ทำเนียบรัฐบาล--13 ธ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความใน พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิ จารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยมีสาระสำคัญ คือ เนื่อง จากภาวะธุรกิจหลักทรัพย์ในปัจจุบันควรที่ทางการจะเปิดโอกาสให้บริษัทหลักทรัพย์ที่มีใบอนุญาตประกอบ ธุรกิจหลักทรัพย์ไม่ครบทั้ง 4 ประเภทหลัก ได้แก่ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ยื่นขอใบอนุญาตเพิ่มเติมได้ ด้วยเหตุผล หลักการ และเงื่อนไขในการอนุญาต ดังนี้
1. เหตุผลในการให้ใบอนุญาตเพิ่มเติม
1.1 ปัจจุบันมีการผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อให้การประกอบธุรกิจมีลักษณะเสรียิ่งขึ้น และสนับสนุนการแข่งขันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ตลอดจนสนองความต้องการของประชาชนให้มีทางเลือกใน การใช้บริการได้หลากหลายขึ้น นโยบายเกี่ยวกับธุรกิจหลักทรัพย์ก็ควรจะเป็นไปในทางเดียวกัน
1.2 การเปิดโอกาสให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถประกอบธุรกิจหลักได้ครบทุกประเภทจะทำ ให้การแข่งขันระหว่างบริษัทหลักทรัพย์มีความสมบูรณ์ ลดความเหลื่อมล้ำและการเสียเปรียบในการ ประกอบธุรกิจประกอบกับกระทรวงการคลังได้อนุญาตให้สถาบันการเงินอื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ หลักทรัพย์บางประเภทได้แล้ว จึงควรอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์ที่มีใบอนุญาตไม่ครบทั้ง 4 ประเภท ได้รับ ใบอนุญาตให้ครบ
1.3ขณะนี้ทางการมีนโยบายที่จะแยกการประกอบธุรกิจเงินทุนและการประกอบธุรกิจ หลักทรัพย์ออกจากกัน การอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถประกอบธุรกิจหลักได้ครบทุกประเภทจะ ช่วยสนับสนุนนโยบายการแยกธุรกิจดังกล่าว
2. หลักการและเงื่อนไขในการให้ใบอนุญาตเพิ่มเติม
2.1 บริษัทหลักทรัพย์ที่อาจขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เพิ่มเติมได้จะต้องเป็น บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ 4 ประเภทหลักข้างต้นไม่ครบ ซึ่งจะรวมถึงบริษัท หลักทรัพย์ที่จะตั้งขึ้นใหม่ เนื่องจากการแยกการประกอบธุรกิจเงินทุนและการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ออกจากกันแต่ไม่รวมถึงบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม และสถาบันการเงินที่ จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายอื่น ๆเช่น บริษัทเงินทุนหรือธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบ ธุรกิจหลักทรัพย์
2.2 บริษัทหลักทรัพย์ตามข้อ 2.1 ต้องไม่มีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งรายใดเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ถือหุ้น ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 99 ของทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้ว หรือไม่ถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์อื่น ตามสัดส่วนข้างต้น ในวันที่พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ใช้บังคับ หรือไม่ เป็นบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งบริษัทที่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวข้างต้นจัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อแยกการประกอบธุรกิจ เงินทุนและการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ออกจากกัน นอกจากนี้ ต้องไม่มีฐานะการเงินหรือผลการดำเนิน งานทีคณะกรรมการก.ล.ต. ประสบความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือหยุดประกอบกิจการอันเป็นทางค้า ปกติ
2.3 ประเภทธุรกิจหลักทรัพย์ที่จะขอรับใบอนุญาตอาจเป็นประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือหลาย ประเภทใน 4 ประเภทหลักข้างต้นที่บริษัทหลักทรัพย์ตามข้อ 2.1 ยังมีไม่ครบ
2.4ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ประเภท การเป็นนายหน้าซื้อขาย หลักทรัพย์หรือการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ประเภทละ 100 ล้านบาท และประเภทการค้าหลักทรัพย์ หรือ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน ประเภทละ 50 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จะต้องชำระค่าธรรมเนียมทั้ง หมดทันทีเมื่อได้รับใบอนุญาต
