ทำเนียบรัฐบาล--12 ธ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศประจำปี 2539 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1.การประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศประจำปี 2539 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 51 ระหว่างวันที่ 1 - 3 ตุลาคม 2539 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศชิลี ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ประธานได้รายงานสภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวม ตลอดจนความคืบหน้าในการดำเนินการของธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา และปลัดกระทรวงการคลังในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยและผู้ว่าการสำรองในธนาคารโลก ได้กล่าวสนับสนุนการดำเนินงานของธนาคารโลกและกองทุนฯ ในการแก้ไขปัญหาความยากจน และยืนยันการสนับสนุนของไทยในแนวทางการแก้ปัญหาภาระหนี้ของประเทศยากจนที่มีหนี้สินเกินตัว (Heavily Indebted Poor Countries - HIPC) และได้กล่าวสนับสนุนการนำมาตรฐานการกระจายข้อมูลเฉพาะ (Special Data Dissemination Standard - SDDS) มาใช้ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว และสนับสนุนแนวทางการกู้ยืมระบบใหม่ (New Arrangements to Borrow - NAB) นอกจากนั้น ได้เรียกร้องให้กองทุนฯ พิจารณาทบทวนการจัดสรรโควต้าครั้งที่ 11 และการจัดสรรสิทธิพิเศษถอนเงิน (Special Drawing Rights - SDRs) ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วต่อไป
2. การประชุมกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA Group) ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างประเทศสมาชิกของธนาคารโลกและกองทุนฯ จำนวน 11 ประเทศ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย สาธารณรัฐสังคมนิยมสหภาพพม่า สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิจิ เนปาล ลาว ตองกา และกัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านต่าง ๆ และร่วมกันกำหนดนโยบายของกลุ่มต่อการดำเนินงานของธนาคารโลกและกองทุนฯ ได้ประชุมเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2539 โดยมีผู้แทนของประเทศเนปาล ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบในแผนปฏิบัติการของธนาคารโลกและกองทุนฯในการแก้ไขปัญหาภาระหนี้ของประเทศยากจนที่มีหนี้สินเกินตัว และให้การสนับสนุนต่อข้อเรียกร้องไปยังประเทศเจ้าหนี้และประเทศพัฒนาแล้ว ให้เพิ่มการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศเหล่านี้มากขึ้น เพื่อให้ประเทศเหล่านี้หลุดพ้นจากภาระหนี้สินเกินตัวในระดับที่ขาดความสามารถในการกู้เงิน
3. คณะกรรมการชั่วคราว (Interim Committee) ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรสำหรับพิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับระบบการเงินของโลก และได้มีการประชุมครั้งที่ 47 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2539 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและการค้าระหว่างประเทศของประเทศเบลเยี่ยม ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม มีสาระสำคัญประการหนึ่งคือ มีมติเห็นชอบในแผนปฏิบัติการของกองทุนฯ และธนาคารโลกในการช่วยลดภาระหนี้ของประเทศยากจนที่มีหนี้สินเกินตัว (HIPC) และอนุมัติการโอนเงินบางส่วนของเงินสำรองของกองทุน ESAF เพื่อช่วยลดภาระหนี้ของประเทศเหล่านี้ และคณะกรรมการฯ กำหนดให้จัดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 28 เมษายน 2540 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา
4. การประชุมคณะกรรมการพัฒนาการ (Development Committee) ซึ่งเป็นการประชุมที่กองทุนฯ และธนาคารโลกร่วมกันตั้งขึ้นให้เป็นองค์กรสำหรับพิจารณากำหนดนโยบายและมาตรการต่าง ๆ เพื่อเสนอต่อธนาคารโลก และได้มีการประชุมครั้งที่ 53 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2539 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและการค้าระหว่างประเทศของประเทศโมรอคโคเป็นประธานในที่ประชุม และหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมในฐานะสมาชิกตัวแทนของกลุ่ม SEAGroup มีสาระสำคัญคือ คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบให้เรียกร้องต่อประเทศเจ้าหนี้ให้ดำเนินการลดภาระหนี้ตามหลักการที่กำหนดไว้เมื่อคราวประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่แล้วเมื่อเดือนเมษายน 