คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน สรุปสาระสำคัญดังนี้
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาน้ำมันในต่างประเทศ (รัฐบาลปล่อยลอยตัวราคาเบนซินเมื่อ 27 ตุลาคม 47) ส่งผลให้ราคาขายปลีกเบนซินปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2548 จนถึงวันนี้ราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินมีการปรับขึ้นไปแล้ว 4 ครั้ง (26 ม.ค., 15, 18 และ 23 ก.พ.) และพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) จะปรับขึ้นอีก 1 ครั้งรวม 5 ครั้ง ๆ ละ 0.40 บาท/ลิตร รวม 2.00 บาท/ลิตร ทำให้ราคาเบนซิน 95 และ 91 อยู่ที่ 21.29 บาท/ลิตร และ 20.49 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินในต่างประเทศ ราคาน้ำมันเบนซินของไทยยังมีราคาต่ำกว่ามาก เช่น กัมพูชา ลาว สิงค์โปร์ และฮ่องกง อยู่ที่ 29.71, 30.33, 37.69 และ 62.56 บาท/ลิตร
อย่างไรก็ตาม ประชาชนมีทางเลือกใช้ Gasohol ทดแทนเบนซิน ซึ่งได้มีการปรับราคา Gasohol ให้ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 1.50 บาท/ลิตร ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา (กำหนดโปรโมชั่น 1 เดือน ระหว่าง 15 ก.พ. - 15 มี.ค.48) ส่งผลให้ยอดจำหน่าย Gasohol ปรับสูงขึ้นมากถึงร้อยละ 184 เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายก่อนปรับราคาจาก 196,701 ลิตร/วัน เป็น 558,716 ลิตร/วัน โดยปัจจุบันราคา Gasohol อยู่ที่ 19.79 บาท/ลิตรและ มีสถานีบริการของปตท. บางจากและเชลล์ให้บริการจำนวน 620 สถานี ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 356 สถานี (คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนสถานีทั้งหมดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) และต่างจังหวัดมีจำนวน 264 สถานี
ส่วนราคาน้ำมันดีเซล รัฐยังมีนโยบายตรึงราคาเพื่อลดผลกระทบโดยรวมต่อประชาชน แม้จะมีการปรับเพดานขึ้น 0.60 บาท/ลิตร เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 48 จากราคาที่ตรึงอยู่ 14.59 เป็น 15.19 บาท/ลิตร แต่รัฐยังมีภาระชดเชยอยู่ที่ - 4 บาท/ลิตร หรือ 200 ล้านบาท/วัน โดยราคาน้ำมันดีเซลที่ควรจะเป็นอยู่ที่ 19.30 บาท/ลิตร
ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ มียอดชดเชยสะสมทั้งสิ้น - 70,000 ล้านบาท โดยมียอดสะสมดีเซล - 63,000 ล้านบาท และเบนซิน -7,000 ล้านบาท (10 มกราคม 2547 - 28 กุมภาพันธ์ 2548 รวม 416 วัน)
คาดว่าราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง จาก Hedge Funds เข้าซื้อสะสมอยู่ที่ 88,592 สัญญาหรือประมาณ 90 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 จากสัปดาห์ก่อน ประกอบกับความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอินเดียและอินโดนีเซีย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 มีนาคม 2548--จบ--
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาน้ำมันในต่างประเทศ (รัฐบาลปล่อยลอยตัวราคาเบนซินเมื่อ 27 ตุลาคม 47) ส่งผลให้ราคาขายปลีกเบนซินปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2548 จนถึงวันนี้ราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินมีการปรับขึ้นไปแล้ว 4 ครั้ง (26 ม.ค., 15, 18 และ 23 ก.พ.) และพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) จะปรับขึ้นอีก 1 ครั้งรวม 5 ครั้ง ๆ ละ 0.40 บาท/ลิตร รวม 2.00 บาท/ลิตร ทำให้ราคาเบนซิน 95 และ 91 อยู่ที่ 21.29 บาท/ลิตร และ 20.49 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินในต่างประเทศ ราคาน้ำมันเบนซินของไทยยังมีราคาต่ำกว่ามาก เช่น กัมพูชา ลาว สิงค์โปร์ และฮ่องกง อยู่ที่ 29.71, 30.33, 37.69 และ 62.56 บาท/ลิตร
อย่างไรก็ตาม ประชาชนมีทางเลือกใช้ Gasohol ทดแทนเบนซิน ซึ่งได้มีการปรับราคา Gasohol ให้ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 1.50 บาท/ลิตร ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา (กำหนดโปรโมชั่น 1 เดือน ระหว่าง 15 ก.พ. - 15 มี.ค.48) ส่งผลให้ยอดจำหน่าย Gasohol ปรับสูงขึ้นมากถึงร้อยละ 184 เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายก่อนปรับราคาจาก 196,701 ลิตร/วัน เป็น 558,716 ลิตร/วัน โดยปัจจุบันราคา Gasohol อยู่ที่ 19.79 บาท/ลิตรและ มีสถานีบริการของปตท. บางจากและเชลล์ให้บริการจำนวน 620 สถานี ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 356 สถานี (คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนสถานีทั้งหมดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) และต่างจังหวัดมีจำนวน 264 สถานี
ส่วนราคาน้ำมันดีเซล รัฐยังมีนโยบายตรึงราคาเพื่อลดผลกระทบโดยรวมต่อประชาชน แม้จะมีการปรับเพดานขึ้น 0.60 บาท/ลิตร เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 48 จากราคาที่ตรึงอยู่ 14.59 เป็น 15.19 บาท/ลิตร แต่รัฐยังมีภาระชดเชยอยู่ที่ - 4 บาท/ลิตร หรือ 200 ล้านบาท/วัน โดยราคาน้ำมันดีเซลที่ควรจะเป็นอยู่ที่ 19.30 บาท/ลิตร
ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ มียอดชดเชยสะสมทั้งสิ้น - 70,000 ล้านบาท โดยมียอดสะสมดีเซล - 63,000 ล้านบาท และเบนซิน -7,000 ล้านบาท (10 มกราคม 2547 - 28 กุมภาพันธ์ 2548 รวม 416 วัน)
คาดว่าราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง จาก Hedge Funds เข้าซื้อสะสมอยู่ที่ 88,592 สัญญาหรือประมาณ 90 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 จากสัปดาห์ก่อน ประกอบกับความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอินเดียและอินโดนีเซีย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 มีนาคม 2548--จบ--