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 12 ธันวาคม 2538--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความใน พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิ จารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยมีสาระสำคัญ คือ เนื่อง จากภาวะธุรกิจหลักทรัพย์ในปัจจุบันควรที่ทางการจะเปิดโอกาสให้บริษัทหลักทรัพย์ที่มีใบอนุญาตประกอบ ธุรกิจหลักทรัพย์ไม่ครบทั้ง 4 ประเภทหลัก ได้แก่ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ยื่นขอใบอนุญาตเพิ่มเติมได้ ด้วยเหตุผล หลักการ และเงื่อนไขในการอนุญาต ดังนี้
1. เหตุผลในการให้ใบอนุญาตเพิ่มเติม
1.1 ปัจจุบันมีการผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อให้การประกอบธุรกิจมีลักษณะเสรียิ่งขึ้น และสนับสนุนการแข่งขันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ตลอดจนสนองความต้องการของประชาชนให้มีทางเลือกใน การใช้บริการได้หลากหลายขึ้น นโยบายเกี่ยวกับธุรกิจหลักทรัพย์ก็ควรจะเป็นไปในทางเดียวกัน
1.2 การเปิดโอกาสให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถประกอบธุรกิจหลักได้ครบทุกประเภทจะทำ ให้การแข่งขันระหว่างบริษัทหลักทรัพย์มีความสมบูรณ์ ลดความเหลื่อมล้ำและการเสียเปรียบในการ ประกอบธุรกิจประกอบกับกระทรวงการคลังได้อนุญาตให้สถาบันการเงินอื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ หลักทรัพย์บางประเภทได้แล้ว จึงควรอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์ที่มีใบอนุญาตไม่ครบทั้ง 4 ประเภท ได้รับ ใบอนุญาตให้ครบ
1.3ขณะนี้ทางการมีนโยบายที่จะแยกการประกอบธุรกิจเงินทุนและการประกอบธุรกิจ หลักทรัพย์ออกจากกัน การอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถประกอบธุรกิจหลักได้ครบทุกประเภทจะ ช่วยสนับสนุนนโยบายการแยกธุรกิจดังกล่าว
2. หลักการและเงื่อนไขในการให้ใบอนุญาตเพิ่มเติม
2.1 บริษัทหลักทรัพย์ที่อาจขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เพิ่มเติมได้จะต้องเป็น บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ 4 ประเภทหลักข้างต้นไม่ครบ ซึ่งจะรวมถึงบริษัท หลักทรัพย์ที่จะตั้งขึ้นใหม่ เนื่องจากการแยกการประกอบธุรกิจเงินทุนและการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ออกจากกันแต่ไม่รวมถึงบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม และสถาบันการเงินที่ จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายอื่น ๆเช่น บริษัทเงินทุนหรือธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบ ธุรกิจหลักทรัพย์
2.2 บริษัทหลักทรัพย์ตามข้อ 2.1 ต้องไม่มีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งรายใดเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ถือหุ้น ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 99 ของทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้ว หรือไม่ถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์อื่น ตามสัดส่วนข้างต้น ในวันที่พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ใช้บังคับ หรือไม่ เป็นบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งบริษัทที่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวข้างต้นจัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อแยกการประกอบธุรกิจ เงินทุนและการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ออกจากกัน นอกจากนี้ ต้องไม่มีฐานะการเงินหรือผลการดำเนิน งานทีคณะกรรมการก.ล.ต. ประสบความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือหยุดประกอบกิจการอันเป็นทางค้า ปกติ
2.3 ประเภทธุรกิจหลักทรัพย์ที่จะขอรับใบอนุญาตอาจเป็นประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือหลาย ประเภทใน 4 ประเภทหลักข้างต้นที่บริษัทหลักทรัพย์ตามข้อ 2.1 ยังมีไม่ครบ
2.4ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ประเภท การเป็นนายหน้าซื้อขาย หลักทรัพย์หรือการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ประเภทละ 100 ล้านบาท และประเภทการค้าหลักทรัพย์ หรือ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน ประเภทละ 50 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จะต้องชำระค่าธรรมเนียมทั้ง หมดทันทีเมื่อได้รับใบอนุญาต
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 12 ธันวาคม 2538--