2539 นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ สนับสนุนการบริจาคเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจัดสรรจากเงินได้สุทธิของธนาคาร และเห็นชอบให้ IDA เป็นผู้บริหารกองทุนพหุภาคี(HIPC Trust Fund) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการนี้ และยังรับทราบถึงการขยายการดำเนินงานของสถาบันประกันการลงทุนแบบพหุภาคี (MIGA) และรับทราบถึงความต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้นของ MIGA ซึ่งประเด็นนี้จะนำมาพิจารณาในการประชุมครั้งหน้า ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 เมษายน 2540 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา
5. หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้พบปะกับผู้ว่าการ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีหรือผู้ว่าการธนาคารกลาง และปลัดกระทรวงการคลังของประเทศต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อหารือในประเด็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และหัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้ลงนามในอนุสัญญาการจัดตั้ง MIGA ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของการเข้าเป็นสมาชิกของสถาบันประกันการลงทุนแบบพหุภาคี (MIGA) เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2539 ทำให้ไทยเป็นสมาชิกลำดับที่ 157 ของ MIGA ซึ่งเป็นสถาบันการเงินระหว่างประเทศในกลุ่มธนาคารโลกที่จัดตั้งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้ความคุ้มครองผู้ลงทุนต่างประเทศ โดยประกันความเสี่ยงจากการลงทุนในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการพาณิชย์ และเน้นประกันความเสี่ยงทางการเมืองซึ่งเมื่อไทยเป็นสมาชิกของ MIGA โดยสมบูรณ์ หลักจากการให้สัตยาบันและชำระค่าหุ้นแล้ว ผู้ลงทุนชาวไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศที่เป็นสมาชิกของ MIGA ก็ได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 12 ธันวาคม 2539--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศประจำปี 2539 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1.การประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศประจำปี 2539 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 51 ระหว่างวันที่ 1 - 3 ตุลาคม 2539 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศชิลี ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ประธานได้รายงานสภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวม ตลอดจนความคืบหน้าในการดำเนินการของธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา และปลัดกระทรวงการคลังในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยและผู้ว่าการสำรองในธนาคารโลก ได้กล่าวสนับสนุนการดำเนินงานของธนาคารโลกและกองทุนฯ ในการแก้ไขปัญหาความยากจน และยืนยันการสนับสนุนของไทยในแนวทางการแก้ปัญหาภาระหนี้ของประเทศยากจนที่มีหนี้สินเกินตัว (Heavily Indebted Poor Countries - HIPC) และได้กล่าวสนับสนุนการนำมาตรฐานการกระจายข้อมูลเฉพาะ (Special Data Dissemination Standard - SDDS) มาใช้ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว และสนับสนุนแนวทางการกู้ยืมระบบใหม่ (New Arrangements to Borrow - NAB) นอกจากนั้น ได้เรียกร้องให้กองทุนฯ พิจารณาทบทวนการจัดสรรโควต้าครั้งที่ 11 และการจัดสรรสิทธิพิเศษถอนเงิน (Special Drawing Rights - SDRs) ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วต่อไป
2. การประชุมกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA Group) ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างประเทศสมาชิกของธนาคารโลกและกองทุนฯ จำนวน 11 ประเทศ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย สาธารณรัฐสังคมนิยมสหภาพพม่า สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิจิ เนปาล ลาว ตองกา และกัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านต่าง ๆ และร่วมกันกำหนดนโยบายของกลุ่มต่อการดำเนินงานของธนาคารโลกและกองทุนฯ ได้ประชุมเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2539 โดยมีผู้แทนของประเทศเนปาล ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบในแผนปฏิบัติการของธนาคารโลกและกองทุนฯในการแก้ไขปัญหาภาระหนี้ของประเทศยากจนที่มีหนี้สินเกินตัว และให้การสนับสนุนต่อข้อเรียกร้องไปยังประเทศเจ้าหนี้และประเทศพัฒนาแล้ว ให้เพิ่มการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศเหล่านี้มากขึ้น เพื่อให้ประเทศเหล่านี้หลุดพ้นจากภาระหนี้สินเกินตัวในระดับที่ขาดความสามารถในการกู้เงิน
