิ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง และแสดงว่าเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีต่อการลดแรงกดดันต่อการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและเงินเฟ้อ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 18 มีนาคม 2540--