เรื่อง สรุปผลการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 2/2557
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 2/2557 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
สศช. รายงานว่า คณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค (Economic Committee : EC) จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 2/2557 ในระหว่างวันที่ 17 – 18 สิงหาคม 2557 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี สศช. เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งผลการประชุมดังกล่าว มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดทำรายงานเศรษฐกิจเอเปคประจำปี 2557 กำหนดหัวข้อเรื่องแนวปฏิบัติที่ดีในการกำหนดกฎระเบียบ (Good Regulatory Practice : GRP) เป็นหัวข้อการจัดทำรายงาน ปี 2558 เป็นหัวข้อเกี่ยวกับการปฏิรูปโครงสร้างและนวัตกรรม (Structural Reform and Innovation) ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าการส่งเสริมนวัตกรรมจะเป็นกุญแจหลักที่จะทำให้ประเทศกำลังพัฒนาก้าวพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมอัตราการขยายตัวของผลิตภาพในระยะยาวของประเทศที่พัฒนาแล้ว ยุทธศาสตร์การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ การหารือระดับนโยบายเรื่องกับดักรายได้ปานกลาง
ในการนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญที่จะต้องส่งเสริมการพัฒนาอย่างมีนวัตกรรมในการปฏิรูปเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้เป้าหมายการขับเคลื่อนให้ประเทศสมาชิกหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางโดยเร็ว ในปัจจุบันการผลักดันให้เป็นรูปธรรมยังไม่มีความคืบหน้าในส่วนของการดำเนินงาน สศช. ได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในการจัดทำรายงานนโยบายเศรษฐกิจเอเปคประจำปี 2557 แล้วเสร็จ และได้ส่งให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปครวบรวมต่อไปแล้ว และข้อเสนอโครงการเบื้องต้นเรื่อง “ANSSR : Developing Regulatory Impact Analysis (RIA) Guideline as an Anti-corruption Tool” โดยมีประเทศเม็กซิโกและมาเลเซียเป็น Co-sponsors ซึ่งผู้แทน สศช. ได้นำเสนอในที่ประชุมดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปคได้อนุมัติในหลักการแล้ว และ สศช. จะดำเนินการขอรับการอุดหนุนงบประมาณภายใต้การปฏิรูปโครงสร้างแบบใหม่ต่อไป ทั้งนี้ ได้มีหนังสือถึงหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้ว และกระทรวงยุติธรรมได้ตอบรับที่จะเป็นผู้ควบคุมดูแลโครงการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 ตุลาคม 2557--