3. คณะกรรมการชั่วคราว (Interim Committee) ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรสำหรับพิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับระบบการเงินของโลก และได้มีการประชุมครั้งที่ 47 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2539 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและการค้าระหว่างประเทศของประเทศเบลเยี่ยม ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม มีสาระสำคัญประการหนึ่งคือ มีมติเห็นชอบในแผนปฏิบัติการของกองทุนฯ และธนาคารโลกในการช่วยลดภาระหนี้ของประเทศยากจนที่มีหนี้สินเกินตัว (HIPC) และอนุมัติการโอนเงินบางส่วนของเงินสำรองของกองทุน ESAF เพื่อช่วยลดภาระหนี้ของประเทศเหล่านี้ และคณะกรรมการฯ กำหนดให้จัดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 28 เมษายน 2540 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา
4. การประชุมคณะกรรมการพัฒนาการ (Development Committee) ซึ่งเป็นการประชุมที่กองทุนฯ และธนาคารโลกร่วมกันตั้งขึ้นให้เป็นองค์กรสำหรับพิจารณากำหนดนโยบายและมาตรการต่าง ๆ เพื่อเสนอต่อธนาคารโลก และได้มีการประชุมครั้งที่ 53 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2539 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและการค้าระหว่างประเทศของประเทศโมรอคโคเป็นประธานในที่ประชุม และหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมในฐานะสมาชิกตัวแทนของกลุ่ม SEAGroup มีสาระสำคัญคือ คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบให้เรียกร้องต่อประเทศเจ้าหนี้ให้ดำเนินการลดภาระหนี้ตามหลักการที่กำหนดไว้เมื่อคราวประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่แล้วเมื่อเดือนเมษายน 2539 นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ สนับสนุนการบริจาคเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจัดสรรจากเงินได้สุทธิของธนาคาร และเห็นชอบให้ IDA เป็นผู้บริหารกองทุนพหุภาคี(HIPC Trust Fund) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการนี้ และยังรับทราบถึงการขยายการดำเนินงานของสถาบันประกันการลงทุนแบบพหุภาคี (MIGA) และรับทราบถึงความต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้นของ MIGA ซึ่งประเด็นนี้จะนำมาพิจารณาในการประชุมครั้งหน้า ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 เมษายน 2540 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา
5. หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้พบปะกับผู้ว่าการ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีหรือผู้ว่าการธนาคารกลาง และปลัดกระทรวงการคลังของประเทศต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อหารือในประเด็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และหัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้ลงนามในอนุสัญญาการจัดตั้ง MIGA ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของการเข้าเป็นสมาชิกของสถาบันประกันการลงทุนแบบพหุภาคี (MIGA) เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2539 ทำให้ไทยเป็นสมาชิกลำดับที่ 157 ของ MIGA ซึ่งเป็นสถาบันการเงินระหว่างประเทศในกลุ่มธนาคารโลกที่จัดตั้งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้ความคุ้มครองผู้ลงทุนต่างประเทศ โดยประกันความเสี่ยงจากการลงทุนในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการพาณิชย์ และเน้นประกันความเสี่ยงทางการเมืองซึ่งเมื่อไทยเป็นสมาชิกของ MIGA โดยสมบูรณ์ หลักจากการให้สัตยาบันและชำระค่าหุ้นแล้ว ผู้ลงทุนชาวไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศที่เป็นสมาชิกของ MIGA ก็ได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 12 ธันวาคม 2539--